ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

'พิมพ์ชยา' คัมแบ็ค เปิดขายตรงท็อป24







Capture (Mobile)


เจ้าแม่ขายตรง พิมพ์ชยา คืนวงการ เปิดตัวบริษัทใหม่ ท๊อป 24 ขนสินค้าความงามลุยตลาดหวังสร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง ทุ่มงบสร้างระบบซอร์ฟแวร์ที่ทันสมัย ชูจุดแข็งเป็นโรงงานผลิตสินค้าเองเดินหน้าสร้างแบรนด์สกัดของปลอม


นางพิมพ์ชยา วัฒนกุลโยธิน ประธานกรรมการ บริษัท ท๊อป 24 จำกัด เปิดเผยว่า จากการเล็งเห็นศักยภาพของระบบเครือข่ายประกอบกับประสบการณ์ด้านขายตรงที่ผ่านมา และความพร้อมของผู้นำที่จงรักภักดีทำให้ก่อตั้งบริษัทขายตรงน้องใหม่ที่เกิดขึ้นในจังหวะเวลาที่เหมาะสม


"ท๊อป24 เกิดจาการตกตะกอนของการสร้างธุรกิจเครือข่าย วันนี้กลไกของความสำเร็จไม่ใช่แค่คู่ค้าดีแต่ต้องมองภาพกว้างที่เป็นจริง ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราไม่เคยให้ข่าวเลย เพราะพูดแล้วต้องทำให้ได้ วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะยืนหยัดในวงการขายตรง"


ในอดีตที่ผ่านมา นางพิมพ์ชยา คือผู้ก่อตั้ง ท๊อปออฟมายด์ บริษัทขายตรงระบบไบนารี่ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในฐานะที่เป็นขายตรงที่มียอดขายถล่มทลายในระยะเวลาอันสั้น แต่เมื่อขึ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้คุมไม่อยู่ เกิดปัญหาขึ้นมากมายจนกระทั่ง ท๊อปออฟมายด์เฟสตัวเองลงอย่างเงียบๆ พร้อมๆ กับความบอบช้ำของผู้บริหารแต่กระนั้นสินค้าของท๊อปออฟมายด์ โดยเฉพาะกาแฟ 24 inc กลับยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมในตลาดความงาม เป็นที่มาของสินค้าลอกเลียนแบบที่เห็นอยู่เกลื่อนกลาดในตลาด


"ทุกวันนี้เดินตามห้างสรรพสินค้า บูธขายของเพื่อความงามยังเจอสินค้าที่ทำเลียนแบบสินค้าของเราอยู่เลย เมื่อก่อนเคยคิดจะดำเนินคดีกับคนที่ปลอมสินค้าแต่พอมาคิดอีกทีเราเป็นต้นน้ำ เราเป็นโรงงานผู้ผลิต จึงใช้วิธีประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักแบรนด์มากกว่า อย่างเช่น กาแฟ 24 inc กล่องสีดำที่เห็นทั่วไปตามท้องตลาด บอกได้เลยว่าเป็นของปลอม ส่วนที่ผลิตจากโรงงานเราต้องเป็นแพคเก็จจิ้งสีเหลืองเท่านั้น เป็นต้น"


นางพิมพ์ชยา กล่าวว่า จุดแข็งของท๊อป24 คือ บริษัทเป็นฐานการผลิตเอง มีสินค้าที่มีนวัตกรรม ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มาโดยตลอดอย่างนิวติเบรนด์ ก็จะมีการพัฒนาปรับปรุงสูตรใหม่ๆ เช่นเพิ่มคอลลาเจน เป็นต้น


"นโยบายของเราคือการเคลื่อนของสินค้าดี ลูกค้าตอบรับ ราคาเหมาะสม เกิดคำมั่นสัญญาต่อกันเช่น บอกว่าผอมก็ต้องผอม บอกว่าหายต้องหาย"


อีกส่วนหนึ่งคือ การวางระบบของบริษัท นางพิมพ์ชยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนเกี่ยวกับซอร์ฟแวร์เป็นหลักล้านบาท และมีนโยบายที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับการเติบโตของบริษัท เช่นเดียวกับการสร้างผู้นำที่จงรักภักดี ซึ่งขณะนี้มีแล้ว 20-30 คน ที่เรียกว่ากรีดเลือดแล้วเป็นสีท๊อป24 ก็ว่าได้


