ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สมาคมขายตรง5ชาติผนึกกำลัง ตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน








 


ฮือฮา สมาคมขายตรง จาก 5 ประเทศในเอเชีย ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาพันธ์การขายตรงโลก(WFDSA) อันประกอบไปด้วย สมาคมการขายตรงจากประเทศไทย(TDSA), สมาคมขายตรงมาเลเซีย(DSAM), สมาคมขายตรงเกาหลีใต้(KDSA),สมาคมขายตรงไต้หวันและสมาคมขายตรงประเทศอินโดนีเซีย เตรียมประสานความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์เพื่อระดมแนวคิดสำหรับการจัดตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน ขึ้นมาอย่างเป็นทางการโดยมีสมาคมขายตรง(DSA)ซึ่งเป็นสมาชิกของWFDSA เป็นแกนนำในการจัดตังเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน เบื้องต้นพร้อมยกเครดิตให้กับ สมาคมขายตรงมาเลเซีย เป็นแม่งานหลักในการประสานงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้กับประชาชนและภาครัฐเข้าใจธุรกิจขายตรงมากยิ่งขึ้น เชื่อมั่นแนวความคิดนี้มีโอกาสความเป็นไปได้สูงมาก


ดูเหมือนว่าการจุดประกายฝันของ คุณอัศวิน วัฒนปราโมทย์อดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) ที่คาดหวังจะประสานความร่วมมือกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงในเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นสมาคมการขายตรงไทย(TDSA),สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย(TSDA)และสมาคมอุตสาหกรรมการขายตรงไทย(TDIA) เผื่อผนึกกำลังรวมตัวกันจัดตั้ง สมาพันธ์การขายตรงไทยขึ้นมาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมขายตรงในประเทศไทยและเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนที่จะมาในปี 2558 นี้... ล้มเหลวและไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้จริงด้วยเหตุเพราะแต่ละสมาคมล้วนมีจุดยืนและมาตราฐานแนวทางในการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วฃ


ถึงวันนี้การจัดตั้งสมาพันธ์การขายตรงไทยได้ล้มพับไปอย่างไม่เป็นท่าเรียบร้อยแล้ว แต่ท่ามกลางความเงียบกริบนี้กลับมีอีกหนึ่งกระแสที่ ใหญ่กว่า เกิดขึ้นมาอีกระลอก เมื่อมีรายงานข่าวระบุว่าสมาคมการขายตรง (Direct Selling Associations :DSA) จาก 5 ประเทศ ซึ่งเป็นสมาคมขายตรงในสังกัดสมาชิกสมาพันธ์การขายตรงโลก (World Federation of Direct Selling Associations: WFDSA) อันประกอบไปด้วยสมาคมการขายตรงไทย , มาเลเซีย,เกาหลีใต้,ไต้หวันและอินโดนีเซีย เตรียมเปิดโต๊ะประชุมร่วมกัน เพื่อระดมความคิดเห็นสำหรับการจัดตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน ขึ้นมาเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่จะมาถึงนี้


การจัดตั้งสมาพันธ์ขายตรงอาเซียนในครั้งนี้จะมีสมาคมขายตรงจาก 5 ประเทศซึ่งเป็นสมาชิกของ WFDSA เป็นแกนนำกลุ่มมารวมตัวกันเพื่อจัดตั้งสมาพันธ์ฯ ขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นความลงตัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดเพราะสมาคมขายตรงของแต่ละประเทศได้เปิดขึ้นมานานแล้วและมีบริษัทขายตรงที่มีความเป็นมาตราฐานผ่านการคัดกรองคณะกรรมการสมาคมให้เข่าร่วมเป็นสมาชิกเป็นจำนวนมากและที่ผ่านมาสมาคมขายตรงของแต่ละประเทศได้ทำงานเพื่อสังคมมายาวนานในการให้ความรู้กับประชาชน อีกทั้งได้ประสานความร่วมมือให้ความรู้กับหน่วยงานของภาครัฐของแต่ละประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการรวมตัวจัดตั้งสมาพันธ์ขายตรงอาเซียนในครั้งนี้น่าจะเหมาะสมที่สุด แหล่งข่าวระดับสูงกล่าว


สำหรับสมาคมการขายตรงไทย(TDSA) ในยุคที่มี นายกิจธวัช ฤทธิราวี กรรมการผู้จัดการบริษัท แอมเวย์(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) คนปัจจุบันจะเห็นชอบต่อแนวคิดนี้หรือไม่นั้น แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ กล่าวว่า เชื่อว่าน่าจะมีโอกาสและความเป็นไปได้ที่สูงมากที่นายกิจธวัชจะประสานงานในเรื่องนี้อย่างจริงจังกับสมาคมขายตรง (DSA) ทั้ง 4 ประเทศคือ มาเลเซีย,เกาหลีใต้,ไต้หวัน และอินโดนีเซีย เนื่องจากทั้ง4 สมาคมต่างก็เป็นสมาชิกของ WFDSA ด้วยกันทั้งหมด ดังนั้นโอกาสที่จะตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน ขึ้นมาเพื่อรองรับ AEC จึงมีความเป็นไปได้ที่สูงมาก


