ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

ฉีกหน้ากากมนุษย์ M พันธุ์ใหม่ "ไมเคิ้ล ซาเฟล" พ่อมดขายตรง









เปิดตัวมนุษย์ M ยุค 2013 ไมเคิ้ล ซาเฟล เด็กหนุ่มชาว เดนมาร์กที่หันมาเอาดีในการทำธุรกิจขายตรงเมืองไทย อาศัยการ เดินตามรอยฝันของครอบครัวมุ่งหน้าสู่ เฮอร์บาไลฟ์ จนก้าวสู่ผู้นำ หมายเลข 1 แต่บทสิ้นสุดของเขาไม่เพียงแต่จะถูกขับออกจากกิจการ แห่งนี้ หากแต่ยังทิ้งคำถามให้กับสังคมเอาไว้มากมาย ถึงรูปแบบ และวิธีการทางการตลาด ที่สร้างความเจ็บแค้นให้คนรุ่นใหม่จำนวน ไม่น้อย...


ถ้าเอ่ยชื่อของ ไมเคิ้ล ซาเฟล มนุษย์เอ็มสายพันธุ์เดนมารก์ ผู้นี้ในวงการขายตรง ระดับ 5 ดาว คงต้องยกนิ้วให้ถึง ความเก่งกาจสามารถ สมเป็น นักขายระดับพระกาฬ ที่หา ตัวจับยากคนหนึ่งของเมืองไทย ทุกวันนี้ ไม่ว่าใครจะมอง ว่า เขาเป็นอย่างไร สร้างความ เจ็บชํ้าเอาไว้ให้ใครต่อใครมาก เพียงใด แต่บุรุษหนุ่มผู้มากไป ด้วยเทคนิคลีลาการขายแพรวพราวผู้นี้ ก็ยังยืนหยัดอยู่บน ถนนขายตรงเมืองไทยได้อย่าง สง่าผ่าเผย ผู้นำระดับบลูไดมอนด์ แห่ง บริษัท บีฮิบ (ไทยแลนด์) ย่อมเป็นหลักประกันถึง บทบาท และความเหนือชั้นที่ยังคงเส้น คงวา แม้แต่ผู้บริหารระดับสูง ของกิจการแห่งนี้ ยังกล้าแอ่น อกมารับประกัน ความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ได้โดยไม่แคร์เสียง วิพากษ์วิจารณ์จากใคร ไมเคิ้ล ไม่สามารถอ่าน และเขียนภาษาไทยได้ แต่ สามารถเข้าใจและเข้าถึงตลาด ขายตรงเมืองไทยได้ โดยติดต่อ สื่อสารกับมวลหมู่สมาชิก รีครูทคนเข้าสู่กระบวนการ ขายตรงได้นับหมื่นคน มีความสำเร็จมากมาย ที่บุรุษหนุ่มตานํ้าข้าวผู้นี้ ได้ บันทึกเอาไว้ในตำนานธุรกิจ ขายตรงเมืองไทย อย่างน้อยการพิชิตฝัน ที่เขาเคยตั้งความหวังเอาไว้กับ เฮอร์บาไลฟ์ เมื่อเยาว์วัย ก็ทำได้ ไกลเกินฝันไปด้วยซํ้า ครอบครัวของ ไมเคิ้ล ซาเฟล เป็นครอบครัวที่เกิดมา เพื่อทำธุรกิจขายตรงโดยแท้ โดย เอียน ผู้เป็นพี่ชาย ถือ เป็น IDOL และเป็นผู้จุด ประกายความฝัน ให้เขาคิดที่ อยากจะยิ่งใหญ่ในวงการธุรกิจ ขายตรง เนื่องจากประสบ ความสำเร็จรํ่ารวย จากเฮอร์ บาไลฟ์ ไม่เว้นแม่แต่พ่อกับแม่ ของไมเคิ้ล ที่ต่างก็เป็นสาวก ของ เฮอร์บาไลฟ์เช่นกัน !!! ไม่มีคำอธิบายว่า เหตุใด หรือทำไมที่ไมเคิ้ลตัดสินใจมุ่ง หน้าสู่ประเทศไทย แตส่วนหนึ่ง อาจเป็นไปได้ ที่เฮอร์บาไลฟ์ มา เปิดกิจการในเมืองไทยเป็น เวลาหลายปีแล้ว ประกอบกับ ตลาดขายตรงในบ้านเรา ก็โต วันโตคืน


