ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ข่าว 4ไล้ฟ์ (4life ) : "4ไล้ฟ์" ยอมรับเปิด 7 ปี ชื่อยังเงียบ ขึงธงสินค้าโรดโชว์ 4 ภาคดันเรตติ้ง







914120_515970291774289_1324728847_o (Mobile)

 


"4ไล้ฟ์" บอกพอใจผลประกอบการปีที่ผ่านมามียอดขายโตขึ้น 30% ยอมรับบริษัทยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เตรียมแผนจัดโรดโชว์โปรโมตแบรนด์ 4 ภาค ชูจุดแข็ง ผลิตภัณฑ์เด่นกับผู้นำเก่ง ตั้งเป้า อีก 3 ปี ดันตัวเลขสมาชิกถึง 1 แสนรหัส ส่วนยอดขายปี 56 ขอโตเพิ่ม อีก 30% พร้อมชำเลืองตลาดอาเซียน หวังปักหมุด พม่า และลาว


นายกิจภูเบศ ธนกิจสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท 4ไล้ฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยกับ "สยามธุรกิจ" ว่า บริษัทได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานาน กว่า 7 ปี ตั้งแต่ปี 2549 แต่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นบริษัทแม่ได้เข้าสู่ปีที่ 15 ในการดำเนินธุรกิจแล้ว


โดยภาพรวมในปีที่ผ่านมา บริษัท 4ไล้ฟ์ มีผลประกอบการน่าพอใจ เติบโตถึง 30% นับเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ทำให้ ในปี 2556 นี้ บริษัทมีความตั้งใจหวังจะเติบโต สูงไปอีก 30% เนื่องจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ภายใน 3 ปี ต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 1 แสน รหัส แต่เวลานี้มีอยู่ที่ 4 หมื่นกว่ารหัส และ มีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศ


"สำนักงานใหญ่ของเรายังมีอยู่ที่เดียว คือ ที่ห้างอัมรินทร์พลาซ่า ซึ่งที่นี่จะเป็นที่กระจายสินค้า รวมถึงการจัดงานประชุมสัมมนาต่างๆ โดยสมาชิกจะคุ้นเคยกับเซ็นเตอร์ที่นี่ดี แต่เวลานี้กำลังเตรียมที่จะเปิด เซ็นเตอร์อีกแห่ง คือ จ.เชียงใหม่ เพราะที่นั่น มีฐานสมาชิกเยอะมาก และจะทำการเปิดเซ็นเตอร์อีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้"


กรรมการผู้จัดการ "4ไล้ฟ์" กล่าวต่อ ว่า "บริษัทมีเซ็นเตอร์ประมาณ 22 ประเทศ กระจายอยู่ทั่วโลก และมีที่ดำเนินธุรกิจไปแล้วถึง 52 ประเทศ แม้ว่าชื่อของ "4ไล้ฟ์" จะยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทย แต่ต่างประเทศ ก็จะคุ้นชื่อของบริษัทเราดี ทำให้ในปีนี้อาจต้องมีการทำตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์มากขึ้น ซึ่งได้เตรียมออกโรดโชว์ทั่วทั้ง 4 ภาค โดยได้ทำกิจกรรมนี้ทุกอาทิตย์อยู่แล้ว แต่ที่ จะเพิ่มเติมเข้ามาคงเป็นการลงโฆษณาตาม สื่อวิทยุและสิ่งพิมพ์ต่างๆ เพื่อจะทำให้รู้จักบริษัทเรามากขึ้น"


"จุดแข็งของบริษัทอีกหนึ่งอย่าง คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ เพราะสินค้าของเรา ผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว และยังได้สิทธิบัตรด้านผลิตภัณฑ์แห่งแรกในโลกอีกด้วย โดยรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนจุดแข็งที่ขาดไม่ได้เลยคือ การทำงานร่วมกับผู้นำ ไม่ว่าผู้นำจะอยู่ที่ใดของประเทศ เราจะไปร่วมกันทำงานแบบเป็นทีม ไม่ทอดทิ้ง กัน ทำให้มีความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน"


ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ "กิจภูเบศ" ได้กล่าวต่อว่า ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของบริษัท คือกลุ่มอาหารเสริม ไม่ว่าจะเป็นไตร แฟกเตอร์ ฟอร์มูล่า พลัสไตร แฟกเตอร์ ฟอร์มูล่า และทรานสเฟอร์ แฟกเตอร์ คือ มีโปรตีนจากธรรมชาติช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและดูแลซ่อมแซม ส่วนต่างๆ ของร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าด้านความงาม เครื่องใช้ในครัวเรือน ซึ่งทีมวิจัยของบริษัทอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา และกำลังจะมีสินค้าต่างๆ ออกมาตอบสนองความต้องของสมาชิกให้ได้มากที่สุด


"และที่สำคัญบริษัทของเราจะจ่ายค่าตอบแทนให้สมาชิกสูงพอสมควร โดยเรา ใช้แผนยูนิเลเวล ซึ่งสมาชิกสามารถมีได้หลายสายไม่จำกัด เพราะเราจ่ายให้สมาชิก สูงถึง 64% แต่การทำธุรกิจของเรา ขอเพียง มี 3 สายงานหลักๆ ก็พอ เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดให้ได้มากขนาดนั้นก็ได้ แต่หากสมาชิกคนไหนมีความสามารถก็แล้วแต่จะเปิดสายงานเท่าไร่ก็ได้"


นอกจากนี้ นายกิจภูเบศ ยังได้กล่าวถึงการเตรียมรับมือเออีซีในอีก 2 ปีข้างหน้า ว่า "ผมมองว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ขยายตลาดออกไปในวงกว้างมากขึ้น เพราะ ตอนนี้มีหลายบริษัทออกไปเจาะตลาดเพื่อนบ้าน แต่ "4ไล้ฟ์" ก็ได้เตรียมแผนในเรื่องนี้เอาไว้เช่นกัน โดยตั้งใจว่าจะไปใกล้ๆ ก่อนก็คือ พม่ากับลาว เพราะที่นั่นมีเครือข่าย อยู่มากพอสมควร แต่ยังไม่ได้มีสำนักงานที่นั่น แต่ตอนนี้กำลังศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายอยู่ หากชัดเจนแล้วก็คงจะต้องดำเนินการสร้างตลาดที่นั่นให้เร็วแน่นอน เพื่อจะได้ขยายต่อไปที่ประเทศใกล้เคียงไปด้วย เพราะตอนนี้เราได้อาศัยแม่ทีมที่อยู่ตาม ภาคเหนือ และภาคใต้ ขยายเครือข่ายออกไปมากพอสมควรแล้ว ซึ่งในภาคใต้นั้นเรามีฐานสมาชิกเยอะมาก โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย และจะขยายต่อไปเรื่อยๆ"


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 27 เม.ย.2556 บริษัท "4ไล้ฟ์" จะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย ซึ่งงานนี้จะมีกลุ่มนักกีฬาดังๆ จากสหรัฐอเมริกาที่ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วดีเดินทางมาร่วมงานนี้ถึง 9 คน และยังมีนักกีฬากอล์ฟชื่อดังจากประเทศไทย 2 คน มาเป็นแขกพิเศษของงานอีกด้วย


 


 


Credit By :http://www.siamturakij.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น