ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว : "ลุกซ์ รอยัล (lux)" ตั้งเป้าเบอร์ 1ทิ้งสิงคโปร์ ปักธงไทยสาขาใหญ่อาเซียน


บริษัทแม่ปลื้ม ลุกซ์ รอยัล ไทยยอดขายโต เตรียมยกชั้นเป็นตลาดใหญ่สุด ในภูมิภาคเอเชีย ล่าสุดสั่งโยกส่วนงานบางส่วนจากสำนักงานใหญ่สิงคโปร์มาไว้สาขาไทย และเตรียมลงทุนจัดทำระบบคอลเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับการเติบโต ส่วนสิ้นปีคาดสมาชิกแตะ 1 พันคน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 700 คน

มร.ฮาเกน ปาล์ม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุกซ์ รอยัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ภายในครัวเรือน อาทิ เครื่องกรองน้ำ เครื่องฟอกอากาศ ภายใต้ระบบขายตรง เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ฟอแวกซ์ กรุ๊ป เยอรมนี บริษัทแม่ของลุกซ์ รอยัล ประเทศไทย ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้บริษัทมีสาขาอยู่ทั่วโลกถึง 66 ประเทศ และสามารถก้าวขึ้นสู่เบอร์ 3 ของ ตลาดขายตรงโลก โดยปีที่ผ่านมารวมยอดขายของบริษัทในเครือทั้งหมด ได้ถึง 2,367 ล้านยูโร มีพนักงานรวมกว่า 6 แสนคน สิ่งนี้ จึงแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของบริษัทได้เป็นอย่างดี

มร.ฮาเกน กล่าวต่อว่า หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ทาง ฟอแวกซ์ กรุ๊ป ให้ความสำคัญ มากที่สุดคือ บริษัท ลุกซ์ รอยัล โดยเฉพาะ สาขาประเทศไทย ซึ่งแม้ปัจจุบัน ลุกซ์ เอเชีย แปซิฟิก มีศูนย์ใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ แต่ขณะนี้บริษัทแม่ก็เตรียมที่จะย้ายสำนักงาน ใหญ่มาอยู่ในประเทศไทย เพราะได้มองเห็น ถึงศักยภาพ และความพร้อมต่างๆ ของธุรกิจ เครือข่ายในประเทศไทย

ในขณะนี้ ลุกซ์ สาขาไทยถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก บริษัทแม่จึงได้เริ่มย้ายส่วนงานที่สำคัญบางส่วนจากสำนักงานใหญ่สิงคโปร์มายังไทยแล้ว และในอนาคตบริษัทจะมีการลงทุน ให้ไทยเป็นฐานใหญ่ สำหรับการขยายตลาด ลุกซ์ในเอเชีย

โดย มร.ฮาเกน ได้เปิดเผยถึงผลประกอบการของลุกซ์ ประเทศไทยในช่วงที่ ผ่านมาว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ลุกซ์มี อัตราการเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว คาดว่าสิ้นปียอดขายโดยรวมน่าจะเติบโตประมาณ 10% เช่นเดิม เนื่องจากลุกซ์สาขาไทยมียอดขาย เติบโตประมาณ 10% ทุกปี และคาดว่าสิ้นปี นี้เราจะมีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 1 พัน คน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 700 คน

ส่วนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง ลุกซ์ สาขา ไทยเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นกลุ่มน้ำยา ทำความสะอาดที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม หลังจากที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวสินค้าในกลุ่มเครื่องกรองน้ำชนิดใหม่ ภายใต้ชื่อสินค้า LUX P.O.E. ซึ่งเป็นนวัตกรรมการกรองน้ำใช้ โดยเฉพาะน้ำประปาที่ยังไม่ได้มาตรฐาน โดย 6 เดือนแรกสามารถขายได้ถึง 1.2 พันเครื่อง

เครื่องกรองน้ำใช้ LUX P.O.E. เป็น นวัตกรรมที่ทางบริษัทได้จัดทำขึ้น มีวัตถุการ กรองที่นำเข้าจากยุโรป มีการแบ่งแยกประเภท ของเครื่อง ตามความเหมาะสมของน้ำในพื้นที่นั้นๆ โดยบริษัทจะทำการเข้าทดสอบ คุณภาพน้ำว่า น้ำในบ้าน หรือครัวเรือนนั้นๆ เป็นอย่างไร และควรใช้เครื่องกรองน้ำใช้ประเภทใด ซึ่งสินค้าตัวใหม่นี้ได้รับความนิยม จากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยจังหวัดยะลา สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 40 เครื่อง ด้วย ระยะเวลาเพียง 10 วันเท่านั้น

นอกจากนั้นเมื่อปีที่แล้ว บริษัทยังได้ เปิดตัวเครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพ ซึ่งแม้ จะเปิดตัวในบางสาขา ภายในประเทศไทย แต่ผลปรากฏว่าภายใน 6 เดือนแรก เครื่อง ฟอกอากาศดังกล่าวสามารถขายได้ประมาณ 2.5 พันเครื่อง ถือว่าประสบความสำเร็จเป็น อย่างดี มร.ฮาเกนกล่าว

ทั้งนี้ มร.ฮาเกน ยังได้เปิดเผยอีกว่าในอนาคต ลุกซ์ประเทศไทยจะเป็นผู้นำในการขยายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปสู่ประเทศต่างๆ ในตลาด AEC โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยจะนำนักขายจากประเทศไทยเป็นผู้นำในการ อบรม ซึ่งจะมีการจัดอบรมให้ความรู้ทั้งภายใน และนอกประเทศ ดังนั้นในขณะนี้บริษัทจึง มีแผนที่จะพัฒนาบุคลากรของเราให้มีความ รู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น โดยลุกซ์เป็นบริษัท ขายตรงเพียงบริษัทเดียวในประเทศไทยที่จ้างคนทำงานเต็มเวลา

ลุกซ์ ประเทศไทย เป็นบริษัทขายตรงชั้นเดียว ที่ใช้พนักงานทำหน้าที่คล้าย ตัวแทนขายสินค้า มีเงินเดือน รวมทั้งมีค่า คอมมิสชั่นจากการขาย โดยการจัดทำแผน การตลาดเช่นนี้ เพราะบริษัทของเรามีความ เชื่อมั่นในเรื่องของสินค้า ว่ามีคุณภาพสามารถ ขายตัวเองได้

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะจัดทำ ระบบคอลเซ็นเตอร์ และพัฒนาระบบการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต เพื่อให้ความสะดวก กับลูกค้าในการติดต่อสั่งซื้อสินค้ากับบริษัท โดยขณะนี้กำลังจัดเตรียมฐานข้อมูลต่างๆ คาดว่าน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้อย่าง แน่นอน อย่างไรก็ดี มร.ฮาเกน ได้แสดงความเห็นทิ้งท้ายว่า ถึงแม้จะมีการพัฒนาระบบการสื่อสารใดๆ เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในการกระจายข้อมูลข่าวสาร แต่ตน ก็ยังเชื่อว่า กระบวนการที่นักขายไปแนะนำ สินค้ากับผู้บริโภคโดยตรงยังเป็นเรื่องที่จำเป็น อยู่ ช่องทางเหล่านี้เป็นเพียงส่วนช่วยเพิ่มความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้าเท่านั้น


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจฉบับที่ 1320 ประจำวันที่ 25-7-2012 ถึง27-7-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น