ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

ดร.สาโรชปล่อย 2 ยุทธศาสตร์กระทุ้งยอดประกาศขอเน้นไม่โตหวือหวาแต่มั่นคงถาวร









ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดร.สาโรช เผยภาพรวม ธุรกิจที่ผ่านมา บอบช้ำหนัก! หลังโรงงาน 3 โรงดูดทรัพย์หายนับ 10 ล้าน แจงธุรกิจปี55 เป็นปีแห่งการปัดกวาดบ้านใหม่เสียส่วนใหญ่ พร้อมลั่นเป้า!ปี56 ขอเติบโต 20%...ด้าน ดร.สาโรช แย้มแผนธุรกิจปีนี้ ขอมุ่งเน้น 2 ยุทธศาสตร์สำคัญ พลิกฟื้นธุรกิจพร้อม เตรียมบุกตลาดอาเซียน หวังเพิ่มฐานผู้บริโภค

ดร. สาโรช ธีรศิลป กรรมการผู้จัดการบริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ดร.สาโรช จำกัด เผยถึงภาพ รวมธุรกิจในช่วงปีที่ผ่านมาว่า ภาพรวมในปีที่ผ่านมา หลังจากที่นํ้าท่วมถือว่าบริษัทฯ ค่อนข้างที่จะเหนื่อยอย่างมาก เพราะบริษัทฯ นั้นมีความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 10 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยโรงงานทั้ง 3 โรงงานท่วมหมดเลย อีกทั้งลูกค้าของบริษัทฯ บางส่วนก็ได้รับผลกระ ทบตรงนี้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ บริษัทฯ เอง ก็ยังสามารถประคับประ ครองธุรกิจให้กลับฟื้นคืนมาใหม่ ได้ โดยในปีที่ผ่านมา ถือเป็นปี แห่งการปัดกวาดบ้านใหม่เสีย ส่วนใหญ่ แต่ผลประกอบการที่ ผ่านมา ถือว่ายังมีกำไรอยู่บ้าง เช่นกัน ส่วนเป้าหมายการเติบโต ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะ เติบโตอยู่ที่ประมาณ 20%
สำหรับยุทธศาสตร์ในการ บุกตลาดในปีนี้นั้น ทางบริษัทฯ ได้วางแผนที่จะขยายการตลาด ด้วยยุทธศาสตร์ 2 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องแรก การขยายฐาน สมาชิกให้มาร่วมธุรกิจให้มาก ขึ้นซึ่งเรามีสมาชิกอยู่ 2 ประเภท ด้วยกัน คือ กลุ่มที่่ใช้สิ้นค้าโดย บริษัทฯ จะสนับสนุนทั้งในเรื่อง ของสมาชิกที่ทำธุรกิจและลูกค้า ที่บริโภคให้มากขึ้น ในขณะ เดียวกัน ศูนย์ขยายเครือข่ายที่ บริษัทฯ มีอยู่เรียกว่าเริ่มหายไป เยอะเช่นกัน จึงจำเป็นที่จะต้อง เพิ่มจำนวนศูนย์ดังกล่าวตรงนี้ ให้มากขึ้น
เรื่องที่ 2 คือ เรื่องของโปร โมชั่นสนับสนุนสมาชิก เพื่อ เป็นการสนับสนุนให้สมาชิก ขยายเครือข่ายให้มากขึ้น ซึ่งโปร โมชั่นดังกล่าว ได้มีการประกาศ ไปแล้ว และได้รับการตอบรับ จากสมาชิกเป็นอย่างดี โดย โปรโมชั่นนี้ชื่อว่า Promotion Together ซึ่งจะเป็นในรูปแบบ ของการออกโบนัสสิ้นปี ดร. สาโรช กล่าวเสริมถึง กรณีที่ศูนย์จำหน่ายของบริษัทฯ ลดลงว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทาง บริษัทฯ ได้มีการคัดเลือกศูนย์ที่ มีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน นั่นเอง จึงทำให้ศูนย์ของบริษัทฯ ลดลงเหลือเพียงแค่ 200 ศูนย์ เท่านั้นที่จากเดิมมีอยู่ 400 ศูนย์ แต่หลังจากที่เจอปัญหานํ้าท่วม ศูนย์ของบริษัทฯ ก็ลดลงเหลือ เพียงแค่ 100 ศูนย์เท่านั้นเอง ถือว่าเป็นความโชคดี ของบริษัทฯ เลยก็ว่าได้ ที่สมาชิกเดิมที่มีอยู่แล้วนั้นค่อนข้างที่จะ มีความเชื่อมั่นในธุรกิจของ ดร.