ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวพรีมา ไลฟ์ ไทม์ (Prima Life Time) : พรีมา ไลฟ์ ไทม์ โชว์ 7 ขุนพลใหม่ ปรับแผนสู้ศึก MLM สิ้นปีทะลุ 350 ล.







P_jop_Team2013 (Mobile)


พรีมา ไลฟ์ ไทม์ เสริมทัพใหม่แน่นปึ้ก ดึง 7 ขุนพล กูรูขายตรงนั่งแท่นบริหาร สั่งปรับแผนการตลาดสู้ศึกขายตรงเดือด!!ตอกย้ำแบรนด์ MLM น้ำดีของไทย ด้าน สุรวัจน์ โปรย ยาหอม ประกาศความพร้อมแน่นทุกขุมกำลัง ลั่น สิ้นปีโกยยอด 350 ล้านบาท หลังเร่งขยายศูนย์เซ็นเตอร์ทั่วประเทศ


อาบพร รอดบุญ ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท พรีมา ไลฟ์ ไทม์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ โดยได้แต่งตั้งทีมที่ปรึกษาใหม่จำนวน 7 คน เพื่อให้เข้ามาช่วยในการบริหารงาน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนละทีมผู้บริหารชุดใหม่ได้เดินสายพบปะกับสมาชิกตามภาคต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก


ก่อนหน้านี้มีแม่ทีมระดับบนออกไปอยู่ค่ายอื่น แล้วมาดึงสมาชิกระดับล่าง แต่ไม่มีใครตามไป มันเลยทำให้เราเข้าใจคำว่า อาชีพผู้นำ ซึ่งดูแล้วค่อนข้างน่าสมเพชมาก เพราะเราไม่เคยเจอว่าแบบนี้ก็มีด้วย แต่หลังจากที่เราได้ทีมที่ปรึกษาใหม่เข้ามาช่วยในการวางระบบการทำงาน และการจัดฝึกอบรมใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นมืออาชีพมากๆ ทำให้ภาพของ พรีมา ไลฟ์ ไทม์ เริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะความมั่นใจของสมาชิกจากที่เคยหยุดไปก็เริ่มกลับเข้ามาขยายตลาดกันต่อ และทีมงานส่วนใหญ่เริ่มทำงานเป็นจากเดิมที่ต้องคอยให้ผู้นำระดับสูงลงไปช่วย


สำหรับการได้ทีมที่ปรึกษาทั้ง 7 คน เข้ามาช่วยงานในครั้งนี้นั้น อาบพร คาดหวังว่า ทีมผู้บริหารชุดนี้จะนำพาและช่วยยกระดับให้กับ พรีมา ไลฟ์ ไทม์ ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแถวหน้าของธุรกิจขายตรง เนื่องจากทีมผู้บริหารชุดนี้มีความเป็นมืออาชีพทั้งในด้านการทำงานและแนวคิด ซึ่งบทบาทหน้าที่หลังจากนี้ตนจะมุ่งเน้นไปทำงานในส่วนที่ถนัด เช่นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาด ส่วนการบริหารงานภายในบริษัทจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมที่ปรึกษาบริหารอย่างเต็มที่


เราได้ล้างไพ่ใหม่หมด โดยได้ปรับแผนการตลาดใหม่ภายใต้โครงสร้างแบบไบนารี่ทีมอ่อน-แข็ง ไม่มีระบบล้างรอบและโตข้างเดียวก็ได้ตังค์ ซึ่งแผนดังงกล่าวถือว่าเป็นแผนที่ดีที่สุดในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม แม้เราจะมีการปรับแผนการตลาดใหม่เพื่อช่วยให้สมาชิกมีรายได้มั่นคงแล้ว แต่เรายังคงคอนเซปต์เดิมไว้ คือ การเน้นตลาดผู้บริโภคอย่างแท้จริง เพราะความตั้งใจของเราต้องการจะปูฐานตลาดผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันเรามีสมาชิกทั้งหมดมากกว่า 50,000 รหัส และมากกว่าครึ่งเป็นผู้บริโภค


สุรวัจน์ กรุสุทธิ์วริทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พรีมา ไลฟ์ ไทม์ จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่ตนและทีมผู้บริหารอีก 6 คน ตัดสินใจเลือกที่จะมาอยู่กับ พรีมา ไลฟ์ ไทม์ เนื่องจากมองว่า เป็นบริษัทที่มีความพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทุกแผนก ภาพลักษณ์ที่ดี และมีผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ขณะเดียวกันสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ยังอยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก ที่สำคัญบริษัทมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินค้าที่มีคุณภาพมากกว่า 40-50 รายการ


ขณะเดียวกัน ก่อนหน้าที่ตน และทีมงานอีก 6 คนจะเข้ามานั่งบริหารให้กับ พรีมา ไลฟ์ ไทม์ ได้มีการศึกษาโครงสร้างภายในของพรีมา ฯ มาก่อนแล้ว ว่ามีอะไรที่ทำให้บริษัทไม่เติบโตเท่าที่ควร เช่น โครงสร้างแผนการจ่ายผลตอบแทน ที่ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทอื่นได้ๆ ได้ เราจึงขอเสนอให้มีการปรับโครงสร้างการจ่ายผลตอบแทนใหม่ อาทิ จากค่าแนะนำที่จ่ายเพียง 3 ชั้น มาเป็น 7 ชั้น หรือแผนทีมอ่อนแข็ง-แข็ง ที่จ่ายสูงสุด 35,000 บาท/วัน หรือเดือนละ 1.5 ล้านบาทเป็นต้น


โจทย์ในการเข้ามาบริหารงานให้กับ พรีมาฯ คือเราทั้ง 7 คนไม่ได้เข้ามาเป็นเพียงแค่ผู้บริหาร แต่เราเข้ามาในฐานะผู้ถือหุ้นของพรีมา ฯ ด้วย ดังนั้นไม่ว่ากำไรหรือขาดทุน เราทั้งหมดก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะการที่เราเข้ามาเป็นแค่ผู้บริหารอย่างเดียวในอนาคตหากกเกิดปัญหากันอีก เราก็ต้องย้ายกันใหม่ ซึ่งเราไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ต้องการจะปักหลักที่นี่จริงๆ


สุรวัจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากโจทย์เรื่องของยอดขายในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 350 ล้านบาทแล้ว บริษัทยังต้องเร่งขยายศูนย์เซ็นเตอร์ให้ครอบคลุมทั่วทุกภาค รวมถึงระบบการจัดส่งสินค้าให้มีความรวดเร็ว และระบบฝึกอบรมให้กับสมาชิกที่จะช่วยในการขยายตลาด อย่างไรก็ตามส่วนตัวมีความเชื่อในในตัวบริษัท ทีมบริหาร และบุคลากรเกิน 100 % ด้วยความพร้อมที่กล่าวมาแล้ว เชื่อว่าจะนำพาบริษัทให้เติบโตเป็นบริษัทขายตรงที่ยิ่งใหญ่





ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 227 ประจำวันที่ 16-31 กรกฎาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น