ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวขายตรง (MLM) : ช้านักก็ต้อง 'ซื้อ' !







Currency-Exchange (Mobile)

 


วันนี้กับวงการขายตรงบ้านเรา ประเด็นการซื้อหัวบริษัทขายตรงที่มิได้ทำกิจการแล้ว เปลี่ยนเจ้าของใหม่ แล้วลุยขายตรง หรือประเด็นความล่าช้าในการออกใบอนุญาตของธุรกิจขายตรงที่ขอจดทะเบียนใหม่ จาก สคบ. ยังคงเป็นประเด็น "ทอร์คออฟเดอะทาวน์" กันในวงการนี้กันต่อไป เอาแค่สองประเด็นนี้ ในมุมมองของผู้เขียน หากให้ผู้เขียนมองในมุมของเอกชน ก็น่าจะมีมุมมองที่แตกต่างไปจากราชการ

อย่างเหตุและผลของการซื้อหัวบริษัทขายตรงที่มีใบอนุญาตจาก สคบ.อยู่แล้ว ถ้าเรามองเป็นเรื่องปกติ ก็ไม่น่าจะเป็นไร แต่หากมองไม่ใช่เรื่องปกติ ก็อาจว่ากันได้ ที่ว่าเป็นเรื่องปกติในมุมมองเอกชน อาจมองว่า ขี้เกียจเสียเวลายื่นจด สคบ. ใหม่ ซื้อแล้วเปลี่ยนกรรมการ เปลี่ยนชื่อบริษัท ก็เสร็จเรื่อง ส่วนจะเปลี่ยนแผนจ่ายผลตอบแทนใหม่หรือไม่ค่อยว่ากันอีกครา ส่วนมากผู้ที่ซื้อหัวบริษัทที่ผ่าน สคบ. แล้ว เกือบ 100% มีการปรับแผนการจ่ายผลตอบแทนแน่นอน โดยแจ้งไปยัง สคบ. เป็นลายลักษณ์อักษร ขอเปลี่ยนแผน เปลี่ยนคณะกรรมการ หรือบางทีพ่วงโลโก้ใหม่แถมไปด้วย การซื้อหัว ถามว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ คำตอบคือ "ถูก" เหมือนกับการเทคโอเว่อร์บริษัท ซึ่งสำหรับขายตรงในยุคที่ผ่านลายเซ็นต์ยากในสมัยปัจจุบัน

แต่ในมุม สคบ. อาจมองว่า กลุ่มคนบางกลุ่มขอยื่นจดทะเบียนขายตรง กับ สคบ. เพื่อไปจำหน่ายต่อ ปัจจุบันนี้ก็มีมากพอสมควร คนพวกนี้ทำกันเป็นกระบวนการ หรือไม่ก็ทำหน้าที่จัดหาให้ บอกขายกันในราคาตั้งแต่หลักล้าน ลดหลั่นมาจนถึงหลักหมื่น ต่อ 1 หัวบริษัท ปัจจุบันก็เลยเกิดอาชีพใหม่แฝงเข้ามาในวงการนี้การซื้อหัว สคบ. ปัจจุบัน เอกชนคงเข้าใจว่า ซื้อหัวที่ผ่านแล้ว หมายความว่ากฎหมายคงรับรองไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะขอยื่นจดแผนใหม่ กฎหมายก็คงให้อภัยในช่วงที่ข้อยื่นจดแผนใหม่ ทั้งๆ จริงๆ ก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี หากดำเนินแผนการตลาดแผนใหม่ โดยยังไม่ผ่านการอนุมัติจาก สคบ. เพียงแต่อาจเข้าใจว่า สามารถประนีประนอมกันได้ ยังไม่ถึงขั้นร้ายแรง เหมือนกับ ดำเนินธุรกิจแล้วยังไม่มี สคบ. เลย ในทางกลับกัน ผู้เขียนคิดว่า สถานการณ์นี้ป้องกันได้ หาก สคบ. ไม่เป็นอย่างที่เขาเล่าว่า ยุคคุณ "จิรชัย" นั่งเลขาฯ เซ็นต์อนุมัติใบอนุญาตยากที่สุดในประวัติศาสตร์

นี่ก็เหมือน "เหล้าเก่า ในขวดใหม่" ที่เราเก็บมาตอกย้ำกันอีกรอบ สาธุๆ ผู้เขียนอาจเข้าข้างท่านว่า คงมีเหตุและผลหลายประการที่ท่านจำเป็นต้อง "สะตริ๊ก" ในการออกใบอนุญาตแต่ละใบเพราะในแวดวงธุรกิจขายตรงบ้านเราปัจจุบัน เสือ สิงห์ กระทิง แรด ก็เยอะเหลือเกินจริงๆ ธุรกิจสีแดง สีเทา สีดำ ก็เยอะเหลือหลายอย่างที่เขาว่า

เจ้าของกิจการบางรายก็เหลือเกินถูกกฎหมายไม่ค่อยชอบ ดันทะลึ่ง เล่นนอกกรอบกันอย่างเดียว อย่างบริษัทขายตรงแถวอิมพีเรียล ลาดพร้าว ก็มีบางบริษัท เล่นบทเอกชน ไม่สนกฎหมายยังไง ยังงั้น ตั้งท่าจะระดมเงินโกยเข้ากระเป๋าท่าเดียว แต่ แต่! ผู้เขียน อยากให้ท่านเข้าใจว่า การดำเนินธุรกิจขายตรงนั้น ไม่ใช่ว่ารอให้ผ่าน สคบ. ก่อนแล้วค่อยเปิดกิจการ บางครั้ง ผู้ประกอบการเขาดูที่จังหวะ โอกาส และต้องเตรียมงานล่วงหน้าเกิน 2 เดือน ถ้ามัวรอใบอนุญาตออกมาก่อน ซึ่งไม่รู้ปีไหน ถ้าแผนที่ยื่นไม่ได้โอเว่อร์อะไร ไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร ผู้เขียนคิดว่า ท่านก็ไม่ควรดองเค็มไว้อย่างที่เขาร่ำลือกัน เพราะภาคธุรกิจจะได้รับความเสียหาย ไหนต้องลงทุนบุคลากร Back Office ควานหาผู้นำ จ่ายค่าสินค้า เตรียมการไว้เสร็จสรรพ แต่ สคบ. ยังไม่ผ่าน ก็ทำให้ธุรกิจสะดุด

3 เดือนยังไม่ได้ สคบ. แม่ทีมก็หาย สมาชิกก็ขาดความเชื่อถือ ธุรกิจก็ยากที่จะเดินต่อไปข้างหน้า ทุนรอนก็ริบหรี่ 3 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ก็มีทางเดียวนะท่าน คือ "ถ้าช้านักก็ต้องซื้อหัวชาวบ้าน" อย่างเดียว อะนี่โทษกันไม่ได้ และอย่าได้ขัดขวาง หรือมองในแง่ร้ายกันเชียว


 


 


 


Credit By :http://www.ryt9.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น