สาโรช อย่างมาก จึงยังมีบาง ส่วนที่อยู่กับเราที่สำคัญศูนย์ที่ หายไป ก็ยังไม่ได้หายไปไหนด้วย ซึ่งหากศูนย์ไหนที่มีความพร้อม ก็อาจที่จะกลับมาเป็นศูนย์ใหม่ ได้เช่นเดิม พร้อมกันนี้ ยังมีเป้า หมายที่จะเพิ่มศูนย์ในปีนี้อีก อย่างน้อยประมาณ 150 ศูนย์อีก ด้วย
ดร.สาโรช กล่าวอีกว่า ส่วนสินค้าภายใต้แบรนด์ เฟลิซิ เต้ บาย ดร.สาโรช นั้น ต้องบอก ว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้หันมา แตกไลน์อีกหนึ่งแบรนด์ พร้อม ด้วยการใช้แผนไบนารี่แบบ ลูกผสม ผลปรากฏว่าแบรนด์ดัง กล่าวเติบโตได้เป็นอย่างดีใน ระดับหนึ่ง จนกระทั่งมาเจอ ปัญหานํ้าท่วม ส่งผลให้ลูกค้าลด ลงไปพอสมควร ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้บริษัทฯ จึงได้ดึงสินค้า ในแบรนด์ของ เฟลิซิเต้ บาย ดร.สาโรช ทั้งหมด มาไว้ใน แบรนด์ดร.สาโรช ซึ่งขณะนี้ กำลังเจรจากับทางลูกค้าอยู่โดย ทางดร.สาโรชเองจะมีการปรับ ในเรื่องของผลประโยชน์ให้กับผู้ ที่เข้ามาสู่ธุรกิจภายใต้แบรนด์ ดร.สาโรช ให้มากกว่าเดิมหรือไม่ น้อยกว่าเดิม และพร้อมที่จะ สนับสนุนให้สมาชิกทุกคน ประสบความสำเร็จอีกด้วย ในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนที่ จะปรับปรุงออฟฟิศเก่าให้เป็น เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ใหญ่หรือเป็น ศูนย์ตัวอย่างนั่นเอง เพื่อต้องการ ให้ทุกคนได้เห็นว่า ถ้าหากใครที่ จะเข้ามาสู่ธุรกิจดร.สาโรช แล้ว จะมีความมั่นคงอย่างไรบ้าง และถ้าจะสำเร็จในธุรกิจนี้จะ ต้องทำอย่างไร โดยจะเป็นศูนย์ เทรนนิ่งที่ครบวงจร
นอกจากนี้ ดร.สาโรช ยัง กล่าวถึงประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนที่จะเปิดขึ้นในปี 2558 นี้ อีกว่า ตลาดอาเซียนที่จะเกิดขึ้น ในปี 2558 นี้ บริษัทฯ ได้เตรียม แผนที่จะบุกตลาดประเทศเพื่อน บ้านเช่นกัน เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ค่อนข้างที่จะ เจ็บตัวมาก กำลังซื้อหดตัวลง อย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้เอง ที่ ทำให้ทางบริษัทฯ จึงมองว่าควร ที่จะหาผู้บริโภคจากตลาด อาเซียนด้วย ที่ไม่ใช่เฉพาะใน ประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ ได้ เตรียมการณ์ทุกอย่างไว้เกือบ หมดแล้ว ทั้งในส่วนของเว็บไซต์ หรือฉลากทั้งหมด ให้สามารถ สื่อสารกับทางอาเซียนได้ ซึ่ง ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เข้าไปบุก ตลาดในประเทศลาวแล้ว และได้ รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ มีแผนที่จะบุกตลาดใน ประเทศเวียดนาม กัมพูชา และ ประเทศอื่น ๆ ให้ครอบคลุมทั่ว ทั้งหมดอีกด้วย วันนี้ต้องบอกว่า ทิศทาง ธุรกิจของบริษัทฯ ตั้งแต่ต้นปี อาจจะไม่ค่อยหวือหวาเหมือน เช่นดังค่ายอื่นก็ตาม แต่ก็ สามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เดิน ต่อไปข้างหน้าได้ ด้วยสินค้าที่มี คุณภาพ ที่สำคัญ ธุรกิจของ ดร.สาโรช ไม่ใช่เป็นการขายฝัน หรือสร้างภาพ แต่เป็นการขาย สินค้าที่ดีให้กับผู้บริโภค อีกทั้ง หากใครที่เดินเข้ามาสู่ธุรกิจ ดร.สาโรชแล้ว ทุกคนสามารถ รํ่ารวยได้ ซึ่งอาจจะช้าหน่อยแต่ ชัวร์
สำหรับปัจจัยลบที่จะ เข้ามากระทบกับธุรกิจในปีนี้นั้น ดร.สาโรช เผยว่า เราเอง ค่อนข้างที่จะโชคดีอย่างมาก เนื่องจากมีโรงงานผลิตเป็นของ ตัวเอง มีการปลูกสมุนไพรเอง รวมถึงในเรื่องของแพ็คเกจจิ้ง ทางบริษัทฯ ก็มีโรงงานเป็นของ ตัวเองอีกด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ ค่อยได้รับผลกระทบเท่าที่ควร แต่ทั้งนี้ ปัจจัยลบที่มองว่า อาจ จะส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ คงจะ เป็นในส่วนของปัจจัยในเรื่องของ พลังงานมากกว่า ที่ถือว่าเป็นต้น ทุนที่สำคัญอย่างมาก เพราะ ตรงนี้จะเกี่ยวเนื่องกับค่าขนส่ง ทั้งหมด ที่จะต้องมีต้นทุนที่เพิ่ม ขึ้น ส่วนในเรื่องของการปรับ ราคาสินค้าของดร.สาโรชนั้น คง ยังไม่มีการปรับราคาขึ้นอย่าง แน่นอน เนื่องจากยังสามารถที่ จะควบคุมต้นทุนตรงนี้ได้ ที่ สำคัญ คอนเซ็ปต์ของบริษัทฯ คือ ต้องการทำของดีราคาถูก ซึ่ง ตรงนี้ ถือเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ตั้งใจ ทำมานานแล้ว และพร้อมที่จะ ดำเนินตามนโยบายที่วางไว้ เหมือนเช่นที่ผ่าน ๆ มา
ดร.สาโรช ยังได้ฝากทิ้ง ท้ายอีกว่า อยากที่จะให้คนที่ กำลังจะเข้ามาสู่ธุรกิจขายตรง ทุกคนพิจารณาด้วยว่า การทำ ธุรกิจขายตรงที่ยั่งยืน เขาควรที่ จะเลือกแบบไหน หากใครที่คิด อยากจะรวยเร็ว โตเร็ว ก็ต้อง ทำใจ เพราะจากสถิติที่ผ่านมา บริษัทแบบนี้จะมีวงจรชีวิตอยู่ที่ ประมาณ 4-6 ปีเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ เอง ที่ทำให้หลาย ๆ คน ที่จะเข้า มาสู่ธุรกิจขายตรงต่างเคล็ดกัน ไปตาม ๆ กัน เพราะความกลัวที่ จะถูกหลอก แต่หากท่านใด ต้องการที่จะเติบโตแบบมั่นคง อยากให้ลองมองธุรกิจดร.สาโรช ดู ซึ่งอาจจะเติบโตแบบไม่หวือ หวา แต่สามารถเติบโตได้อย่าง ต่อเนื่องและยั่งยืนแน่นอน




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 340 ประจำวันที่ 16-31 มีนาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น