ถ้าหากจะพูดว่า ไมเคิ้ล ซาเฟล ดั้นด้นมาตามความฝัน ก็คงไมผิด เพราะการเดินทางสู่ ประเทศไทยครั้งแรกของเขา อยู่ ในวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น ไม่ต่างอะไรกับ โรบินฮู้ด ที่ต้องการมาขุดทองเพื่อ หวังตักตวงผลประโยชน์สู่บ้าน เกิดของตนเอง ไมเคิ้ลซาเฟล ต่อสู้ชีวิต ในเมืองไทย ด้วยการเดินแจก ใบปลิวไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อหารายได้ยังชีพ โดยรายได้ อีกส่วนหนึ่ง ว่ากันว่า น่าจะเป็น รายได้ที่ทางครอบครัวของ ไมเคิ้ล คอยส่งมาให้เป็นระยะ ๆ ผ่านมาเพียงระยะเวลา 2 ปี อาจจะเป็นเพราะความ เป็นเด็กหนุ่มบุคลิกดี ทำให้ ไมเคิ้ล มีโอกาส ได้พบกับสาว ไทยฐานะดี แม้จะต่างวัยกัน หลายปี แต่ทั้งสองก็ลงเอยกัน ได้ ราวกับนิยาย
พิม มีฐานะรํ่ารวย ที่ไม่ เพียงแต่จะมอบความรักให้ ไมเคิ้ลเท่านั้น หากแต่ยังมอบชีวิตใหม่ให้กับ ไมเคิ้ล ที่คอย ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ทางการเงิน หรือการลงทุนใน ด้านต่าง ๆ แต่แล้วผ่านมาวันหนึ่ง ฝันของ ไมเคิ้ล ก็เริ่มเป็นจริง เมื่อ จู่ ๆ มีคน พาเขาไปรูจั้กกับ ผู้นำของเฮอร์บาไลฟ์ ที่ตึก สำนักงานอาคาร ไทยซีซี เขาถูกชักชวนให้เข้าร่วม องค์กรด้วย จนมีโอกาสได้ขยับ ขยาย สามารถเปิดสำนักงาน เป็นของตนเองได้ โดยอาศัย สำนักงานชั้น 16 อาคารไทยซีซี เป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มงาน กับ เฮอร์บาไลฟ์


