ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Xclusive interview ผศ.วังสรรค์ สุฉันทบุตร ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ เอ็ม แอล อินเตอร์ จำกัด หรือ AML







Capture (Mobile)

 


“หลังจากที่บริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างภายในใหม่ ทำให้มีความ- พร้อมในการทำตลาดมากขึ้น โดยนโยบายหลักของบริษัทยังคงเน้น เรื่องของการใช้ตัวผลิตภัณฑ์ในการขับเคลื่อนมากกว่าการมุ่งเน้น เรื่องของแผนการตลาดเป็นหลัก ที่สำคัญบริษัทไม่มีนโยบายในการ ซื้อตัวแม่ทีม หรือให้ออฟเฟอร์กับตัวผู้นำ เพื่อมาสร้างยอด เพราะ บริษัทถือว่าเป็นเรื่องฝืนธรรมชาติ โดยเราจะเน้นการเติบโตแบบ ค่อยเป็นค่อยไปไม่เน้นการเติบโตแบบผิดธรรมชาติ”


บริษัท เอ เอ็ม แอล อินเตอร์ จำกัด หรือ AML บริษัทขายตรงน้องใหม่คุณภาพอีกค่ายหนึ่ง ที่ทีมผู้บริหารมีความมุ่งมั่น และความตั้งใจจริง ที่ต้องการจะมอบสุขภาพที่ดีและมีรายได้คืนกลับ ไปสู่ทุกคน โดยมี 2 ผู้บริหารอย่าง ผศ.วังสรรค์ สุฉันทบุตร ประธานผู้ก่อตั้ง และ วสันต์ กอบุตร กรรมการผู้จัดการ นั่งแท่นเป็นหัวเรือใหญ่ ภายใต้ สโลแกนที่ว่า Auto Market Line หรือ “เลือกชีวิต ที่ดีที่สุดอัตโนมัติในแบบของตนเอง”


ด้วยความพร้อมของบริษัทแม่ที่เป็นโรงงาน ผู้ผลิตยาและเสริมอาหารมามากกว่า 80 ปี อย่าง “บริษัท ปานะโอสถ จำกัด” และทีมผู้บริหารที่มี ประสบการณ์ในธุรกิจขายตรงมานาน จึงทำให้ AML เป็นบริษัทขายตรงที่น่าจับตาอย่างมาก ส่วนแนวคิด และกลยุทธ์ทางการตลาดหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร 2 แม่ทัพใหญ่จะเป็นผู้เฉลยคำตอบต้องคอยติดตาม อ่านกัน


ทำไมถึงมีแนวคิดอยากมาทำธุรกิจขายตรง


ก่อนหน้านี้ (ผศ.วังสรรค์ สุฉันทบุตร) เป็นผู้อำนวยการ โรงพยาบาลแหลมฉบังอินเตอร์ได้รู้จักกับ คณุ หมอพิษณุ อุชุวัฒน์ หรือหมอเอก ซึ่งเป็นลูกของหมอเพลินที่ทำเกี่ยวกับการผลิต สมุนไพรแพทย์แผนไทยภายใต้ชื่อ บริษัท ปานะโอสถ จำกัด ซึ่งมีตำรับยาดีๆ มากมาย จึงได้นำผลิตภัณฑ์ที่เด่นๆ มาทดลอง ทั้งกับตัวเองและผู้ป่วยซึ่งก็ได้ผลตอบรับดีมาก จึงมีแนวคิดที่อยาก จะให้ทุกคนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีโดยคิดว่าช่องทางการตลาดแบบ ขายตรงน่าจะเข้าถึงตรงกลุ่มผู้บริโภคได้ดีและเร็ว จึงนำผลิตภัณฑ์ ดังกล่าวมาทำการตลาดในรูปแบบขายตรงภายใต้ชื่อ AML


