ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

‘ดี เน็ทเวิร์ค’-‘เอเชีย สุพรีม’เขย่าตลาดปลายปี เข็นสินค้าใหม่สู้ศึก/ขยายสาขาเพิ่มเสริมจุดแข็ง







dnet (Mobile)

 


จับทิศกลยุทธ์พิชิตยอด “ดี เน็ทเวิร์ค-เอเชีย สุพรีม”….ด้าน “ดี เน็ทเวิร์ค” ปรับทัพบุกตลาดคนรักสุขภาพ เปิดตัว “ดี-กลูแคน” เสริมความแกร่งธุรกิจ...ลั่นเป้าขอสร้างยอดขาย 100,000 กล่องต่อเดือน ล่าสุดเปิดศูนย์ใหม่แห่งที่ 3 จังหวัดเพชรบูรณ์ แย้มเป้าสิ้นปี 1 พันล้านยังเหมือนเดิม...ส่วน “เอเชีย สุพรีม” ชูธงสินค้าใหม่นำทัพปลายปี “I-Cally” เชื่อจะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายแน่นอน แย้มเดือน ธ.ค. เตรียมพบสินค้าใหม่สกินแคร์จากประเทศเกาหลี...ด้าน “อ.สุธีร์” ยอมรับสิ้นปีขอปรับเป้าลดเหลือ 200 ล้าน


ปล่อยยุทธศาสตร์ช่วงปลายปีอีกหนึ่งหมัดเด็ดสำหรับ “บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด” ที่ออกมาเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจด้วยการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง “ดี-กลูแคน” ออกมารับเทรนด์ ของตลาดสุขภาพที่กำลังมาแรงในขณะนี้...โดยทางด้าน “สาคร ใสกมล” ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด ได้เผยว่า ปัจจุบันนี้


คนรักสุขภาพเริ่มมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด และยังถือเป็นตลาดที่ใหญ่อีกด้วยในปัจจุบัน


และจากอัตราการเติบโตของตลาดสุขภาพที่มีมากขึ้นนี่เอง ทำให้ดี เน็ทเวิร์ค ได้เล็งเห็นโอกาสที่จะทำตลาดดังกล่าว ซึ่งล่าสุดได้มีการส่งสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดเครือข่ายภายใต้ชื่อว่า “ดี-กลูแคน” โดยมีความโดดเด่นที่เป็นผลิตภัณฑ์ เบต้า-กลูแคน ผนวกกับเอ็นไซม์ชั้นเลิศ จากเห็ดชวียองซ์ ที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเสริมภูมิคุ้มกัน มาในรูปแบบผงชงดื่ม


“ดี-กลูแคน ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูดซึมได้ง่าย มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นลิขสิทธิ์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกเหนือจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบต้า-กลูแคนและเอ็นไซม์แล้ว ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ยังมีการเพิ่มสารอาหารชั้นยอดอีก 5 - 6 ชนิดด้วยกัน”


นายสาคร กล่าวเสริมอีกว่า ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้มีการวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ดี-กลูแคน” เมื่อ


2 ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ติดที่การขอการอนุมัติจากทางสำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา จนในที่สุดก็ได้รับอนุญาต ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้ ทางบริษัทฯ คาดหวังว่า น่าที่จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มาแรง และสามารถไต่อันดับติด 1 ใน 3 สินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของบริษัทเช่นกัน


ขณะนี้ ดี เน็ทเวิร์ค ได้มีการทดลองเปิดตลาดผลิตภัณฑ์ “ดี-กลูแคน” ไปได้ระยะหนึ่ง ผลปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากสมาชิกอย่างล้นหลาม โดยสามารถจำหน่ายสินค้ากว่า 5,000 กล่อง ภายในระยะเวลาเพียง 10 วัน ซึ่งการที่ผลิตภัณฑ์ “ดี-กลูแคน” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจว่า สินค้าตัวนี้จะสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 80,000 - 100,000 กล่องต่อเดือนแน่นอน


...ส่วนอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญของค่าย “ดี เน็ทเวิร์ค” ที่นอกเหนือจากการเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสมาชิกแล้ว “ดี เน็ทเวิร์ค” ยังได้มีการเปิดศูนย์สาขาเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยสาขาดังกล่าวถือเป็นสาขาที่ 3 ต่อจากสาขามีนบุรี และสาขาสาทร พร้อมกันนี้ ทางบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่และประเทศกัมพูชาเป็นสาขาต่อไปอีกด้วย


