ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

‘รมิตา’เดินเครื่องเครือข่ายอาเซียน ลดเป้าสิ้นปี เหตุปัจจัยลบพ่นพิษรอบด้าน







Capture (Mobile)

 


“รมิตา” เผยธุรกิจ 6 ปีที่ผันผ่าน เจอทั้งวิกฤติและโอกาส...หลังปูพรมสาขาเพิ่ม แบรนด์เริ่มติดหู...บอสใหญ่ “ใจกล้า” คุยหลังเจาะตลาดเพื่อนบ้าน โอกาส & อุปสรรค เดินเคียงคู่ แต่ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายอาเซียนเต็มประตู...เชื่อมั่นปีหน้าหากเศรษฐกิจไทยและเทศในภาพรวมดี จะเหวี่ยงธุรกิจขายตรงดีตามอีกครั้ง...แย้มเป้าสิ้นปีขอแตะ 200 ล้าน


นายใจกล้า กาดำดวน รองประธานกรรมการ บริษัท รมิตา เฮลธ์แอนด์บิวตี้ จำกัด เผยว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่า ธุรกิจ “รมิตา” เจอทั้งอุปสรรคและปัญหาในการทำธุรกิจต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจมาได้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีที่ “รมิตา” มีการขยายสาขามากขึ้น จนทำให้หลายคนเริ่มรู้จักแบรนด์ “รมิตา” ล่าสุด ได้มีการขยายสาขาเพิ่มเป็น 20 สาขาด้วยกัน


“การเปิดสาขาของ “รมิตา” นับจากนี้ ตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องมีสาขาเกิดขึ้นอย่างน้อยประมาณ 3 - 5 สาขาต่อปี ขณะนี้ได้มีการพิจารณาที่จะเปิดสาขาเพิ่มอยู่เช่นเดียวกัน โดยพื้นที่สำคัญที่น่าสนใจในการขยายธุรกิจ นั่นก็คือ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศพม่าได้ โดยคาดว่าช่วงต้นปีหน้า น่าที่จะเปิดสาขาที่นั่นอย่างแน่นอน”


ประเทศพม่า ถือเป็นประเทศที่เพิ่งจะเปิดโซนนิ่งในการทำธุรกิจใหม่ จึงกลายเป็นประเทศที่น่าสนใจจากมุมมองของนักธุรกิจทั่วโลก ที่สำคัญคนพม่าเป็นคนที่มีเงิน แต่ยังไม่รู้ว่าจะนำเงินไปลงทุนทางด้านไหนบ้าง ซึ่งหลังจากที่ “รมิตา” ได้นำธุรกิจเข้าไปที่พม่า พบว่าคนพม่าค่อนข้างให้ความสนใจในธุรกิจ รมิตา กันพอสมควร และผลจากการสำรวจตลาดขายตรงในประเทศพม่า ธุรกิจขายตรงไทยยังมีไม่กี่บริษัทเท่านั้น ที่เข้าไปดำเนินการและโดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทต่างประเทศเท่านั้นที่เข้าไปลงทุน เหตุผลสำคัญที่ธุรกิจขายตรงในพม่าไม่น่าสนใจ อาจเป็นเพราะเรื่องของวัฒนธรรมของธุรกิจขายตรง ที่ยังไม่สามารถสอดรับกับคนพม่าเท่าที่ควร


ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ “รมิตา” ได้ปรับแนวทางของธุรกิจใหม่ เพื่อให้เข้ากับคนพม่า ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขในการจ่ายค่าคอมมิชชั่น เงื่อนไขเอกสารการสมัคร ที่จะทำให้คนพม่าสามารถทำธุรกิจของ รมิตา ได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะคนพม่าบางคนจะไม่มีเอกสารบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน จึงแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการถ่ายรูปและสแกนลายนิ้วมือแทน เพื่อให้ยืนยันว่า เป็นตัวจริงที่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิก ส่งผลให้เริ่มมีสมาชิกเข้ามาสู่ธุรกิจ รมิตา มากขึ้น


หลังจาก รมิตา อุ่นเครื่องในประเทศพม่าเป็นที่เรียบร้อย ก้าวต่อไป “รมิตา” มีแผนที่จะบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม ส่วนเป้าหมายในประเทศลำดับต่อไป ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการขอจดทะเบียนอยู่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า นั่นก็คือ ประเทศมาเลเซีย


