ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวสตาร์ ซันไชน์ (Star Sunshine) : ปอกเปลือกความคิดนักขายมือทอง สมร ก้านทองหญิงนักสู้ชาวมุสลิม







Capture (Mobile)


ชีวิตเรามันไม่เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะเกิดมาจากไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ถึงเวลาวิกฤตินี่ต้องสู้ ต้องอดทน ความอดทน ความสู้ เท่านั้นที่ทำให้อยู่ได้ คนเรามีโอกาสล้มแต่ว่าต้องลุกให้ได้ ต้องยืนให้ได้


หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตา คุณสมร ก้านทอง จากหน้าจอทีวีของรายการมุสลิม หลายคนมองความสำเร็จในธุรกิจของเธอด้วยความทึ่ง และหลายคนอยากจะประสบความสำเร็จอย่างที่เธอได้รับ แต่อีกหลายคนก็ยังไม่รู้ว่าเธอยืนอยู่บัลลังก์เบอร์หนึ่งนี้ได้อย่างไร...


สมร เล่าว่าในตอนเด็กเธอฝันอยากทำธุรกิจส่วนตัว เพราะถ้าทำธุรกิจส่วนตัวเธอคิดว่ามันน่าจะไปได้มากกว่างานประจำ เพราะงานประจำมันจะได้แต่เงินเดือน...สมร มีภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดปทุมธานี ถึงแม้ครอบครัวของเธอจะเป็นเกษตรกร แต่ สมร กลับมีความฝันลึก ๆ ในใจว่าอยากทำธุรกิจ แต่ช่วงชีวิตจริงของเธอไม่ได้เป็นเช่นนั้น เธอจบ ปวส. สาขาบัญชี สมร จบการศึกษา เธอก็เริ่มก้าวเข้าสู่..ประตูโรงงานเฟอร์นิเจอร์ในฐานะพนักงานออฟฟิศ เวลาผ่านไป 10 ปี ชีวิตพนักงานบริษัทไม่ได้เจริญก้าวหน้าเติบโตเท่าไหร่นัก..


นอกจากนั้น สุขภาพของ สมร เองก็ย่ำแย่ เนื่องจากต้องอยู่สภาพแวดล้อมของโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นทินเนอร์ จนในที่สุดเมื่อตั้งทองลูกคนที่สอง สมรก็ตัดสินใจลาออกจากงาน และนั้นก็นำมาสู่วิฤตชีวิตที่เข้ามารุมเร้าเธอ...


ช่วงนั้นชีวิตของ สมร ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ หลังจากที่คลอดลูกคนที่สอง หัวใจเธอแทบสลายเมื่อได้รับแจ้งจากคุณหมอว่าลูกของเธอป่วยเป็นโรคตับ และตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่เธอดูแลลูก ตอนนั้นเงินทองที่เก็บไว้สะสมไว้ก็คือ หมด เอามารักษาลูกจนไม่เหลือ และหลังจากที่วิ่งเข้าออกโรงพยาบาลมาหลายปี ในที่สุดลูกเธอก็หายไข้ แต่ตัวเธอกลับต้องมาป่ายไข้เสียเอง!


สมร เล่าต่ออีกว่า พอลูกหาย เราก็ต้องดิ้นรนด้วยการค้าขาย และตอนที่ค้าขายเธอก็ได้ท้องลูกอีกคนและแท้ง ตอนที่เธอแท้งลูกคนที่ 3 ทำให้เธอถึงกลับเดินไม่ได้ และก็มีเพื่อนคนหนึ่งของเธอ ได้มาแนะนำสมุนไพรของสตาร์ซันไซน์ให้ทาน


จากนั้น เมื่ออาการดีขึ้น สมร ก็สามารถกลับมาขายอาหารและขายของชำที่หน้าบ้านได้อีกครั้ง ตรงจุดนี้เองจึงทำให้ สมรมองเห็นลู่ทางใหม่ๆ ในชีวิต เนื่องจากเธอมั่นใจในตัวสินค้าของ สตาร์ซันไซน์ เนื่องจากเธอเองรับประทานแล้วอาการดีขึ้น!


สมร เริ่มต้นจากการขายสินค้าจากบริษัทสตาร์ซันไซน์เป็นอาชีพเสริม มีบรรดาลูกค้าที่มาซื้ออาหารและของชำในร้านของเธอนั้นเองที่เป็นเป้าหมายแรก จนกระทั้งวันหนึ่งเมื่อ คุณโกสิทธิ์ ผะลิวรรณ ประธานกรรมการบริหาร ได้พูดขึ้นว่า เธอน่าจะมาลุยงานขายของสตาร์ซันไซน์ให้เต็มที่ และนี้ก็กลายเป็นการเปิดศักราชของ สมร ก้านทอง หญิงเหล็กแห่งวงการขายตรงมุสลิมนั่นเอง