....ในเบื้องต้นถ้าการรวมตัวของ 5 สมาคมขายตรงจาก 5 ประเทศในเอเชียซึ่งเป็นสมาชิกของ WFDSA ประสบความสำเร็จขึ้นมามีความเป็นไปได้ว่าสมาคมขายตรงประเทศมาเลเซีย(DSAM) จะได้รับการโหวตให้เป็นแม่งานใหญ่ในการดำเนินงานด้านนี้เพราะสมาคมขายตรงมาเลเซียก่อตั้งมานานและมีประสบการณ์ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนธุรกิจขายตรงอย่างเคร่งครัดและเชื่อว่าตำแหน่งประธานสมาพันธ์ขายตรงอาเซียนจะมีการสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป


ปัจจุบันสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) มีสมาชิกประเภทสามัญและประเภทวิสามัญรวมกันประมาณ 33 บริษัทและบริษัทสมาชิกของสมาคมมีทั้งบริษัทต่างชาติและบริษัทขายตรงของคนไทยเข้าไปเป็นสมาชิก โดยในแต่ละปีกลุ่มบริษัทสมาชิกสมาคมฯครองส่วนแบ่งยอดขายประมาณ 70 % ของมูลค่าอุตสาหกรรมโดยรวมในขณะที่สมาคมการขายตรงประเทศมาเลเซียปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 56 บริษัท ซึ่งสมาคมการขายตรงมาเลเซียมีความโดดเด่นในเรื่องของการยกร่างกฎหมายขายตรงอย่างเข้มงวดมากกว่าประเทศใดๆอ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้การประกอบธุรกิจขายตรงมีความโปร่งใสและเป็นมาตราฐานสากลมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมธุรกิจขายตรงภายในประเทศให้เติบโตอย่างมีคุณภาพในอนาคตและทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น


ทั้งนี้พ.ร.บ.ขายตรงของมาเลเซียได้มีการร่างกฏหมายขึ้นมาใหม่ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมีความโปร่งใสและมีจรรยาบรรณมากขึ้นพร้อมทั้งได้กำหนดนิยามคำว่า ขายตรงระบบเครือข่ายหลายชั้น(MLM)และ ปิระมิด ไว้อย่างชัดเจนโดยพ.ร.บ.ขายตรงฉบับใหม่... ได้เพิ่มโทษปรับทั้งตัวบริษัทขายตรงและนักขายที่หลอกลวงประชาชน ในกรณีของนักขายได้เพิ่มวงเงินค่าปรับสูงสุดเป็น 1 ล้านริงกิตมาเลเซียหรือประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าวงเงินค่าปรับสูงสุดในอดีตที่เคยปรับอยู่ที่250,000 ริงกิตมาเลเซียหรือประมาณ 2,500,000 บาท หรือมีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 5 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ


ในส่วนของผู้ประกอบการขายตรงของมาเลเซียได้มีการเพิ่มโทษที่หนักกว่าโดยพ.ร.บ. ขายตรงฉบับใหม่ได้เพิ่มวงเงินค่าปรับเป็น 5 ล้านริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 50 ล้านบาท จากเดิมมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 500,000 ริงกิตมาเลเซียหรือประมาณ 5 ล้านบาทเท่านั้น


ขณะที่สมาคมการขายตรงประเทศเกาหลีใต้(KDSA) ปัจจุบันมีบริษัทขายตรงเข่าร่วมเป็นสมาชิกจำนวน 62 บริษัทและล่าสุดที่ประเทศเกาหลีใต้ได้มีการประกาศใช้กฎหมายขายตรงฉบับใหม่ใหม่ที่มีความเคร่งครัดมากกว่าเดิม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการจ่ายคอมมิชชั่นให้กับนักขายโดยกฎหมายใหม่นี้ได้กำหนดให้จ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับนักขายโดยกฎหมายใหม่นี้ได้กำหนดให้จ่ายคอมมิชชั่นให้กับนักขายได้ไม่เกิน 35 % เท่านั้น หากบริษัทใดจ่ายคอมมิชชั่นเกินกว่ากฎหมายกำหนดจะถูกปรับไม่ต่ำกว่า 100 ล้านวอนเลยทีเดียว


อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก 5 สมาคมขายตรงจาก 5 ประเทศในเอเชียรวมตัวกันได้สำเร็จนอกจากจะก่อเกิดสมาพันธ์ขายตรงอาเซียนเพื่อร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจขายตรงให้เข้มแข็งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลแล้วส่วนหนึ่งยังสามารถประยุคข้อกำหนดของกฎหมายขายตรงในแต่ละประเทศที่มีจุดแข็งอยู่แล้วมาปรับใช้ในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วนเลยทีเดียว


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ Leader Time ปีที่9 ฉบับที่ 211 ปักษ์หลังประจำวันที่ 16-30 พฤศจิกายน 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น