ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

เปิดคัมภีร์บทใหม่ตลาดเครือข่าย เล่นกลยุทธ์ผ่านสื่อ ตอกย้ำแบรนด์ธุรกิจ









ซูมยุทธศาสตร์เหนือเมฆตลาดเครือข่าย หลังพบหลายค่ายปล่อยทีเด็ดออกอาวุธผ่านสื่อทีวี พร้อมเดินเกมแบบครบเครื่องด้วยการทุ่มงบการตลาดแบบสุดตัว-อัดแคมเปญแรง หวังกระทุ้งธุรกิจตื่น หมายสร้างแรงดึงดูด ดึงสมาชิกเข้าร่วมธุรกิจ เผยเตรียมพบเกมการแข่งขันในตลาดเครือข่ายนับจากนี้ เล่นบทบู๊-บทบุ๋น ครบทุกรส


การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะยุคไหน พ.ศ.ไหน เรื่องของ การทุ่มงบการตลาด นับเป็นของคู่กันกับทุกธุรกิจ และยิ่งมีสื่อที่ครบเครื่องด้วยแล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งขีปนาวุธที่สำคัญในการทำธุรกิจอย่างมากทีเดียว นอกจากนี้ ในเรื่องของการโปรโมทประชาสัมพันธ์ตัวเองผ่าน ภาพยนตร์โฆษณา เพื่อตอกย้ำการรับรู้ก็ถือว่าสำคัญด้วยเช่นกัน


จึงเรียกได้ว่า ทั้งในส่วนของ งบการตลาด-แคมเปญ-โฆษณา ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย ทั้งในเรื่องของยอดขายและความอยู่รอดของบริษัทนั่นเอง...แต่ยอดขายจะถึงตามเป้าที่วางไว้หรือไม่นั้น การจัดสรรงบการตลาด เพื่อแบ่งไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของการจัดโปรโมชั่นเพื่อยั่วน้ำลายผู้บริโภคก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน หากใครที่มีโปรโมชั่นที่โดนใจและกินใจย่อมชนะใจผู้บริโภคไปเกินครึ่งด้วยเช่นกัน


...เช่นเดียวกับ บริษัทขายตรง ที่หลาย ๆ ค่ายในธุรกิจนี้ ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมากทีเดียว เห็นได้จากเริ่มต้นปี มีหลาย ๆ ค่าย ต่างออกมาเทงบการตลาดกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งกันเลยทีเดียว รวมถึงมีทั้งในส่วนของโปรโมชั่นที่หลากหลายออกมานำเสนอผู้บริโภคและสมาชิกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการกระทุ้งตอกย้ำแบรนด์ด้วย ภาพยนตร์โฆษณา


จับทิศภาพยนตร์โฆษณาขายตรง


ขีปนาวุธทรงพลังตอกย้ำธุรกิจ


...หากพูดถึงอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการทำตลาดในปัจจุบันนี้ เชื่อว่าในเรื่องของการสื่อความหมายในเชิงของธุรกิจผ่านช่องทางทีวีถือว่าเป็นสื่อที่คนดูแล้วเข้าใจ ที่สำคัญ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วด้วย...เช่นเดียวกับขายตรง นู สกิน ประเทศไทย ภายใต้การคุมทัพหน้าของ ภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร นู สกิน เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย และเวียดนาม ที่ในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่ชื่อว่า นู สกิน เดอะ รียูเนี่ยน


ซึ่งทางด้านภคพรรณเอง ได้กล่าวว่า นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของ นู สกิน ประเทศไทย เลยก็ว่า ที่ได้นำกลยุทธ์การเข้าถึงผู้บริโภค โดยดึงจุดแข็งของความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชรา มาใช้ในการสื่อสารไปยังผู้บริโภค ผ่านภาพยนตร์โฆษณาแบบเต็มรูปแบบครั้งแรก ซึ่งได้มอบหมายให้ บริษัท ทีบี ดับบลิว เอ (ประเทศไทย) จำกัด วางกลยุทธ์โฆษณาและผลิตภาพ ยนตร์โฆษณาชุด นู สกิน เดอะ รียูเนี่ยน เพื่อตอบโจทย์การตลาดและตอกย้ำภาพลักษณ์ของบริษัทฯ


สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้นั้น เป็นการมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ นู สกิน ให้เป็นที่รู้จัก ด้วยการสะท้อนผ่านจุดขาย เรื่องผลลัพธ์แห่งวิทยาการของการล็อกอายุผิว ให้คงความอ่อนเยาว์ไร้ริ้วรอยและมีสุขภาพผิวดี ที่สอดรับกับนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอจล็อคของ นู สกิน ที่ยังคงเป็นปัจจัยในการสร้างความสำเร็จ และส่งเสริมยอดขาย ซึ่งทางด้าน นู สกินเอง ได้คาดหวังกับภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อและชื่นชอบในตัวผลิตภัณฑ์ และสามารถทำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ในแบรนด์ นู สกิน เพิ่มขึ้นถึง 50% ภายในเวลา 3 เดือนอีกด้วย...ถือเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์โฆษณาที่ทาง นู สกิน ต้องการที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำทางด้านต้านความชรานั่นเอง


