ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การเมืองป่วน! MLM หด ผู้ค้าหวั่นธุรกิจไม่โตตามเป้า







Capture (Mobile)

 


การเมืองพ่นพิษ! กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงโอดครวญ "กิฟฟารีน" คาดการณ์ตลาดรวม MLM ปี 56 โตน้อยกว่าปี 55 เน้นจัดประชุมลดความตึงเครียดนักธุรกิจ ด้าน "ยูนิไลฟ์" ชี้ ผลกระทบหนักตกไปอยู่กับสินค้ากลุ่มเสริมอาหาร และ ความงาม ฝั่ง "เอเชีย สุพรีม" เชื่อคนเดินเข้ามาในธุรกิจขายตรงน้อยลง ทางด้าน "แซนสยาม" กลัวสถานการณ์รุนแรง พา เศรษฐกิจหยุดชะงัก


กลายเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ สำหรับเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีการชุมนุมในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบไปยังภาคธุรกิจไม่เว้นแม้แต่วงการขายตรง ที่ปัจจุบันกลุ่มผู้ประกอบการต่างออก มายอมรับถึงผลกระทบทางการเมืองที่มีต่อบริษัท ซึ่งต่างฝ่ายก็มองว่า หากสถานการณ์ลุกลามและรุนแรงกว่านี้ อาจส่งผลให้ ยอดขาย และการเติบโตโดยรวมของธุรกิจขายตรงน้อยกว่าที่ ตั้งเป้าไว้


"กิฟฟารีน" คาดขายตรงโตน้อยกว่าปี 55


นายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยถึงผลกระทบทาง การเมืองที่มีต่อธุรกิจกับ "สยามธุรกิจ" ว่า จากสถานการณ์ทาง การเมืองในปัจจุบัน ที่มีการชุมนุมในหลายพื้นที่ ทำให้กลุ่มผู้บริโภค มีการระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ ยอดขายของบริษัท และภาพรวมทางธุรกิจ


"กิฟฟารีนพยายามสร้างบรรยากาศ ในองค์กรให้มีความตึงเครียดน้อยที่สุด บริษัท พยายามสร้างกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นธุรกิจ โดยเฉพาะการนำเสนอขายของบรรดาสมาชิก ที่บริษัทพยายามเน้นให้ นักธุรกิจนำเสนอสินค้าที่เป็นของใช้ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น"


อย่างไรก็ดี ทางบริษัทยังคงติดตาม สถานการณ์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์ และปรับแผนการตลาดให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ ส่วนในภาพรวมของตลาดขายตรงนั้น ถึงปัจจุบันคาดว่าตลาดรวมยังโตได้ อยู่ ถึงแม้การเติบโตจะไม่มากเหมือนปีที่ผ่าน มาก็ตาม แต่โดยรวมก็คาดว่ายังมีการเติบโต


"ยูนิไลฟ์" ชี้ เสริมอาหาร-ความงามทรุด


ด้านนางปราณี พุทธิพิพัฒน์ขจร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เผยว่า หากความวุ่นวายทางการเมืองยังไม่จบสิ้น และ ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่า ภาพรวมของ ทุกธุรกิจจะแย่ลง ซึ่งในส่วนของธุรกิจขายตรงก็จะเติบโตได้ต่ำลงด้วย เพราะผลกระทบ จากการเมืองทำให้เศรษฐกิจล้มเหลว จนส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อต่ำและมีการตัดสินใจซื้อช้าลงในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ ในส่วนของเสริมอาหาร และเครื่องสำอางได้รับผลกระทบมากที่สุด ประการสำคัญ หากมีเหตุการณ์อื่นๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมือง อาจส่งผลให้ธุรกิจ ขายตรงไทยตกต่ำมากกว่านี้ก็เป็นได้


"เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางบริษัทก็ได้เตรียม แผนรับมือไว้อยู่แล้ว เพราะถึงแม้จะมีศูนย์กระจายสินค้าต่างจังหวัด รวมถึงสมาชิกก็ตาม แต่หากการเมืองรุนแรงขึ้น ก็จะทำให้ เรื่องของการนำเข้าสินค้าและส่งออก มีผล กระทบมายังบริษัทแน่นอน รวมถึงหลายๆ บริษัทก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะหากกำลังซื้อตกลง ยอดขายของบริษัทก็จะลดลง และมีผลของการวางแผนในต้นปีหน้าด้วย แต่ที่น่าเศร้ากว่า คือประเทศชาติ จะต้องหยุดพัฒนาและเดินไปช้ากว่าเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วย"


ทั้งนี้ หากกลุ่มผู้ชุมนุมไปอยู่ในพื้นที่ที่มีสำนักงานเปิดอยู่ก็อาจจะให้ปิดชั่วคราว และอาจปรับระบบการจัดการบริหารไปอยู่ในจุดที่สมาชิกเดินทางไปได้สะดวกขึ้น โดยไม่ไปใกล้พื้นที่ที่ชุมนุม และหากการชุมนุม ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ถึงปีหน้า เรื่องของผลกระทบ ยอดขายก็อาจจะต้องตกลง โดยเชื่อว่าจะกระทบไปทุกบริษัทที่ทำเครือข่าย รวมถึงภาคธุรกิจอื่นๆ ด้วย