ระยะเริ่มแรกที่ทำ ก็ไม่ได้อะไรมากมายนัก พอไปคุยกับท่านประธาน ท่านก็บอกว่า เราควรจะเลิกขายของ แล้วมาลุยงานตรงนี้เต็มที่จะได้ไหม แล้วท่านจะช่วยเต็มที่


ตอนนั้นพอดีทาง TMTV เขาจะเปิดสถานี สมร จึงตัดสินใจเช่าสัญญาณช่อง TMTV และ ก็ได้นำเทคนิคการนำเสนอสินค้าจากรายการทีวีทั่วไปมาปรับใช้กับรายการของมุสลิม ความแตกต่างอันโดดเด่นเช่นนี้จึงทำให้ คลาร่าพลัส ในมือของสมร ยอดเติบโตมาเป็นนักขายเบอร์หนึ่งของ สตาร์ซันไซน์


นอกจากนั้น สมร ยังเล่าต่อว่า เมื่อสถานีโทรทัศน์ยะตีมทีวีได้ก่อเกิดบนโลกทีวีดาวเทียม เธอก็ได้ก้าวเข้าไปสนับสนุนด้วยการเป็นผู้สนับสนุนตั้งแต่สถานียังไม่ได้ตั้ง ซึ่งนั้นก็เป็นการตัดสินใจถูกต้องอีกครั้งของสมร เพราะยอด คลาร่าพลัส ก้าวกระโดดเป็นสองเท่าทันที!


ด้วยความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน สมร ขยับขยายผลิตภัณฑ์ตัวอื่นของทาง สตาร์ซันไซน์ ด้วยไม่ว่าจะเป็นซันคอฟฟี่ ซันสลิมเรดมอลต์และตัวล่าสุดที่ออกมาก็คือ ซันคอลลาสก้า


นอกจากนี้ สมร ยังมีเป้าหมายที่ตั้งไว้อีกคือ การจัดโครงการทำอุมเราะฮฺให้กับสมาชิก สตาร์ซันไซน์ ฉะนั้นคนที่จะมาทำธุรกิจ ถ้าเขาต้องการรายได้ เขาได้บุญได้รายได้แล้วเขามีสิทธิ์ที่จะอุมเราะฮฺกับเรา อินชาอัลลอฮฺนะ เพราะว่าปกติแล้วพี่จะไปเที่ยวปีละสามครั้งกับบริษัท แต่ตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นปีละสองครั้งแล้วเปลี่ยนเป็นไปทำอุมเราะฮฺแทน


และเนื่องจาก สมร มีเครดิตจากการเป็นนักขายเบอร์หนึ่งของ สตาร์ซันไซน์ จึงทำให้เธอได้ใช้โอกาสนี้ ในการนำสิ่งดีๆ มาสู่สังคมมุสลิม ไม่ว่าจะเป็น การออกร้านขายสินค้าในงานมูลนิธิศรัทธาชนเพื่อการศึกษาและเด็กกำพร้าแล้วนำรายได้มาบริจาคให้กับเด็กกำพร้า รวมไปถึงโครงการล่าสุดที่เธอกำลังผลักดัน เพื่อให้พี่น้องมุสลิมได้มีโอกาสไปทำอุมเราะฮฺ ซึ่งเป็นโอกาสที่ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถทำได้


วันนี้ ต้องบอกว่า สมร สามารถสร้างทีมงานให้เติบโตมาเป็นนักขายฝีมือฉกาจได้โดดเด่นหลายคน ทำให้หลายพันคนมีรายได้เป็นหมื่น เป็นแสน ที่สำคัญ เธอจะทำธุรกิจให้เติบโตได้อย่างที่ ท่านประธานโกสิทธิ์ พูดเสมอว่า ต้องคิดว่าทุกคนที่ทำงานที่นี่คือ เจ้าของธุรกิจ เราต้องคิดว่า บริษัทที่เราไปทำ เรามีหุ้นส่วนด้วย และทำอย่างไรให้คนในองค์กรของเราโตเหมือนเราได้ ลูกน้องโตด้วย คนที่เป็นสายงานของเราโตด้วย


สมร ขอฝากข้อคิดทิ้งท้ายให้สำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนที่กำลังประสบปัญหาจนท้อแท้หมดกำลังใจในชีวิตในฐานะที่เธอก็เคยผ่านสถานการณ์เช่นนั้นมาก่อนไว้ว่า ชีวิตเรามันไม่เหมือนกัน ไม่ว่าคุณจะเกิดมาจากไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ถึงเวลาวิกฤตินี่ต้องสู้ ต้องอดทน ความอดทน ความสู้ เท่านั้นที่ทำให้อยู่ได้ คนเรามีโอกาสล้มแต่ว่าต้องลุกให้ได้ ต้องยืนให้ได้





ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 348 ประจำวันที่ 16-31 กรกฎาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น