สำหรับประเทศมาเลเซียนั้น ทางบริษัทฯ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากเป็นตลาดที่สำคัญที่มีพี่น้องมุสลิม ซึ่งถือเป็นตลาดเป้าหมายที่ รมิตา ต้องการจะใช้ฐานพี่น้องมุสลิมตรงนี้ ไปต่อยอดขยายธุรกิจต่อไปยังประเทศอินโดนีเซียและบรูไนในลำดับต่อไป


ทั้งนี้หากเปรียบเทียบสถานการณ์ในแต่ละประเทศสำหรับธุรกิจขายตรงแล้ว อาจวิเคราะห์ได้ว่า ประเทศลาว เป็นประเทศที่ได้รับความน่าสนใจมากที่สุด เนื่องจากประเทศลาวการสื่อสารค่อนข้างเข้าใจง่าย และการเดินทางสะดวกสบาย อีกทั้งคนลาวส่วนใหญ่รู้จักธุรกิจขายตรงของไทยค่อนข้างเยอะพอสมควร ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักเป็นอย่างมาก เพราะมีหลายบริษัทในไทยเปิดตัวกันอย่างมากมาย ซึ่งมาทั้งในรูปแบบที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่า หากบริษัทไหนที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ในปี 2557 ตลาดประเทศเพื่อนบ้านก็น่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดแน่นอน


“วันนี้ กำลังซื้อของลาวค่อนข้างดีมาก เหตุผลอาจเป็นเพราะคนที่ทำธุรกิจกับ รมิตา ส่วนใหญ่ พบว่าจะเป็นชนชั้นกลางขึ้นไป อาทิ กลุ่มพ่อค้า กลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งหากเรามีโปรโมชั่นที่ดี มีของแจกของแถม ยิ่งทำให้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกำลังซื้อมากขึ้นด้วยเช่นกัน”


ส่วนในประเทศเวียดนาม ผลจากการวิเคราะห์ พบว่า เวียดนามนั้นมีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่าประเทศลาว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามค่อนข้างดีกว่าลาว จากการสำรวจยังพบอีกว่า คนเวียดนามมีความขยันมากกว่าคนลาวถึง 7 เท่า มีความตั้งใจในการทำงานและมีความมุ่งมั่น จึงทำให้ รมิตา เชื่อมั่นว่า ไม่เกิน 2 ปีนับจากนี้ เวียดนามจะเป็นประเทศที่ รมิตา น่าจะเขย่าตลาดได้อย่างเมามันและมีอัตราการเติบโตที่มากกว่าประเทศลาวอย่างแน่นอน


...หากถามว่าทำไม “รมิตา” สามารถตีตลาดในประเทศเพื่อนบ้านได้ “ใจกล้า” ให้คำตอบอย่างมั่นใจว่า ประการแรก อาจเป็นเพราะความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจของทีมผู้บริหารที่มีนโยบายที่ชัดเจน ในด้านการบุกตลาดที่ประเทศลาวอย่างจริงจัง รวมถึงมีทีมงานที่เข้ามาทำอย่างจริงจัง ประการที่สอง ความตั้งใจของสมาชิกที่เข้ามาร่วมธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จจริง ๆ ประการที่สาม ในเรื่องของสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคและสมาชิกได้ทั้งในเรื่องของคุณภาพและราคา


ปัจจุบันสินค้าที่เป็นตัวหลักของ “รมิตา” ยังคงเป็นกาแฟมะรุม ชามะรุม น้ำดำมะรุม และมีแผนที่จะนำสินค้าใหม่เข้ามาเสริมทัพอีก ในกลุ่มของเครื่องสำอางจากประเทศไต้หวัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำเข้ามาแล้ว 1 รายการ และกำลังอยู่ในช่วงทดสอบอีก 4 - 5 รายการด้วยกัน ในกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับสปา คาดว่าภายในต้นปีหน้าจะมีสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม โดยอาจจะมีทั้งสินค้าในไทยและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน รมิตา มีสินค้าอยู่ทั้งสิ้น 5 กลุ่ม 65 รายการด้วยกัน


“ใจกล้า” กล่าวทิ้งท้ายว่า ยอดขายโดยรวมของ รมิตา สิ้นปีนี้ เชื่อว่า ตัวเลขน่าที่จะยังไม่เป็นไปตามเป้าเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย รวมถึงกระแสขายตรงที่ออกมาในเชิงลบ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ยอดขายของ รมิตา ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยคาดว่ายอดขายสิ้นปีนี้ น่าที่จะอยู่ที่ประมาณ 200 กว่าล้านบาทเช่นกัน


 


 


 


Credit By : http://www.taladvikrao.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น