ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

'สุวิทย์'รีเทิร์น ผอ.ขายตรง เดินหน้าหนุนแก้ ก.ม.ตั้ง'กรม'







555

 


"สุวิทย์ วิจิตรโสภา" หวนนั่งตำแหน่ง ผอ.ส่วนขายตรงและการตลาดแบบตรง สคบ. เดินเครื่องปรับแก้กฎหมายขายตรงไทย รองานวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีก 6 เดือน หารือเคาะกฎหมายยื่นคณะรัฐมนตรี ชี้มีโอกาสสูงตั้ง "กรมขายตรง" เผยข่าวดี "ก.พ.ร." อนุมัติตั้ง "กองคุ้มครอง ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง" ชิมลางความเป็นไปได้การแยกอิสระ พร้อมย้ำชัด ธุรกิจเติมเงินโทรศัพท์ไม่เข้าข่ายขายตรง หากเน้นสร้างเครือข่ายถือเป็นความผิด


นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้อำนวยการส่วนขายตรงและการตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ทาง สคบ.ได้มีการปรับในส่วนของตำแหน่งต่างๆ ในสำนักงาน รวมถึงการเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการ สคบ. ของ "อำพล วงศ์ศิริ" แทนที่ "จิรชัย มูลทองโร่ย" ซึ่งก็ได้มีการรับมอบหมายงานจาก "สันติ พร้อมพัฒน์" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการทำงานของ สคบ. หลังจากนี้


"ทางรัฐมนตรีต้องการให้ สคบ. เน้นการให้ความคุ้มครองผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ส่วนเลขาธิการ สคบ.คนใหม่ นั้น กำลังรอการโปรดเกล้าฯ ให้ขึ้นรับตำแหน่ง เลขาธิการ สคบ. อย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินเดือนนี้ เลขาธิการ สคบ.คนใหม่ก็จะเข้ามานั่ง และทำหน้าที่ อย่างเป็นทางการต่อไป"


ในส่วนของธุรกิจขายตรง ทางภาค รัฐต้องการสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นในการทำธุรกิจ เพื่อทำการส่งออกสินค้า หรือการขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยจะเน้นหนัก ในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมามักมีการกระทำผิดในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก


อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา ทางสคบ.ก็มีคดีที่ต้องติดตามอยู่หลายคดี โดย เฉพาะในเรื่องของการทบทวนกฎหมาย สำหรับกลุ่มบริษัทเติมเงินมือถือ ที่ปัจจุบัน นับว่ากำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มนายทุน แห่มาเปิดธุรกิจรูปแบบนี้ และพยายามดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรง


"ที่ผ่านมา จากกรณีของ "ป๊อปอัพ ทูริช" ที่ต้องการดำเนินธุรกิจขายตรง ซึ่งที่ผ่านมา สคบ.และดีเอสไอได้พยายามดำเนินคดี เพราะธุรกิจเติมเงินมือถือที่ว่านี้ ไม่สามารถดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรงได้ ซึ่งหากมีการตรวจสอบพบว่า กลุ่มธุรกิจเหล่านี้จ้องที่จะสร้างเครือข่ายมาก กว่าการขายสินค้าจัดว่ามีความผิด สามารถ ดำเนินขณะได้ตามกฎหมาย ซึ่งทาง สคบ. และดีเอสไอ กำลังเฝ้าติดตามและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง" สุวิทย์ เผย


นอกจากนี้ ทาง สคบ.ยังเร่งดำเนินการเรื่องของการแก้ไขกฎหมายขายตรงไทย ที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการปรับปรุง เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งมีหลายข้อกฎหมาย ที่มีช่องโหว่ ส่งผลให้ธุรกิจขายตรงเกิดความคลุมเครือ ในสายตาของผู้บริโภค


ขณะนี้ สคบ.อยู่ระหว่างการทำวิจัย เพื่อแก้กฎหมายขายตรง โดยได้มีการมอบ หมายให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำวิจัยเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง เพื่อประมวลภาพรวม โดยที่ผ่านมาก็มีการร่างกฎหมาย ฉบับใหม่ไปแล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเสียก่อน ทำให้ต้องดึงตัวร่างกลับมา ซึ่งต่อมาหลายฝ่ายก็มีความคิดเห็นว่า ตัวร่างเดิมนั้น ดูจะไม่ตอบโจทย์กับธุรกิจขายตรงมากนัก ซึ่งอาจต้องมีการร่างกฎหมายกันใหม่


"จากการหารือเรื่องของการแก้ไขกฎหมายขายตรง คาดว่าจะมีการนำร่างเดิมที่ส่งไปให้คณะรัฐมนตรีเมื่อ 2-3 ปีก่อน มาปรับปรุงแก้ไข ด้วยการหารือกับสมาคม ขายตรงต่างๆ รวมถึงกลุ่มคนที่มีส่วนกับธุรกิจนี้ รวมไปถึงการใช้งานวิจัยที่ สคบ. ได้ให้ ม.เกษตร ทำ มานั่งขบคิดว่าควรจะแก้ไขตรงไหนอย่างไร ซึ่งตรงนี้อาจต้องใช้ เวลาอีกประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นก็ต้องมาร่างกฎหมายแล้วส่งคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอนการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งสิ่งนี้อาจ ต้องใช้เวลา 3-5 ปี” ผอ.ส่วนขายตรงและตลาดแบบตรงเผย


ในส่วนของการตั้ง "กรมขายตรง" นั้น "นายสุวิทย์" กล่าวว่า โอกาสที่จะตั้งกรมขายตรงนั้นมีความเป็นไปได้สูง เพราะที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้ตั้งกรมขายตรง และสคบ.ก็มองธุรกิจขายตรงว่าคล้ายคลึงกับธุรกิจประกันภัย ที่มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คอยดูแล แต่คงไม่ใช่เร็วนี้ๆ เพราะสิ่งนี้ก็คงต้องรอให้มีการแก้ไขกฎหมายขายตรงก่อนอยู่ดี


อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ทางสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้มีการอนุมัติให้ตั้งกองคุ้มครอง ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงขึ้น ซึ่งจะอยู่ในสังกัดของ สคบ.ต่อไป แต่สิ่งนี้ ก็ถือเป็นก้าวแรกที่อาจส่งผลให้มีการตั้งกรมขายตรงในอนาคต


อนึ่ง ถือเป็นการกลับมานั่งในตำแหน่ง ผอ.ส่วนขายตรงและการตลาดแบบตรง เป็นครั้งที่ 2 ของ "สุวิทย์ วิจิตรโสภา" หลังเคยนั่งทำหน้าที่นี้มาแล้วเมื่อสมัย "นิโรธ เจริญประกอบ" เป็นเลขาธิการ สคบ. ก่อนจะถูกโยกย้ายตำแหน่ง เมื่อ "จิรชัย มูลทองโร่ย" เข้ามาเป็นเลขาธิการ สคบ. เมื่อปี 55 "สุวิทย์" ถือเป็นคนที่คลุกคลีกับวงการขายตรงมานาน และมีความรู้ประสบการณ์ด้านขายตรงเป็นอย่างดี


 


 


 


 


Credit By : http://www.siamturakij.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น