นับย้อนเวลาไปในขณะ นั้น มาถึงวันนี้ ก็คงไม่ตํ่ากว่า 10 ปีเศษ แต่สิ่งที่ ไมเคิ้ล ซาเฟล ได้คิดริเริ่มวางแผนการตลาด กลับดูใหม่มากสำหรับยุคนี้ แผนการทำธุรกิจของ ไมเคิ้ล เริ่มต้นด้วยการใช้สื่อ อินเตอร์เน็ต ชักชวนให้คนที่ อยากมีรายได้เสริมเข้ามาร่วม องค์กร โดยมีการว่าจ้างเว็บไซด์ ต่าง ๆ ให้ลงโฆษณา ระยะเริ่มต้น ว่ากันวา พิม มีบทบาทสำคัญเป็น อย่างมาก ในการผลักดันให้ ไมเคิ้ล ร่วมงานกับ เฮอร์บาไลฟ์ โดยคอยให้การสนับสนุนทุก ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิด สำนักงานที่อาคารไทยซีซี ชั้น 16 หรือแม้แต่ทุนที่ใช้ในการลง โฆษณา ไมเคิ้ล ไม่เพียงแต่มีมัน สมองที่เฉียบแหลม ในการปลุก กระแสคนรุ่นใหม่ให้เข้าสู่ กระบวนการขายตรงเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญ ในการสร้างนักขายระดับผู้นำ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้ องค์กรของเขาเติบโตอย่าง รวดเร็ว หนึ่งในนั้น ที่เปรียบ เสมือนมือซ้ายของเขา ก็คือ บ๊อบ คนต่อมา เป็นนักศึกษา แพทย์ ชื่อ ซี เป็นเสมือนมือ ขวาของไมเคิ้ล มีพรสวรรค์ใน การพูดเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน กำลัง สำคัญของ ไมเคิ้ล อีกคนหนึ่งที่ ซี ชักนำเข้ามา ก็คือ บอล ถือเป็นมือซ้ายของ ซี รวมไปถึงพยาบาลสาว อีก 1 คน ก็คือ นก ที่เปรียบ เสมือนมือขวาของ ซี ที่ถูก ชักนำเข้ามาร่วมงาน ส่วนทางด้านตัว นกเอง ก็ได้ สน ซึ่งเป็นบุคคลที่ ซี แนะนำเข้ามาต่อสายงาน รวมไปถึง นัส และ เอฟ ที่เข้ามาร่วมงาน ต่อสาย งานเป็นทอด ในช่วงที่ ไมเคิ้ล ซาเฟล ฟอร์มทีมขึ้นมาครั้งแรก โดยทั้ง 8 คนที่ว่านี้ ได้รับ การตั้งฉายาจากคนในโซเชียล มีเดียว่า เป็น 8 เทพอสูร แห่ง วงการขายตรง การสร้างเครือข่ายผ่าน อินเตอร์เน็ต เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพมาก โดยชั่วระยะ เวลาเพียง 1 ปี สำนักงานของ ไมเคิ้ลที่บริเวณชั้น 16 อาคาร ไทยซีซี ก็ดูจะคับแคบ ไม่ สามารถรองรับสมาชิกที่เพิ่มขึ้น ได้ ในเวลาต่อมาเขาก็ ได้ไป ขยายการเช่าสำนักงานเพิ่ม บริเวณชั้น 17 อาคารเดียวกัน ระบบการทำงานของ ไมเคิ้ล เริ่มจากการสร้างแรง จูงใจผ่านโฆษณาทางอินเตอร์ เน็ต โดยในจำนวน 8 คนที่ ร่วมงานกับเขา ส่วนใหญ่เป็น นักศึกษาแพทย์ พยาบาล ที่ สังคมล้วนให้ความเชื่อถือ เมื่อเริ่มมีคนสนใจเป็นสมาชิก พร้อมจะเข้าร่วมทำ ธุรกิจ แม้ระบบขายตรงทั่วไป แม่ทีม จะทำหน้าที่คอย สนับสนุนในสายงานของตน เพื่อช่วยผ่อนแรงให้กับลูกทีม ของตนเอง โดยมีการแนะนำ กลุ่มลูกค้าที่จะต้องเข้าไปเพื่อ ชักจูงเข้าร่วมองค์กร