“การที่บริษัทฯ ตัดสินใจเปิดสาขาเพชรบูรณ์ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีฐานผู้บริโภคผลิตภัณฑ์โกเรจินส์ เป็นจำนวนมาก และมีสถานีวิทยุอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ที่สำคัญ พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์โกเรจินส์ คือ คุณเขาทราย แกแล็คซี่ เป็นคนเพชรบูรณ์ ยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์โกเรจินส์ ได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันเปิดสาขาที่ผ่านมา มีสมาชิกกว่า 1,000 คนที่เดินทางมาร่วมงาน เรียกว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจทีเดียว”


นายสาคร เสริมต่ออีกว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ดี เน็ทเวิร์ค เปิดสาขาเพชรบูรณ์ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก และเป็นจังหวัดที่มีสมาชิกของ “ดี เน็ทเวิร์ค” ที่มีรายได้หลักแสนอยู่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ทั้งภาคเหนือและ อีสาน โดยคาดว่าสาขาเพชรบูรณ์ จะสามารถสร้างรายได้สูงถึง 10 ล้านบาทต่อเดือน


ส่วนในเดือนธันวาคมนี้ “ดี เน็ทเวิร์ค” จะทำการเปิดศูนย์สาขาอย่างเป็นทางการในประเทศกัมพูชา โดยในปัจจุบันมีการทดลองจำหน่ายสินค้าผ่านสาขากัมพูชาไปแล้ว และเริ่มมีการคิดคะแนนแล้ว เหลือเพียงแต่การจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเท่านั้น


สำหรับปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมานั้น นายสาคร กล่าวว่า มีผลกระทบต่อบริษัทบ้างแต่ไม่มาก โดยมีผลกระทบในพื้นที่ภาคตะวันออก แต่ทางบริษัทฯ คาดว่าหลังน้ำลดยอดขายจะดีดกลับมาเหมือนเคย แต่ในทางกลับกันยอดขายในภาคอีสานของบริษัทฯ กลับเติบโตขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของ “ดี เน็ทเวิร์ค” ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด โดยคาดว่าสิ้นปียอดขายจะแตะหลัก 1,000 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายในปัจจุบันหลังจากผ่านมา 9 เดือนกว่า ๆ ทางบริษัทสามารถสร้างยอดขายไปแล้วกว่า 800 ล้านบาท


“เราเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในการทำตลาดขายตรง เนื่องจากเรานำเอาหลักการตลาดมาเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจขายตรง เอาการตลาดมาผนวกกับ MLM อย่างลงตัว ถือเป็นนวัตกรรมทางการตลาดใหม่ ซึ่งขณะนี้ “ดี เน็ทเวิร์ค” สามารถยกระดับธุรกิจสู่มวลชนได้สมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ คนทั่วประเทศน่าที่จะรู้จักธุรกิจ ดี เน็ทเวิร์ค มากขึ้นอย่างแน่นอน”


...เช่นเดียวกับทางด้าน “บริษัท เอเชีย สุพรีม จำกัด” ภายใต้การนำทัพของ “อาจารย์สุธีร์ รัตนนาคินทร์” ประธานกรรมการ ก็ได้ออกมาเสริมทัพหน้าช่วงโค้งสุดท้ายของปลายปีนี้ ด้วยการเปิดตัวสินค้าใหม่ชื่อว่า ผลิต ภัณฑ์เสริมอาหาร “I-Cally” โดยทางด้านประธานบริษัทเอเชีย สุพรีม ได้มีความคาดหวังว่า สินค้าตัวใหม่นี้จะเป็นสินค้าตัวเด่นที่ขายดีในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน


ซึ่งในช่วงการทำตลาดของสินค้าใหม่นี้ อาจารย์สุธีร์ เผยว่า ทางบริษัทฯ จะมีการสร้างแบรนด์สินค้า “I-Cally” ผ่านตามสื่อต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า “I-Cally” คืออะไร และมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างไรบ้าง รวมถึงการส่งเสริมการตลาดด้วยการออกไปโรดโชว์ตามภูมิภาคต่าง ๆ พร้อมกับสื่อทีวีที่บริษัทฯ มีอยู่ในขณะนี้ เป็นต้น


