ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

ข่าวมิสทีน (Mistine) : มิสทีน วางกลยุทธ์ลองเทอม ส่งซับแบรนด์จับตลาดสกินแคร์








 


มิสทีนวางหมากรับมือตลาด AEC แบ่งแผน 2 ส่วนทั้งตลาดและนอก หลังพบสินค้ากลุ่มสีสันยอดขายพุ่งกระฉูด ล่าสุด แตกซับแบรนด์มิสทีน ภายใต้แบรนด์เมลาเคลียร์ ชิงตลาดสกินแคร์ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขาย 14 % พบตลาดยังมีศักยภาพสูง ชี้เตรียมทยอยเปิดตัวเมลาเคลียร์เพิ่มอีก 20 รายการ พร้อมเตรียมแผนร่วมมือตั้งโรงงานผลิตสินค้าเวียดนามในอนาคต เพื่อรับมือตลาด AEC ในปี 2558


ดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหำน่ายสินค้าแบรนด์มิสทีน เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนการตลาด 3-5 ปีข้างหน้า ด้วยการวางกลยุทธ์การบริหารจัดการไว้สองส่วน คือ ตลาดภายในประเทศ โดยตลาดในประเทศนั้น จะมองหาสินค้าที่เป็นพระเอกเพื่อรุกตลาด นั่นคือ สินค้าในกลุ่มสีสัน ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 45% จากยอดขายรวม โดยบริษัทจะเพิ่มความเข้มข้นในการสร้างแบรนด์ ด้วยการวิจัยและพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ทั้งนี้ ถือเป็นการวางพื้นฐานที่แข็งแกร่งก่อนก้าวสู่ตลาด AEC ขณะเดียวกัน สำหรับแผนการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ บริษัทได้เตรียมแผนการบริหารจัดการต้นทุน โดยเฉพาะโรงงานผลิตสินค้าที่วางแผนอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะตั้งโรงงาน ผลิตสินค้าแถบอินโดจีน และเวียดนาม เพื่อลดสัดส่วนการผลิตในประเทศจากเดิมที่มีประมาณ 90% ให้เหลือเพียง 60% และเพิ่มสัดส่วนการผลิตในตลาดต่างประเทศจาก 10% เป็น 40 % ภายในระยะเวลา 5 ปี รวมทั้งเตรียมแผนจะร่วมมือกับสมาคมความงามในการวิจัยและพัฒนาสินค้าให้เทียบเท่ากกับแบรนด์นานาชาติ


นอกจากสินค้าในกลุ่มสินค้าในกลุ่มสินค้าที่บริษัทเน้นทำตลาดแล้ว บริษัทยังเน้นสินค้าในกลุ่มสกินแคร์ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขยาย 14 % จากยอดขายรวมซึ่งจะเป็นสินค้าอีกหนึ่งกลุ่มที่จะให้ความสำคัญมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพตลาดของมิสทีนให้แข็งแกร่ง โดยล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เมลาเคลียร์ ไวท์ ซับแบรนด์ภายใต้มิสทีน ที่ถือเป็นสินค้านำร่องในการเปิดตลาด โดยบริษัทเตรียมแผนเปิดตัวสินค้าเมลาเคลียร์เพิ่มขึ้นอีก 20 รายการ


ทั้งนี้ การขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศ บริษัทได้เตรียมแผนรองรับด้วยการศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคและการตอบรับจากแบรนด์สินค้า ซึ่งจากการสำรวจตลาดเบื้องต้น พบว่าประเทศเพื่อนบ้านให้การยอมรับแบรนด์สินค้าไทยเป็นอย่างดีและล่าสุดบริษัทได้ไปศึกษาตลาดที่ประเทศฟิลิปปินส์และอีกสองเดือนข้างหน้า จะไปทดลองตลาดที่ประเทศเวียดนาม กัมพูชา เพื่อดูการตอบรับว่าเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาการขยายตลาดในต่างประเทศนั้น ประสบความสำเร็จไม่น้อย โดยจะเห็นได้จากประเทศพม่าที่มียอดขายสูงถึง 300 ล้านบาท ในปี 2555


การขยายตลาดต่างประเทศ มิสทีนจะต้องวางแผน 4 ด้าน ประกอบด้วย ความเหมาะสมของตัวสินค้า การสร้างแบรนด์ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ช่องทางจำหน่ายจะเป็นรูปแบใดและแผนการตลาดที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเปิดตลาด และให้แบรนด์ประสบความสำเร็จสูงสุด ดนัย เผย


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.เดอะ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค ฉบับที่ 218 ประจำวันที่ 1-15 มีนาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น