"เอเชีย สุพรีม" หวั่นคนไม่เดินเข้า MLM


ในส่วนของ อ.สุธีร์ รัตนนาคินทร์ ประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย สุพรีม จำกัด เปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่ปกติในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ละบริษัทจะต้อง พยายามงัดกลยุทธ์ออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งจะมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ ออกมาเอาใจสมาชิกให้ซื้อกันเต็มที่ แต่พอมาเจอเหตุการณ์ทางการเมืองที่กำลังเร่าร้อนแบบ นี้ก็ทำให้หลายๆ บริษัทอาจต้องทำใจและปรับเปลี่ยนแผนการตลาดรับมือกันพอ-สมควร เพื่อให้ประคับประคองให้ธุรกิจเดิน หน้าต่อไปได้


"ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจโดยรวมไม่ดี แต่ธุรกิจขายตรงก็ยังคงเติบโต ได้อยู่เพราะมีผู้เข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายอิสระมากขึ้นส่งผลให้ขายสินค้าได้มากตาม ไปด้วย เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้มีผู้สนใจเข้าสู่ธุรกิจขายตรงน้อย ลงเรื่อยๆ และเชื่อได้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังผู้ประกอบการแต่ละรายอาจจะไม่กล้าอัดงบ-ประมาณในการทำตลาด ยิ่งบางบริษัททุ่มงบประมาณไปแล้ว เกี่ยวกับการจัดโปรโมชั่น ลด แลก แจกแถม เพื่อกระตุ้นการซื้อก็อาจ จะต้องเสียหายและขาดทุนย่อยยับไปเลย"


ขณะเดียวกันยังต้องเพิ่มผลตอบแทน ให้ผู้จำหน่ายอิสระสูงขึ้นอีกเพื่อเป็นแรงจูงใจ ให้จำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น และหากเหตุการณ์ทางการเมืองเลวร้ายไปกว่านี้ เอเชีย สุพรีม ก็ได้มองตลาดต่างประเทศและกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มเติมอยู่แล้ว เพราะทุกบริษัทจะมีการแข่งขันกันอย่างหนัก บริษัทไหนแข็งแรงและมีศักยภาพดีกว่าก็จะได้เปรียบ โดยบริษัทยังมั่นใจในสมาชิกและผู้นำเก่งๆ ที่จะนำพาให้ เอเชีย สุพรีมŽ รับมือกับการแข่งขันได้


"แซนสยาม" กลัวเหตุการณ์รุนแรง พาเศรษฐกิจหยุดชะงัก


ทางด้านนายสมชาย อินทิราวรนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท แซนสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า เหตุการณ์ทางการเมืองครั้งนี้ ยังไม่ได้ส่งผล กระทบต่อบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัท เน้นทำตลาดในสาขาต่างจังหวัดเป็นหลัก ส่วนสำนักงานในกรุงเทพฯ ก็มี แต่ไม่มากเท่าไรอีกทั้งยังไม่อยู่ในพื้นที่ใกล้กับการชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่ สาขา "แซนสยาม" ในต่างจังหวัดจะมีสมาชิกที่เป็นนักจัดรายการ วิทยุ หรือดีเจ คอยประชาสัมพันธ์สินค้าและ มีเกมให้ผู้ฟังได้ร่วมสนุก เพื่อที่จะได้รับสินค้า เป็นรางวัล ทำให้สถานการณ์ในเวลานี้ไม่มีผลกระทบแน่นอน


อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ทางการเมืองเลวร้ายถึงขั้นรุนแรง "สมชาย" ได้กล่าวต่อว่า หากถึงขั้นนั้นจริง เศรษฐกิจประเทศชาติก็จะหยุดชะงัก ทุกธุรกิจจะหยุด นิ่ง ทำให้ประเทศไทยกลับมาสู่ในยุคข้าวยาก หมากแพงอีกครั้ง โดยประเทศเพื่อนบ้านก็จะพัฒนาแซงหน้าประเทศเราไปอีกหลายขั้น


"ถึงเวลานั้นจริงๆ บริษัทก็ต้องรับมือ ให้ได้ และสาขาที่อยู่ในกรุงเทพฯ บางจุด อย่างสำนักงานใหญ่ก็อาจจะปิดชั่วคราวแน่นอน แต่ก็หวังว่า สถานการณ์ทางการเมืองคงไม่ ร้ายแรงถึงขั้นนั้น โดยหากถึงขึ้นนั้นแล้ว บริษัทขายตรงที่มีออฟฟิศใกล้ตรงสถานที่ชุมนุมก็คงจะเสียหายเป็นอย่างมาก ถึงตอนนี้ บริษัทได้เตรียมที่จะเล็งทำตลาดไปในประเทศ เพื่อนบ้านด้วย เพราะจะช่วยให้บริษัทขยาย เครือข่ายและเพิ่มยอดขายอีกต่างหาก" สมชาย กล่าวทิ้งท้าย


 


 


 


Credit By : http://www.siamturakij.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น