“วันนี้การที่เอเชีย สุพรีม จะออกสินค้าใหม่แต่ละตัวนั้น ต้องเป็นสินค้าที่สนองความต้องการของผู้บริโภคจริง ๆ ที่สำคัญต้องอยู่ในกระแสด้วย โดยสินค้า “I-Cally” ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่อยู่ในกระแสด้วยเช่นกัน”


อาจารย์สุธีร์ เผยต่ออีกว่า ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 1 รายการ ในกลุ่มของสกินแคร์ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งในทุก ๆ 3 เดือน เอเชีย สุพรีม จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อต้องการให้บริษัทมีสินค้าที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้


“การตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ เรียกได้ว่า เป็นการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างมากในเรื่องของสินค้าสำหรับธุรกิจขายตรง พร้อมกับเชื่อว่าในเรื่องของโปรโมชั่นที่บริษัทฯ ได้มีการทำควบคู่กับสินค้าใหม่นี้ น่าที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงส่งให้ “I-Cally” ได้รับการยอมรับและได้รับการตอบสนองที่ค่อนข้างดีอย่างแน่นอน”


ส่วนภาพรวมธุรกิจเอเชีย สุพรีม ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมานั้น อาจารย์สุธีร์ เผยว่า ภาพรวมธุรกิจของ เอเชีย สุพรีม ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าค่อนข้างเติบโตดีเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก แต่หากจะให้มองถึงการทำธุรกิจในอนาคตนับจากนี้ ต้องยอมรับว่าเหนื่อยแน่นอน เนื่องจากยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะมีปัจจัยลบอะไรมากระทบธุรกิจบ้าง


“ต้องบอกว่า ขณะนี้เอเชีย สุพรีม ถือว่าเดินทางมาได้ 70% ของเป้าหมายแล้ว ซึ่งสามารถประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของยอดขาย เป็นที่น่าพอใจ รวมถึงในเรื่องของฐานสมาชิก ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานสมาชิกอยู่ที่ 17,000 รหัส โดยคาดว่าสิ้นปีตัวเลขสมาชิกน่าที่จะแตะอยู่ที่ 2 หมื่นรหัสด้วยเช่นกัน”


สำหรับเป้าหมายยอดขายสิ้นปีนี้นั้น อาจารย์สุธีร์ กล่าวยอมรับว่า เป้าหมายที่เคยประกาศไว้ที่จะมียอดขายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 300 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับเป้าลงมาที่ประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนหนึ่งที่ปรับเป้าลง เป็นเพราะความล่าช้าในเรื่องของการออกสินค้าใหม่ในบางกลุ่มนั่นเอง


ซึ่งปัจจุบันนี้ตลาดหลักของเอเชีย สุพรีม ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ต่างจังหวัดประมาณ 80% ส่วนกรุงเทพฯ อยู่ที่ 20% ซึ่งภาคที่เอเชีย สุพรีม มีอัตราการเติบโตมากที่สุดอยู่ที่ภาคใต้ และกำลังมีแผนที่จะขยายตลาดไปในภาคเหนือ ส่วน


ปีหน้าคาดว่า จะขยายตลาดต่อไปในภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้ เอเชีย สุพรีม มีสาขาอยู่ทั้งสิ้น 3 สาขาด้วยกัน คือ หาดใหญ่ เชียงใหม่ พิษณุโลก พร้อมกับการขยายตลาดไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย ลาว พม่า กัมพูชา อีกด้วย


อาจารย์สุธีร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขณะนี้หลายคนอาจจะมีความกังวลใจในเรื่องของกำลังซื้อที่ถดถอย แต่ในทางกลับกัน บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในธุรกิจขายตรงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมองว่าในภาวะเศรษฐกิจที่แย่ แต่สำหรับธุรกิจขายตรงแล้วกลับเติบโตขึ้นสวนกระแส เห็นได้จากปัจจุบันมีการเปิดตัวของธุรกิจขายตรงน้องใหม่เกิดขึ้นเยอะมากมายนั่นเอง”


...นับได้ว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ เรื่องของสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่สำคัญของการทำธุรกิจเช่นเดียวกัน เพราะหากใครที่นำสินค้าออกมาโดนใจและถูกใจผู้บริโภคด้วยแล้ว เชื่อว่ายอดขายของแต่ละค่ายที่ตั้งไว้ก็น่าที่จะเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับด้วยเช่นกัน


 


 


 


Credit By : http://www.taladvikrao.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น