เช่นเดียวกับทางด้าน หมอเส็ง ที่ในเรื่องของการโฆษณาผ่านสื่อในช่วงปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้น้อยหน้าเช่นกัน เห็นได้จากในปี 2555 ที่ผ่านมา ได้มีการประเดิมขึ้นโฆษณาป้ายบิลบอร์ด และรถประจำทางยูโรทูเพื่อย้ำชื่อ หมอเส็ง พร้อมกับชูความโดดเด่นของสมุนไพร ว่านชักมดลูก เพื่อคุณผู้หญิงอีกด้วย


ซึ่งในปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่า หมอเส็ง ได้มีการบุกตลาดแมส ด้วยการทุ่มงบประมาณกว่าสิบล้าน ในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อต้องการที่จะอาศัยกลยุทธ์สร้างความน่าเชื่อถือ และให้ความรู้ควบคู่กันไป ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านในที่นี้ คงอาจจะพบเห็นป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่อยู่ในตำแหน่งสำคัญของกรุงเทพฯ กันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นป้าย LMB13 บริเวณถ.เพชรบุรีตัดใหม่ (สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ) ทิศทางมุ่งหน้าย่านทองหล่อ/เอกมัย/คลองตัน ป้าย LMB21 บริเวณถ.พระราม 9 มุมมองด้านจากมอเตอร์เวย์ ไปสู่ถนนพระราม 9 และ ป้าย LMB32 บริเวณสนามกีฬาสโมสรการท่าเรือฯ ทิศทางมุ่งหน้าถนนพระราม 4 และ ถนนพระราม 3 เป็นต้น


และนอกเหนือจากการส่งป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ เพื่อตอกย้ำแบรนด์หมอเส็งแล้ว ต้องบอกว่า หมอเส็ง เอง ยังมีการปล่อยภาพยนตร์โฆษณาผ่านทางฟรีทีวีเพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงแบรนด์หมอเส็งอีกด้วย โดยการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นตัวนำร่องในการสื่อสารให้กับผู้บริโภคนั่นก็คือ ยาบำรุง กวาวเครือขาว ตราหมอเส็ง และครีมบำรุงผิวหน้า ที่เป็นการถ่ายทอดผ่านทางพรีเซ็นเตอร์สาว บอกถึงคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ พร้อมกับตบท้ายด้วย เสียงคุณหมอเส็งที่พูดว่า... เรื่องสมุนไพรไว้ใจผม หมอเส็ง...


อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งภาพ ยนตร์โฆษณาที่ทาง คุณฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร หรือ หมอเส็ง ได้ออกมาตอกย้ำธุรกิจด้วยตนเอง ด้วยการบอกว่า... คุณผู้หญิงที่มีปัญหาในเรื่องของผิวพรรณบนใบหน้า ทั้งสิว ฝ้า หน้าด่างดำ หมองคล้ำ รูขุมขนใหญ่ ไม่กระชับ กร้านแห้ง ทาแป้งไม่ติด ถ้าท่านอยากได้ผิวหน้าขาวใส ภายใน 7 วัน โทรมาคุยกับผม.... ...ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการตอกย้ำภาพของความสำเร็จในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์สมุนไพรหมอเส็งได้เป็นอย่างดีทีเดียว


...นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของ บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้การนำทัพของ ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริหาร ที่ก็ได้ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาชุดหนึ่ง เพื่อสื่อสารให้กับผู้ที่ต้องการมองหาอาชีพเสริมเช่นกัน ซึ่งภาพยนตร์ชุดนี้นั้น ทางด้านของดร.นพรุจเอง ต้องการที่จะสื่อสารกับทุกคนว่า หากเข้ามาสู่ ธุรกิจขายตรง แล้วสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ได้จริง