แต่สำหรับ วิธีการสร้าง เครือข่ายของ ไมเคิ้ล ซาเฟล กลับสร้างเงื่อนไขบางอย่าง ที่ดู เหมือนกับเป็นภาระทางการเงิน แก่สมาชิกใหม่ ด้วยการใช้ เทคนิคการสร้างแรงจูงใจเพื่อ ก้าวไปสู่ความฝันของทุกคน โดยที่ทุกคนแทบไม่รู้ว่า นี่คือ การระดมเงินรูปแบบหนึ่ง วิธีการเข้าร่วมเป็นสมาชิก ในองค์กรของ ไมเคิ้ล ซาเฟล ด่านแรก ก็คล้าย ๆ กับวัดใจ คือ เขาจะอาศัยพลพวงจากการ โฆษณาผ่านอินเตอร์เน็ต ที่มี คนสนใจเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเก็บรายชื่อผู้ที่แสดงความ สนใจเอาไว้ เพื่อนำไปขายให้ กับสมาชิกใหม่ที่ยังไม่มีเครือ ข่ายของตน โดยอ้างว่า รายชื่อ เหล่านี้ เป็นรายชื่อที่มีต้นทุน จากการโฆษณา ซึ่งว่ากันว่า สนนราคาอยู่ที่ 20-100 บาท/ รายชื่อทีเดียว มีสมาชิกบางคนที่เคย ร่วมงานกับ ไมเคิ้ล ซาเฟล เล่า ให้ ตลาดวิเคราะห์ ฟังว่า ทุก อย่างในการขับเคลื่อน ดูเสมือน กับเป็นการดำเนินตาม สคริปต์ ที่มีไมเคิ้ลเป็นผู้กำกับอยู่เบื้อง หลัง โดยเฉพาะ 8 เทพอสูร ที่ ไมเคิ้ลได้หลอมขึ้นมา จะมีการ เดินไปตามเกมที่สอดรับกันเป็น ทอด ๆ ฉากด้านหนึ่งมีการแสดง ให้เห็นถึงความสำคัญของการ ร่วมประชุม (HOM) ที่มีเนื้อหา หรือหลักสูตร ที่คนทั่วไปไม่มี โอกาสจะได้รับรู้ ฉากต่อมา การประชุม ในรูปแบบที่เรียกว่า STS แม้จะ เป็นสมาชิกในองค์กร แต่ก็ต้อง ผ่านการเป็นผู้นำ หรือผู้ที่ถูก เลือกสรรว่าพร้อมจะเป็นผู้นำ เท่านั้น จึงจะมีโอกาส ได้เข้ามา สู่การเรียนรู้ขั้นสูง โดยมี กำหนดการประชุมปีละ 3-4 ครั้งเท่านั้น จากนั้นเมื่อเข้าสู่กระบวน การหลอมเพื่อปลุกพลังความ ฝันก็จะเป็นหน้าที่ของผู้นำทั้ง 8 ที่จะเดินแผนในการทำ MOTIVATION ที่เข้มข้น ที่เสมือน กับเป็นการทดสอบใจหรือ ความพร้อมของคนที่คิดจะร่วม งานกับ ไมเคิ้ล ที่ดูเหมือนกับ ว่า การเข้ามาร่วมงานกับเครือ ข่ายของไมเคิ้ล ไม่ได้งอนง้อ หรือเข้ามาโดยง่าย ๆ โดยเฉพาะการกำหนด เงื่อนไข การลงทุน ที่ระดับ 30,000 บาท 80,000 บาทบ้าง หรือ 140,000 บาทบ้าง ถือเป็น ด่านวัดใจที่สำคัญต่อความเชื่อ มั่นในตัว ไมเคิ้ล ซาเฟล มีคนจำนวนไม่น้อย ที่คิด อยากจะมาร่วมงานกับ ไมเคิ้ล ซาเฟล แต่เมื่อมาเจอเงื่อนไข ลงทุนในอัตราที่สูง ก็ถอดใจ เลิกราไป ประมาณว่าเกินกว่า 50% ของสมาชิกทั้งหมดที่ เสนอตัวเข้ามา


