![]() |
สเตม เทค เผยเหตุ การเข้ามาเปิดตลาดไทย เตรียมพร้อมลุยเต็มที่ ด้วยแผนให้ความรู้ ทดลองใช้สินค้า แล้วบอกต่อ ที่เป็นกลเม็ดที่ใช้กันทั่วโลก มั่นใจไทยมีความต้องการสินค้ากลุ่มสเตมเซลล์ หลังซุ่มเงียบมาตั้งแต่ปลายปี 2555 ขณะนี้มีความพร้อมเต็มที่ หลังผ่านการอนุมัติจาก สคบ. และ อย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คริสเตียน เดรปโป ผู้ร่วมก่อตั่งและประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์ สเตม เทค อิงค์ เปิดเผยว่า การที่บริษัทเลือกทำตลาดในประเทศไทย เพราะเล็งเห็นว่าตลาดสเตมเซลล์ในประเทศไทยเป็นตลาดที่ยังมีความต้องการสูง ดังนั้นจึงมองเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทที่จะเข้ามาขยายตลาดอีกทั้งประเทศไทยมีการทำตลาดในกลุ่มของสเตมเซลล์และเอ็นเอจจิ้งเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีบริษัทใดที่จะเข้าไปสอน และให้ความรู้ที่แท้จริงกับผู้บริโภค
สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศไทย จะเริ่มจากการให้ความรู้กับทีมงานและการให้ทดลองใช้สินค้า หลังจากนั้นก็จะเกิดกระบวนการบอกต่อซึ่ง สเตม เทค จะใช้การทำตลาดในลักษณะนี้ การบอกต่อเหมือนกับทุกประเทศในการเข้าไปทำการตลาด และการที่บริษัทได้ทำการตลาดในลักษณะนี้ เพราะมีความมั่นใจว่าสินค้าของบริษัทเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และเป็นสินค้าที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรียบร้อยแล้ว
ในส่วนของสินค้าที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยปีนี้ มีด้วยกัน 4 รายการ โดยจะทยอยสินค้าออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้ารายการแรกที่ผ่าน อย. เรียบร้อยแล้ว คือ เอเอฟเอ เอ็กซ์ แทร็ก เป็นเสริมอาหารที่ผลิตจากสเตมเซลล์ของพืช และอีก 3 รายการ อยู่ในขั้นตอนของ อย. คาดว่าจะสามารถนำเข้ามาทำตลาดได้เร็วๆ นี้ จากสิ้นค้าทั้งสิ้นมี 9 รายการ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เสริมอาหาร และสกินแคร์
คริสเตียน กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ สเตม เทค ทั่วโลกกำลังเติบโตเป็นอย่างดี แม้ในบางประเทศสินค้ากลุ่ม
สเตมเซลล์ยังเป็นสินค้าที่ยังไม่ได้รับการยอมรับ แต่ยังสามารถที่จะทำตลาดได้ และยังเป็นสินค้าที่มีความต้องการของตลาด และคาดว่าภายใน 5 ปี ข้างหน้า สเตมเซลล์จะเป็นสินค้าที่มีอัตราการเติบโตเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเห็นได้จาก ยอดการจำหน่ายสินค้าของบริษัทที่เติบโตขึ้นทุกปี โดยปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายรวมกันทั่วโลกได้ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ และตลาด Top 5 ของ สเตม เทค ได้แก่ กานา เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา เกาหลี และมาเลเซีย
อนึ่ง สเตม เทค เป็นบริษัทขายตรงสัญชาติอเมริกัน ที่เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2005 มีสาขาอยู่ทั่วโลกจำนวน 23 สาขา โดยประเทศไทยเป็นประเทศที่ 23 ซึ่ง สเตม เทค ได้ เข้ามาในประเทศในช่วงปลายปี 2555 อย่างไรก็ตาม การเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย บริษัทได้จดทะเบียนเป็นบริษัทต่างชาติ 100% มีแผนธุรกิจแบบสแตร์สเตปและได้ผ่านการอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 221 ประจำวันที่ 1-15 เมษายน 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น