“ในช่วงแรกเรานำสินค้าที่ดีที่สุดมาทำตลาดเพียงแค่ 2 รายการ ได้แก่ แอมไลฟ์ และอะเมซี่ ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริม- อาหาร โดยในส่วนของแอมไลฟ์ช่วยในเรื่องของการต่อต้านความ- เสื่อม, เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ผิวกระจ่างใสโดยเราได้ ทำการเก็บตัวอย่างผู้ป่วยมากกว่า 1,000 เคส ซึ่งทุกคนให้ การตอบรับดีมาก ส่วน อะเมซี่ ช่วยในเรื่องของอาการปวดเมื่อย เส้นยึด การไหลเวียนของเลือด และโรคหัวใจ โดยเราได้ให้นักกีฬา มวยปล้ำทีมชาติไทยกว่า 50 คน ทดลองใช้ ปรากฏว่านักกีฬา ดังกล่าวมีผลงานที่ดีขึ้นมาก จึงเป็นเครื่องการันตีว่าผลิตภัณฑ์ เราดีจริง”


จุดแข็งของ AML คืออะไร


AML มีจุดแข็งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์อยู่ในธุรกิจขายตรง มานาน ซึ่งแต่ละท่านมีความเข้าใจในธุรกิจนี้เป็น อย่างดี นอกจากนั้นเรายังมีโรงงานผลิตยาและเสริม- อาหารอย่างปานะโอสถ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเราที่มี ประสบการณ์อยู่ในวงการนี้มามากกว่า 80 ปี และยัง มีตำรับยาที่มีคุณภาพอยู่ในมืออีกเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญบริษัทยังมีศูนย์คอลเซ็นเตอร์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ AML โดยเฉพาะ


มองการแข่งขันในธุรกิจขายตรงอย่างไร


แม้ปัจจุบันจะมีบริษัทขายตรงเกิดขึ้น เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่สิ่งสำคัญผู้ประกอบการที่เข้ามาในตลาดนี้จะอยู่ รอดได้ต้องอิงอยู่บนพื้นฐานของความจริง กล่าวคือ การเอาตัวผลิตภัณฑ์เป็นตัวนำ ไม่ใช่เน้นเรื่องของ แผนการตลาดเพียงอย่างเดียว เพราะหากใช้แต่ แผนการตลาดนำ เชื่อว่าไม่นานก็ต้องปิดตัวไป ซึ่ง จุดที่ AML แตกต่างจากบริษัทอื่น คือ ตัวผลิตภัณฑ์ ที่ใช้แล้วเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 กล่อง ซึ่งขึ้นอยู่กับ สภาพร่างกายของแต่ละคน และในอนาคตบริษัท มีแผนจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอีกหลาย รายการ เพียงแต่รอจังหวะที่เหมาะสมเท่านั้น โดย ปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 4 รายการ ได้แก่ แอมไลฟ์ อะเมซี่, แอมไบร์ทสบมูั่งคุด และแอมสเลน ดีท็อกซ์ล้างสารพิษ


บริษัทได้วางกลยุทธ์การตลาดหลังจากนี้ไว้อย่างไร


หลังจากที่บริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างภายในใหม่ ทำให้มีความพร้อม ในการทำตลาดมากขึ้น โดยนโยบายหลักของบริษัทยังคงเน้นเรื่องของการใช้ตัว ผลิตภัณฑ์ในการขับเคลื่อนมากกว่าการมุ่งเน้นเรื่องของแผนการตลาดเป็นหลัก ที่สำคัญบริษัทไม่มีนโยบายในการซื้อตัวแม่ทีม หรือให้ออฟเฟอร์กับตัวผู้นำ เพื่อมา สร้างยอด เพราะบริษัทถือว่าเป็นเรื่องฝืนธรรมชาติ โดยเราจะเน้นการเติบโตแบบ ค่อยเป็นค่อยไปไม่เน้นการเติบโตแบบผิดธรรมชาติ “ที่ผ่านมาเราได้ปลูกฝังให้สมาชิกเน้นการใช้สินค้านำ ซึ่งแนวคิดดังกล่าว เริ่มเห็นผลอย่างมากในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 50% จากจำนวน สมาชิกทั้งหมด ดังนั้น เราจะยึดแนวคิดดังกล่าวเพื่อนำไปขยายตลาดออกไปยัง ภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะขยายศูนย์กระจายสินค้า ไปยังภาคต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต จากปัจจุบันเรามีเพียง 2 สาขา ได้แก่ สำนักงานใหญ่ และสาขาหาดใหญ่เท่านั้น”


 


 


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 234 ประจำวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2556


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น