เพราะฉะนั้น คนที่สนใจ จะร่วมหัวจมท้ายกับ ไมเคิ้ล ซาเฟล แน่นอนจะต้องมีความ พร้อมที่จะเข้ามาลงทุน แม้เงิน ที่นำมาลงทุนจะต้องแลกมา ด้วยการกู้หนี้ยืมสินก็ตาม ว่ากันว่า คนส่วนใหญ่ที่ เชื่อมั่นในตัว ไมเคิ้ล ซาเฟลเป็นนิสิตนักศึกษาอยู่ในวัย 15-25 ปี เท่านั้น ซึ่งว่าไปแล้ว ก็ไม่แปลก เนื่องจากคนเหล่านี้ กำลังอยู่ในวัยสร้างเนื้อสร้าง ตัว ประกอบกับ สิ่งเย้ายวน ที่นอกจากเป้าหมายรายได้ คนละ 1 ล้านบาท/เดือนแล้ว การยืนหยัดอยู่กับองค์กรของ ไมเคิ้ล ยังมีสิ่งจูงใจด้านอื่น ๆ มากมาย ทั้งทางด้านบันเทิงเริง รมย์ ที่ดูจะถอดแบบมาจาก ตะวันตกล้วน ๆ ไมเคิ้ล ซาเฟล มีเครือข่าย เติบโตมากขึ้นเป็นลำดับ โดย อาศัย เทคนิคทางการตลาดใน รูปแบบของตนเอง อย่างอิสระ โดยที่ เฮอร์บาไลฟ์ คาดไม่ถึง ด้วยซํ้า กระบวนการขับเคลื่อน ของ ไมเคิ้ลกับมวลหมู่สมาชิก ถูกวางคอนเซ็ปต์ ในลักษณะ เป็นหุ่นส่วนทางธุรกิจมากกว่า จะเป็นการทำงานในลักษณะ เครือข่ายทางธุรกิจ โดยเฉพาะเงินทุกบาท ทุกสตางค์ ที่สมาชิกนำมา ลงทุน เพื่อยกระดับฐานะเป็น ผู้นำ เพื่อก้าวไปสู่ความฝัน สามารถเอามาแจกแจงถึง ต้นทุนในเกือบทุกด้าน ไมเคิ้ล ได้ฉายความ สำเร็จของตนเอง เพื่อเป็น IDOL ให้กับ สมาชิกทั้งมวล ด้วยราย ได้ 1 ล้านบาท/เดือน จนต่อมา ก็ได้ก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับ หนึ่งของเฮอร์บาไลฟ์ ได้สำเร็จ โดยเขาสามารถขี่รถ สปอตหรู ๆ และมีโอกาสได้ เข้าไปใกล้ชิดกับคนในวงการ บันเทิง จนเป็นข่าวคราวในสื่อ ต่าง ๆ มากมาย


แต่ช่วงระยะเวลา ที่ ไมเคิ้ล กำลังสัมผัสกับความ สำเร็จที่ตนเองฝันเอาไว้ได้ไม่นานนัก สถานการณ์ความเชื่อ มั่นที่สมาชิกมีต่อตัวเขาก็เริ่ม สั่นคลอน ด้วยสาเหตุ 2 ประการ ด้วยกัน ประการแรก กระบวนการ ในการขับเคลื่อนทางธุรกิจ ใน รูปแบบหรือสไตล์ของไมเคิ้ล เริ่มไม่เป็นที่พอใจต่อผู้บริหาร ระดับสูงของเฮอร์บาไลฟ์ เนื่องจาก มีการดำเนินกิจกรรม บางอย่างที่เกินเลย กฎเกณฑ์ที่ เฮอร์บาไลฟ์ได้วางเอาไว้ ประการที่สอง ผลพวง จากการที่กลุ่มผู้นำทั้ง 8 ได้ใช้ แนวทางการกดดันกึ่งบังคับ ให้ สมาชิกต้องปฏิบัติตามแผนที่ ไมเคิ้ล ซาเฟล กำหนดเอาไว้ เริ่มมีปฏิกิริยาต่อต้าน ซึ่งหลาย คนมองว่า ไมเคิ้ล ซาเฟล ใช้วิธี กดดันสมาชิกเกินไปจนรับไม่ ไหว สิ่งสำคัญในเวลานั้น ในด้านฐานะหรือความรํ่ารวย ของไมเคิ้ลแม้จะขึ้นไปสู่ระดับ เงินล้าน แต่ก็ไม่ได้เป็นรายได้ ที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยบาง เดือนก็อยู่ในระดับเงินแสนด้วย ซ้ำไป หลาย ๆ อย่างดูจะประเด ประดังเข้ามาพร้อม ๆ กัน ด้าน เฮอร์บาไลฟ์ ก็เริ่มออกมาตัก เตือนว่า ไมเคิ้ล ควรปรับปรุง แก้ไขวิธีการทางการตลาด เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้น จาก กระแสวิพากษ์วิจารณ์จาก อินเตอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่เพียงแต่จะทำให้ภาพพจน์ ของ ไมเคิ้ล ซาเฟล ตกตํ่าเท่านั้น หากแต่ยังส่งผลกระทบไปยังตัว สินค้าของ เฮอร์บาไลฟ์ ที่ต้อง พลอยมัวหมองไปด้วย


แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น กลับ ไม่ได้ทำให้ ไมเคิ้ล ซาเฟล สะทกสะท้าน แต่อย่างใด มีการแยก วงประชุมทำงานกันเอง เริ่มแย่ง เกซฝ่ายตรงกันข้าม หรือรวมไป ถึงไม่นำรายได้จากส่วนกลาง ไปจ่ายให้ออฟฟิศ เป็นต้น ปัญหาระหว่างไมเคิ้ล ซา เฟล และ เฮอร์บาไลฟ์ เริ่มเข้า ถึงจุดแตกหักเข้าไปทุกที ! โดยเฉพาะภายหลังจาก ที่ เฮอร์บาไลฟ์ ย้ายสำนักงาน ไปอยู่ที่ชั้น 36-38 อาคารไทยซี ซี สำนักงานชั้น 16 และชั้น 17 ที่ ไมเคิ้ล เคยใช้เป็นสำนักงาน ส่วนตัว ก็เป็นอันต้องปิดไปโดย ปริยาย ถึงขนาดที่คนในเฮอร์บา ไลฟ์ พูดกันว่า ออฟฟิศใหม่ ไม่มีที่อยู่ของไมเคิ้ล สุดท้าย เพื่อรักษา สถานภาพของตนเองเอาไว้ ไมเคิ้ล ซาเฟล จำต้องยอมบากหน้าไปขอโทษผู้น้ำของเฮอร์บาไลฟ์ เพื่อเดินหน้าธุรกิจต่อไป สถานการณ์ ดูทำท่าจะ สงบนิ่ง เมื่อไมเคิ้ล หันมาบุก หนักทางธุรกิจอีกครั้ง


โดยชั่วระยะเวลาเพียง 6 เดือน องค์กร ของไมเคิ้ลซาเฟล และ ผู้นำอีก 8 คน กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง จนสามารถก้าวสู่ทีมขายอันดับ 1 ของ เฮอร์บาไลฟ์ โดยแต่ละ คนมีรายได้สูงขึ้น สามารถใช้ จ่ายเงินได้อย่างฟุ่มเฟือย แต่ด้วยรูปแบบและวิธี การทางการตลาด ที่ไมเคิ้ล ซาเฟล ยังคงใช้วิธีการเดิม ๆ ปัญหาระหว่างเขากับเฮอร์บา ไลฟ์ ก็เริ่มประทุขึ้นมาอีกครั้ง ประกอบกับสถานการณ์ ของไมเคิ้ล ซาเฟล ก็ยังถูก สื่อมวลชนขุดคุ้ยออกมาตีแผ่ ถึงพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล มากขึ้น ทำให้ฐานะของเขาใน เฮอร์บาไลฟ์ เริ่มไม่มั่นคง เฮอร์บาไลฟ์ หาทางตัก เตือนไมเคิ้ลทางอ้อม ด้วยการ งดห้ามใช้ห้องประชุม งดเข้า ร่วมกิจกรรมพิเศษ และเก็บค่า เช่าที่ที่คั่งค้างมาหลายเดือน ทันที จนสถานการณ์เริ่มรุนแรง ถึงขั้นจะต่อยจะตีกัน เงินรายได้ที่ ไมเคิ้ล ซา เฟล เคยได้เป็นหลักล้าน ก็เริ่ม กระท่อนกระแท่น เหลือไม่ถึง หลักแสน ลามไปถึงลูกทีม และ ผู้นำหลายคนต่างก็ถูกไมเคิ้ล ซาเฟล กดดันอย่างหนัก เนื่องจากระหว่างที่เขาเดินหน้า บุกทางการตลาด มีการลงทุน อะไรไปมากมาย อาทิ เงินค่าจ้างดารา ถึง ขนาดต้องทำสัญญาผ่อนชำระ รวมไปถึงหนี้ที่เกิดจากการ โฆษณาก็เริ่มมีการทวงไล่หลัง มาเป็นระลอก จนบางครั้ง ว่ากันว่า ไมเคิ้ล ซาเฟล ถึงกับระเบิด อารมณ์ ไล่ตะเพิด ลูกทีมออก มาหลายคน