โดยภาพยนตร์ชุดนี้ ดร.นพรุจ ได้พูดว่า... บนเส้นทางธุรกิจขายตรงของคนไทย กว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา เราได้สร้างธุรกิจอิสระที่เป็นอาชีพที่มั่นคงแก่ผู้คนทุกระดับอย่างมากมาย เราตระหนักที่ว่า การสร้างธุรกิจขายตรงที่ดี และมั่นคงนั้น คือ รากฐานที่สำคัญ ในการมอบชีวิตที่ดีแก่สังคมไทย ด้วยรางวัลแห่งเกียรติยศ สาขาสร้างงาน สร้างอาชีพ และรางวัลคืนชีวิตใหม่ให้กับคนไทย 3 ปีซ้อน ผมขอขอบคุณพี่น้องทุก ๆ คน ที่ให้ความไว้วางใจธุรกิจขายตรงของคนไทย ที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จเป็นอันดับหนึ่ง วันนี้เราพร้อมขยายธุรกิจนีโอไลฟ์ไปสู่อาเซียน ด้วยศักยภาพธุรกิจของคนไทยอย่างมั่นคง และยั่งยืน คุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวสู่ความสำเร็จกับเรา... เรียกว่านี้คือ การออกมาตอกย้ำถึงความสำเร็จของธุรกิจนีโอ ไลฟ์ ในตลอดระยะเวลา 1 ทศวรรษที่ผ่านมา กับความยั่งยืนของธุรกิจนี้นี่เอง ที่ทางดร.นพรุจ ต้องการที่จะสื่อสารในเรื่องนี้


ขายตรงเทกระจาดงบเพียบ


เร่งสร้างความแกร่งธุรกิจโต


...ณ ปัจจุบันนี้ หากจะพูดถึงในเรื่องของ งบประมาณการตลาด และ แคมเปญ สำหรับธุรกิจแล้วล่ะก็ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญ ในการทำธุรกิจเพื่อกระตุ้นยอด กระตุ้นกำลังการซื้อของผู้บริโภคให้เกิดขึ้นนั่นเอง เห็นได้อย่าง บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ มิสทิน ในต้นปีนี้ ก็ได้มีการจัดแคมเปญ Mistine I am ที่ถือเป็นการเจาะกลุ่มวัยรุ่น ที่มีการประกบแคมเปญด้วยกิจกรรมออนไลน์ควบคู่กันเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยที่ผู้บริโภคได้มีส่วนรวมกับสินค้า ด้วยการแจกตลับแป้งรูปหน้าตนเอง 1,000 ตลับ ผ่านการตกแต่งในเว็บไซต์ ทั้งออนไลน์/ดิจิตอล ที่จะมีไปควบคู่กับทุกแคมเปญของมิสทิน


นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ตลอดทั้งปีนี้ทาง มิสทิน เอง ยังจะมีแคมเปญเพื่อมากระตุ้นตลาดอีกกว่า 25-26 แคมเปญด้วยกัน ด้วยงบการตลาดและประชาสัมพันธ์ทั้งปีนี้ ที่ทาง มิสทิน เอง ตั้งไว้อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อน 20% โดยงบ 300 ล้านบาท จะเป็นสำหรับดิจิตอลแคมเปญ เฉลี่ยเดือนละ 2 แคมเปญด้วยกัน


ที่สำคัญ มินทิน ยังได้เตรียมลงทุนอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อเปิดศูนย์กระจายสินค้าใหม่ย่านลาดหลุมแก้ว หรือ ชื่อโครงการ Better Land เพื่อเตรียมผันตัวเป็นเทรดดิ้งครบวงจร ทั้งผลิตสินค้า ทำการตลาด และจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างไป 50% ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้ได้อย่างเป็นทางการประมาณกลางปีนี้ ขณะเดียวกัน มิสทิน ยังมีแผนขยายธุรกิจขายตรงไปต่างประเทศอีกด้วย โดยเป็นลักษณะร่วมทุนกัน ซึ่งได้มีการเริ่มต้นไปแล้วที่ประเทศลาวและจะขยายต่อไปกัมพูชา และ อินโดนีเซียต่อไป


อีกทั้ง มิสทิน เอง ยังได้เตรียมจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ที่ได้มีการทดลองจำหน่ายกับสาวมิสทินก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งสินค้าเครื่องสำอาง และ แค็ตตาล๊อก Friday เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่ชอบเข้าโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดยจะเริ่มใช้งานได้ประมาณช่วงปี 2557 นี้


...ส่วนอีกหนึ่งค่ายขายตรง มาบุญครอง ในปีนี้ ต้องบอกว่า เร่งเครื่องปลุกธุรกิจให้ตื่นตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว หลังจากที่ในช่วงปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดทำโครงการพัฒนาเกษตรกรไทย ก้าวไกลสู่สากล โดยสารปรับปรุงดินศิริชัยและ ศิริชัย ไบโอ พลัส เมื่อวันที่ 10-11 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ส่งผลทำให้บริษัทฯ จึงได้มีการอัดงบประมาณเพิ่มเติมขึ้นอีก จากเดิม 30 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท พร้อมกับจะมีการแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศไทยกว่า 20,000 ครัวเรือนอีกด้วย เพื่อให้นำไปทดลองใช้ทำแปลงสาธิต โดยจะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นไป ซึ่งการอัดฉีดทุ่มงบการตลาดดังกล่าวของค่ายมาบุญครองในครั้งนี้ ถือว่าจัดหนัก จัดเต็มเพื่อสมาชิกจริง ๆ


