ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

ข่าว เอวอน คอสเมติคส์(Avon Cosmetic) : เอวอนคาดยอดขายมาเลย์โต2หลัก ธุรกิจจีนย่ำแย่ลุยปิดสาขากว่า 10 แห่ง









เอวอน มาเลเซีย มองยอดขายในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอีก แม้จะค่อนข้างท้าทาย เพราะปีที่ผ่านมายอดขายเพิ่มขึ้น 20 ล้านริงกิตหรือประมาณ200 ล้านบาท
แคโรลีน นูร์ อมีร่า ลี กรรมการ ผู้จัดการ เอวอน มาเลเซีย กล่าวว่า เป็น สิ่งสำคัญอย่างมากกับบริษัทที่จะต้อง รุกในช่วงที่โมเมนตั้มการเติบโตยังมี แรงเหวี่ยงสูงโดยบริษัทจะเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่เกือบ 10 ตัวเสริมการ ขยายธุรกิจในปีนี้
เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ ในกลุ่มบล็อคบัสเตอร์หลาย อย่างรวมไปถึงกลุ่มดูแลผิวด้วย ส่วนกลุ่มเครื่องใช้ภายในบ้านจะ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องครัวและ ผลิตภัณฑ์เก็บรักษาอาหารตัวใหม่ นอกจากนี้ยังจะมีเครื่องแต่งกาย ใหม่เฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่คาดว่าจะ เป็นสินค้ายอดนิยมด้วย
ทั้งนี้ เอวอน มาเลเซียมีร้าน เอวอนบูติกประมาณ 200 ร้านทั่ว ประเทศ ผู้จัดการเขต 42 คนที่จะให้คำ แนะนำและคำปรึกษาแก่สมาชิกของ พวกเขา ลี บอกว่า สิ่งสำคัญสำหรับเอวอน คือความท้าทายที่จะต้องอยู่ใน ระดับเดียวกับบริษัทขายตรงรายอื่นๆ ใน ตลาดให้ได้
เราต้องอยู่ในระดับเดียวกัน กับคู่แข่งเพื่อที่จะเปลี่ยนรสนิยมของ ผู้บริโภคและนักขายของเรา สิ่งสำคัญ คือเราต้องนำเสนอในสิ่งที่ผู้บริโภค ต้องการให้ได้และต้องการแข่งขันกับ คู่แข่งให้ได้ด้วยการประชุมแผนงาน กับนักขายของเรา
ปีที่ผ่านมา เอวอน มาเลเซียทุ่ม เงินถึง 7 ล้านริงกิตหรือประมาณ 70 ล้าน บาทเพื่อเป็นค่าตอบแทนและโบนัสให้กับ นักขายราว 40 คน
ขณะที่กิจการในมาเลเซียกำลัง เติบโต แต่ธุรกิจของเอวอนในจีนกลับ สวนทางเมื่อได้ปิดสาขาไปถึง 10 แห่ง หลังจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เอวอนมี รายได้จากธุรกิจในจีนลดลงต่อเนื่องจาก 2,400 ล้านหยวนหรือประมาณ 12,000 ล้านบาท ในปี 2546 เหลือไม่ถึง 1,000 ล้านหยวนหรือประมาณ 5,000 ล้านบาทในปี 2555
ทั้งนี้ บริษัทขายตรงเครื่องสำอาง จากสหรัฐฯ อย่างเอวอน มีแผนที่จะเลิก จ้างพนักงาน 1,500 คนทั่วโลกและถอน ธุรกิจออกจากเกาหลีใต้ และเวียดนาม ซึ่ง แหล่งข่าวในเอวอนกล่าวว่าบริษัทฯจะปิด สาขาในจีนมากกว่า 10 แห่งเพื่อยุติธุรกิจ ขายตรงและเปิดเป็นแฟรนไชส์แทน
เอวอนเริ่มทำธุรกิจในจีนในปี 2533 ด้วยการตั้งบริษัทและมีการปรับตัว อยู่ 3 ช่วงเพื่อให้เข้ากับตลาดจีน โดยใน ปี 2541 ถูกรัฐบังคับให้หันไปทำธุรกิจค้า ปลีกและเปิดแฟรนไชส์มากกว่า 100 แห่ง ทั่วประเทศจีน หลังธุรกิจขายตรงถูก รัฐบาลจีนแบนต่อมาในปี 2549 ซึ่งเป็นปี ที่ได้รับใบอนุญาตขายตรงเป็นรายแรก จากรัฐบาลจีน บริษัทก็เดินธุรกิจผ่านแผน ไฮบริด หรือการขายผ่านร้านค้าควบคู่ กับขายผ่านตัวแทนแต่ทั้งจำนวนร้านค้า และยอดขายลดลงเนื่องจากบริษัทเรียก เก็บค่าธรรมเนียมแพง
ปี 2551 บริษัทต้องเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวการติดสินบนและยอดขายที่ยิ่ง แย่ลงก่อนที่เดือนเมษายนปี 2553 ทาง เรเน ออร์โดเนซ ผู้จัดการเอวอนประเทศ จีนหันมาขยายธุรกิจขายตรงภายใต้รูป แบบการขายแบบผสมทำให้เอวอน ขาดทุนต่อเนื่องและอีกไม่กี่ปีจากนั้น เขาก็บอกว่าถึงเวลาที่บริษัทจะต้องหนี จากประเทศจีน
จนกระทั่งมีนาคมปีที่ผ่านมา จอห์น หลิน ผู้บริหารใหม่ที่เพิ่งได้รับ การแต่งตั้งได้นำการปฏิรูปมาสู่เอวอน ประเทศจีนซึ่งเป็นช่วงที่ 4 ของการปรับ เปลี่ยน โดยเอวอนยกจีนเป็นหนึ่งใน ตลาดสำคัญ มุ่งให้ความสำคัญไปที่ การขายผ่านร้านค้า ลดบทบาทขายตรง ลง ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวผู้เชี่ยวชาญมอง ว่า ไม่ดีนักเพราะถึงแม้เอวอนจะเข้ามา ในจีนกว่า 20 ปีแต่ก็ยังไม่ได้นำโมเดล นี้ไปปรับใช้กับตลาดจีนอย่างแท้จริง




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพธุรกิจเครือข่าย ฉบับที่ 245 ประจำวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น