และนี่อาจเป็นสัญญาณ แห่งการสิ้นสุดของการเป็นผู้นำ หมายเลข 1 ของ เฮอร์บาไลฟ์ เนื่องจากหลังจากนั้นในเวลา ต่อมา เขาก็ถูกเฮอร์บาไลฟ์ ขับ ออกจากบริษัท ทั้ง ๆ ที่ภาระหนี้ สินต่าง ๆ ก็ยังคั่งค้างอีกหลาย รายการ การเริ่มต้นสู่ธุรกิจขาย ตรงอีกครั้งของ ไมเคิ้ล ซาเฟล มีการพลิกบทบาทสู่การเป็น บริษัท บริหารเครือข่ายขายตรง อย่างเต็มรูปแบบ โดยอาศัย บริษัท Global Ad. เป็นหัวหอก ในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยหลังจากที่เขาได้หัน หลังให้กับ เฮอร์บาไลฟ์ ไปแล้ว ก็หันมา ทำตลาดให้กับ AGEL อยู่ระยะหนึ่งโดยรูปแบบการทำตลาดก็ยังเป็นรูปแบบเดิม ๆ เหมือนกับที่เคยใช้กับ เฮอร์บา ไลฟ์ จากนั้นในเวลาต่อมา ชื่อของเขา ก็ปรากฏสู่วงการ ธุรกิจขายตรงอีกครั้ง ในบริษัท บีฮิบ (ไทยแลนด์) ท่ามกลาง ความสงสัยของสื่อมวลชน ว่า สิ่งที่ ไมเคิ้ล ซาเฟล ได้ทำไป นั้น เหมาะสมกับสังคมไทย หรือไม่ ไมเคิ้ล ซาเฟล ยังคงได้ รับการยอมรับจากผู้บริหาร ระดับสูงสุดของ บีฮิบอย่าง ไม่มีเงื่อนไข แม้บางครั้งภาพ พจน์ของ บีฮิบ จะถูกมองว่า กำลังเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไป กับ เรื่องราวในอดีตของ ไมเคิ้ล ซาเฟล ก็ตาม


การเปิดตัวผู้นำคนใหม่ ของ บีฮิบ ครั้งนี้ ถือเป็น การแสดงตัวต่อสาธารณะ ของ ไมเคิ้ล ซาเฟล ครั้งแรก ที่ไม่ว่าใครจะมองเขาอย่างไร แต่สิ่งที่สังคมตั้งคำถาม ก็คือ รูปแบบและวิธีการทางการ ตลาด ที่ไมเคิ้ล ซาเฟล ได้ทำมา ในอดีตนั้น ควรแก่การยอมรับ หรือไม่ หรือนี่คือ สูตรสำเร็จของ คนทำธุรกิจขายตรง




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 340 ประจำวันที่ 16-31 มีนาคม 2556

3 ความคิดเห็น:

  1. ข้อมูลข่าวผิดพลาดมากมาย หลายอย่างไม่เป็นความจริง อ่านแล้วไม่รู้ว่าไปได้ข่าวมาจากที่ไหน ถ้าต้องการข้อมูลที่ถูกต้องติดต่อมาได้ครับ

    ตอบลบ
  2. จิตวิญญาณของตะวันตกมันก็คือตะวันตกไมเคิ่ลก็แค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนที่ไม่รู้วิถีแห่งตะวันออก
    ถ้าข้องใจมาดวลปืนกับผมมั้ยล่ะ
    หรือคุณกินขี้เบอร์รี้มากเกินจนสมองเสื่อมไอ้ลิ่วล้อ

    ตอบลบ
  3. เคยหลวมตัว เข้าไปทำ ไม่โอเคมากๆ เสียเงิน เสียเวลา เกือบเสียการเรียน มีคนที่เขาทำได้ก็มี ใช่ว่าอยู่ความพยายามของคนหรือบุญวาสนา ฉันไม่ชอบหลอกหลวงใคร ไม่ทำมันบาปคะ

    ตอบลบ