ซึ่งทางด้านเอ็มดีของค่าย มาบุญครอง ต่างมีความมั่นใจว่า การทุ่มงบในการสนับสนุนครั้งนี้ จะสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทฯ ให้ทะลุเป้าหมาย 2,000 ล้านบาท และส่งผลให้มีผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจมาบุญครองเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย


...เช่นเดียวกับทางด้าน บริษัท เอเชีย สุพรีม จำกัด ที่นำโดยนายสุธีร์ รัตนนาคินทร์ ประธานผู้ก่อตั้ง ก็ได้ออกมาประกาศพร้อมที่จะเปิดเกมรุกเต็มอัตราศึกด้วยการ เตรียมมุ่งกิจกรรมทางด้านการตลาดในปีนี้อย่างเต็มที่ พร้อมกับได้มีการวางนโยบายที่รัดกุม รวมถึงการจัดกิจกรรมในส่วนของการมอบของรางวัลในเรื่องของการกระตุ้นยอดขายสมาชิก ที่จะมีการแบ่งออกเป็นในแต่ละไตรมาส เช่น ในส่วนของโปรโมชั่นกิจกรรมท่องเที่ยว ที่ในปีนี้ เอเชีย สุพรีม ได้กำหนดโปรโมชั่นทริปท่องเที่ยวในประเทศอยู่ที่ 2 ครั้ง และต่างประเทศ 2 ครั้ง (เวียดนาม และนิวซีแลนด์) รวมถึงในส่วนของโปรโมชั่นรถยนต์อีกด้วย...ถือเป็นอีกหนึ่งแคม เปญที่เรียกได้ว่า ค่ายนี้ต้องการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับสมาชิกนั่นเอง


...ส่วนทางด้านค่าย ออริเฟรม ในปีนี้ ก็ทุ่มงบจัดแคมเปญแบบเร่าร้อนด้วยการแจก MAZDA 2 สำหรับผู้ที่สามารถขึ้นตำแหน่ง โกลด์ไดเร็คเตอร์ใหม่ ภายในปี 2556 มูลค่ากว่า 600,000 บาท


ด้านยักษ์ใหญ่ขายตรงอย่าง แอมเวย์ ปีนี้ ยังคงเน้นกลยุทธ์เดิม โดยมุ่งเน้นกิจกรรมที่ทำให้เกิดประสิทธิผลมากที่สุด พร้อมชูกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงเตรียมนำเสนอไลฟ์สไตล์โซลูชั่นสำหรับกลุ่มบุคคลในวัยรุ่นและไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองปัญหาหรือความต้องการเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ แอมเวย์เอง ยังเตรียมที่จะสานต่อการสื่อสารเชิงรุก ด้วยการสร้างแบรนด์ให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคผ่านการใช้กระแสโซเชียลมีเดีย ซึ่งปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าแอมเวย์ ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ในการเพิ่มจำนวนไลค์ของแฟนเพจรวม 4 แบรนด์ คือ แอมเวย์ อาร์ทิสทรี นิวทริไลท์ และอีสปริง มียอดไลค์ (like) ถึง 273,218 ไลค์ด้วยกัน อีกทั้งในปีนี้ แอมเวย์ยังคงเดินหน้าสร้างแอมเวย์ ช็อป ให้กระจายสู่จังหวัดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้บริโภค สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายและสะดวกขึ้นด้วย


อีกทั้งยังพบอีกว่า แผนงานหลักที่สำคัญ ของแอมเวย์ในปีนี้ ยังมีในส่วนของการสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ในฐานะมืออาชีพอีกด้วย ซึ่งล่าสุดที่ผ่านมา แอมเวย์ ได้มีการตั้งแผนกใหม่ชื่อว่า แผนกส่งเสริมศักยภาพนักธุรกิจแอมเวย์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของนักธุรกิจแอมเวย์ผ่านการจัดฝึกอบรม สัมมนาอีกด้วย


...จะเห็นได้ว่า วันนี้ หากบริษัทขายตรงค่ายไหน ที่ความครบเครื่องในเรื่องของธุรกิจไม่เพียงพอ ต้องบอกว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งสร้างความโดดเด่นของธุรกิจให้เกิดโดยเร็ว เพราะปัจจุบันนี้เกมการแข่งขันในเชิงธุรกิจค่อนข้างที่จะแข่งขันกันอย่างดุเดือดเลยทีเดียว ซึ่งหากค่ายไหนที่มี ความเก๋าเกม มากพอ รวมถึงมี ความนิ่ง ของ องค์กร ที่แกร่งพอ เชื่อว่าเป้าหมายที่วางไว้ ก็ย่อมสำเร็จด้วยเช่นกัน....




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 339 ประจำวันที่ 1-15 มีนาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น