ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว : บริษัท เอม สตาร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด (Aim Star Network)


แทบไม่น่าเชื่อ ว่าจากบริษัท SME เล็กๆที่มีทุนจดทะเบียน เพียง 20,000,000 บาทเมื่อ 6 ปีที่แล้ว จะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มียอดธุรกิตรวมสูงกว่า 11,000,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นหนึ่งพันล้านบาท) และยิ่งไปกว่านั้นเพียงระยะเวลา 6 ปี กับการเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนข้ามชาติมาแล้วถึง 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น (ทุนจดทะเบียน 50,000,000 เยน, ประเทศสหรัฐอเมริกา (500,000 ดอลลาร์สหรัฐ) และ ประเทศ กัมพูชา (200,000,000 เรียล) ตามลำดับ


หัวใจสำคัญที่ทำให้ เอมสตาร์ ประสบความสำเร็จคือ



  1. เราทำในสิ่งที่เรามีความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง หลายคนที่มองว่าธุรกิจเครือข่าย เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจัดจำหน่ายสินค้า นั่นเขามองแบบพ่อ ค้า เขาก็คือพ่อค้า แต่เรามองว่าธุรกิจเครือข่ายคือโอกาสที่เปิดกว้างให้ผู้คนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตไปด้วยกัน นั้นคือความยิ่งใหญ่ของธุรกิจเครือข่ายที่แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป งานๆนี้ จึงเปี่ยมคุณค่าและทรงเกียรติ เป็นงานอุดมการณ์ เราจึงตั้งใจทำทุกอย่าง ให้ออกมาดีที่สุด

  2. เรายึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ เพราะนั้นคือสิ่งล้ำค่าที่พระองค์ท่านได้กลั่นออกมาจากประสบการณ์ทั้งชีวิต เพื่อสอนเราด้วยความห่วงใย เราค่อยๆ สร้างธุรกิจเอมสตาร์จากเล็กไปใหญ่ด้วยความสุขุม รอบคอบ กับการดำเนินธุรกิจด้วยเงินสด ไม่มีการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินใดๆ แม้แต่บาทเดียว และนั้นทำให้ธุรกิจเอมสตาร์มีความมั่นคง สามารถเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับครอบครัวของนักธุรกิจเอมสตาร์ได้อย่างแท้จริง

  3. เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ชั้นสูง โดยเฉพาะระบบปฏิบัตการ ONE CODE ONE WORLD ของบริษัทฯ ที่มีความโดดเด่นสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ครอบคลุมทั่วโลกในหลากหลายภาษา และหลากหลายสกุลเงิน สามารถรองรับเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในรูปแบบเฉพาะของแต่ละประเทศ เช่น อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม การยกเว้นภาษีเฉพาะบางรายการสินค้าของแต่ละรัฐ การชำระเงินค่าสินค้า การคำนวณค่าจัดส่ง ฯลฯ เป็นต้น


การขายธุรกิจเอมสตาร์เข้าไปสู่ประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น เรามองว่าเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ล้วนแต่เป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน เรามีความพร้อมที่จะขยายสู่ทุกๆประเทศแต่สิ่งที่อาจจะเป็นตัวกำหนดลำดับก่อนหลัง คงเป็นเรื่องระบบงานราชการ ที่อาจจะยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนและสามารถเข้าใจได้ง่ายนักของในแต่ละประเทศ ที่ผ่านมาเราจึงพบว่าการเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา หรือ ญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ชัดเจนและง่ายกว่ามาก หากหน่วยงานภาครัฐของไทยจะสามารถสนับสนุนและส่งเสริมตรงจุดนี้ให้ภาคเอกชนได้มากขึ้น ก็จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้มากยิ่งขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น