ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

ตะลึงเบอร์ 2 สคบ.ยกมือหนุน! ตั้ง องค์การมหาชน ดูแลธุรกิจขายตรงแทน สคบ.









- ยอมรับไม่เสียดายศูนย์อำนาจ ยืนยันถ้าอยากโตก็ต้องเปลี่ยน


รองเลขาธิการ สคบ. สุทธิศักดิ์ ภัทรมานะวงศ์ มองไกลถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง องค์กรมหาชน สำหรับควบคุมธุรกิจขายตรงแทน สคบ. เฉกเช่นธุรกิจประกันชีวิต- ประกันภัย ที่มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ขึ้นมาดูแลเป็นการเฉพาะ พร้อมกับบ่งชี้ให้เห็นพัฒนาการขอองธุรกิจขายตรง ที่ขยับก้าวไปไกลเกินกว่า สคบ.จะดูแลได้ทั่วถึง จึงหวั่นเกรงว่า สคบ.จะกลายตัวถ่วงได้ในภายภาคหน้า


นายสุทธิศักดิ์ ภัทระมานะวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ได้คลุกคลีอยู่กับหน่วยงานสคบ. มายาวนานและได้เห็นการเจริญเติบโตของธุรกิจขายตรงมาอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี จึงมีความรู้สึกว่าภารกิจหน้าที่หรือความรับผิดชอบของสคบ.ที่มีต่อผู้บริโภคมันกว้างมากเพราะเกี่ยวข้องกับหลากหลายธุรกิจ ขณะเดียวกันภาคส่วนของธุรกิจขายตรงได้มีการพัฒนาไปไกลเกินกว่าที่กฎหมายและเจ้าหน้าที่ของ สคบ. จะดูและได้ทั่วถึง จึงมีความรู้สึกว่าธุรกิจขายตรงยังสามารถเจริญเติบโตได้อีกมหาศาลและเกรงว่าสคบ.จะเป็นตัวถ่วงความเจริญของธุรกิจขายตรงในภายภาคหน้า


ด้วยเหตุนี้ตนในฐานะที่เตยทำงานกับภาคเอกชนมาก่อน จึงมีความเห็นว่าในอนาคตหากมีความเป็นไปได้น่าจะจัดตั้ง องค์การมหาชน เข้ามากำกับดูแลภาคส่วนธุรกิจขายตรง แทนที่สคบ. เพราะจะเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งองค์การมหาชนนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับวงการประกันชีวิตประกันภัยที่มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เข้ามาดูเเลธุรกิจนี้เป็นการเฉพาะ


ผมมองว่าถ้าหากเรายังให้สคบ.เข้ามากำกับดูแลธุรกิจขายตรงเหมือนเช่นทุกวันนี้มันก็คงไปไม่ถึงไหน สังเกตได้จากตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีพรบ.ขายตรงเข้ามากำกับดูแลธุรกิจจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ปัญหาต่างๆ เช่นการแก้ไขกฎหมายให้มีความทันสมัย,การแต่งตั้งบอร์ดขายตรงละอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าการตัดสินใจอะไรแต่ละอย่างมันมีขั้นตอนเยอะแยะมากมาย โดยส่วนตัวผมมองว่าถ้าตั้งองค์กรมหาชนเข้ากำกับดูแลธุรกิจขายตรงจะทำให้การทำงานด้านต่างๆ เกิดความคล่องตัวมากขึ้นกว่าเดิม


รองเลขาธิการฯสคบ. กล่าวอีกว่ารูปแบบขององค์การมหาชนนี้น่าจะเหมือนกับคปภ. ที่กำกับดูแลธุรกิจประกัน ซึ่งบุคลากรที่จะเข้ามากำกับดูแลองค์กรนี้อาจจะมาจากบุคคลภายนอกที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมา ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเอาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านกฎหมายเข้าไปช่วยดูแลอีกทางหนึ่งเพราะคลุกคลีอยู่ในธุรกิจนี้มานานและเข้าใจธุรกิจนี้ได้เป็นอย่างดี


ต่อข้อถามที่ว่า ถ้ายกธุรกิจขายตรงให้หน่วยงานอื่นไปกำกับดูแลแทนจะเกิดความเสียดายหรือไม่เพราะสคบ.ทำหน้าที่ดูแลธุรกิจขายตรงมายาวนานกว่า 10 ปีและมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับผู้ประกอบการขายตรงมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ รองเลขาธิการฯสคบ.กล่าวว่า ถ้าเราอยากเห็นธุรกิจขายตรงเจริญเติบโตเป็นที่พึ่งพิงของผู้คนมากมายในอนาคตข้างหน้าเราก็ต้องตัดประเด็นเหล่านี้ออกไปให้ได้เช่นกัน




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.LEADER TIME ฉบับที่ 218 ประจำวันที่ 1-15 มีนาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น