"เราต้องกล้าลงทุน เพราะเมื่อไหร่ที่โตขึ้นเราไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนซอร์ฟแวร์ แก้งานไม่ได้ นี่คือ ถ้าแรงด้านโมเมนตัมของการเติบโตของรายได้ สิ่งที่เสถียรคือ ซอร์ฟแวร์และฮาร์ทแวร์ สองคือ คน เมื่อไหร่ก็ตามที่คนของเราเดินผิดทาง เราจะรู้ได้ทันที ดังนั้นต้องมีการปลูกฝัง วันนี้ต้องเปลี่ยนแนวความคิด สร้างรากหญ้าให้แข็งแรงทำแบบป่าล้อมเมือง มันดีตรงที่เม็ดเงินจะไม่มีตกหล่น


ต้องดูแลต้นทุนให้ดีที่สุด ช่วงแรกต้องปูรากฐาน ปลูกฝังที่ความคิด กรีดเลือดมาต้องเป็นเรา ตอนนี้เครือข่ายผู้นำเลือดเรา มีประมาณ 20 - 30 คน เริ่มจากตัวสินค้าเป็นตัวซ้อม ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้หยุดสนิท สินค้าในระบบเรามี เพียงแต่ไม่ได้เคลื่อนรุนแรงในตลาด ที่ผ่านมา ไม่ได้หยุดกิจกรรมการขายสินค้า เราไม่ทิ้งคน และเมื่อเราพร้อมใส่เกียร์เต็มที่"


ด้านเป้าหมายของบริษัท นางพิมพ์ชยา บอกว่า วันนี้นโยบายคือค่อยเป็นค่อยไปเติบโตแบบมีสเกล และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ทวีคูณบริษัทจะมีความเสถียรเอง ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ผ่านมาตนเองมองข้ามจุดแข็งที่สุดไปคือ การมีโรงงานผลิตสินค้าของตัวเองแต่สำหรับตอนนี้จะใช้จุดนี้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ป้อนสู่ตลาดเครือข่าย


"การตลาดในอดีต พอมันเติบโตเร็วเราไม่มีแผนตั้งรับ จะเห็นว่าเมื่อก่อนสินค้าเราดังมาก คนลอกเลียนแบบเยอะใครผลิตออกมาเหลืองไปหมด แต่ทุกวันนี้ทำเครือข่ายไม่ได้ง่าย สินค้าต้องเห็นผล ตอนนี้สินค้าใช้โรงงานผลิตเองกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เพราะที่ผ่านมาโดนผลกระทบตอนน้ำท่วม ต้องซ่อมเครื่องจักรเยอะ ที่ผ่านมาโรงงานคือจุดแข็งแต่ไม่เคยมอง เมื่อก่อนมองแต่ตลาดอย่างเดียวตอนนี้ย้ายไปที่ซอยเสือใหญ่ ปลายปีจะเปิดตัวโรงงาน วันนี้ต้องคิดใหม่ ลงทุนเพิ่มส่วนโรงงาน เราซ่อมเครื่องจักรเป็นหลักล้านบาท ย้ายโรงงานอีกล้านกว่าบาท เราใส่รายละเอียดที่สินค้าเราอีกมาก"


ทั้งนี้ ท๊อป24 มีสินค้าหลัก 5-6 รายการ โดยเป็นสินค้าความงามและกาแฟ ที่เพิ่งมีการเอากลับมาเล่นตลาดอีกครั้ง แต่มีการเปลี่ยนแพคเก็จและรีแบรนด์ดิ้ง ส่วนในอนาคตจะมีกาแฟดำและคาปูชิโน เน้นด้านควบคุมน้ำหนัก"


เมื่อถามถึงความชัดเจนของบริษัท นางพิมพ์ชยา กล่าวเน้นย้ำว่า อยู่ที่ตัวสินค้าแต่ต้องสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคให้เข้าถึงแบรนด์และบริษัทให้มากขึ้น ซึ่งวันนี้ถือว่าบริษัทพร้อมแล้วที่จะเคลื่อนพลไปเขย่าวงการขายตรงเมืองไทย


"สามเดือนแรกนี้ คือ การสร้างการรับรู้ ถ้าคำว่าพิมพ์ชยา มีคาแร็คเตอร์บางอย่าง เคยขึ้นสูงสุดลงสู่สามัญมาแล้ว ไม่รู้จะไปจุดนั้นเพื่ออะไร แต่อะไรที่เคยพลาดในอดีตเราเอาเป็นบทเรียน ไม่ต้องดังขนาดนั้น แต่อยากเสถียร ต้องสร้างใหม่ แต่อย่าหลงประเด็น ทุกวันนี้ สินค้านำ ความชัดเจนคือ การเช็คว่าตลาดตอบรับหรือไม่ เราใส่กลไกเข้าไปเดี๋ยวการตอบรับก็มาเอง" นางพิมพ์ชยา กล่าว





Credit By :http://www.ryt9.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น