ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าวTDIA (สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย) : แย้งบริษัทไร้สังกัดรับตราสคบ. แนะเปิดทางตั้งหลายสมาคมเพื่อรัฐคุมง่าย


สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย หรือ TDIA แย้งสคบ. ไม่ควรให้ตราสัญลักษณ์กับบริษัทไม่สังกัดสมาคม หวั่นผู้ค้าขี้ฉ้อสวมรอยขอตรา พร้อมบอก ขายตรงไม่เหมือนวงการธุรกิจอื่น เห็นด้วยมีหลายสมาคม เนื่องจากความคิด และแผนธุรกิจอาจสร้างความต่างจนต้องแตกเป็นหลายกลุ่ม ชี้อย่างน้อยการมีหลายสมาคม ก็ตรวจสอบได้ง่ายกว่าการปล่อยให้ 800 บริษัท ทำใคร ทำมัน


นายนาคาญ์ ธวิชาวัฒน์ เลขาธิการ สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ได้กล่าวถึงประเด็นการติดตราสัญลักษณ์ สคบ. ว่า ทางสมาคมอุตสาหกรรมขายตรง ไทย เห็นด้วยกับการติดตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภค และยินดีให้ความร่วมมือ อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่อยากจะเรียนเสนอแนะ กับทางสคบ.ก็คือ อาวุธสำคัญของขายตรง มีอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือ ฝีปาก อย่างที่สอง คือ สัญลักษณ์แสดงความน่าเชื่อถือ ฉะนั้น หากสมมติมีบริษัทที่เป็นมันนี่เกม ซึ่ง ไม่สังกัดสมาคมใด สมาคมหนึ่งได้รับการติดตราสัญลักษณ์แล้วไปหลอกลวงประชาชน จนมีการจับกุมได้ รับรองว่าสัญลักษณ์สคบ. ดังกล่าวจะหมดความศักดิ์สิทธิ์ลงทันที ดังนั้นตนจึงมองว่า การที่บริษัทขายตรงต่างๆ ได้สังกัดสมาคมใดสมาคมหนึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยควบคุมการทำผิดระเบียบ จรรยาบรรณได้อีกชั้นหนึ่ง ตนจึงอยาก เสนอให้สคบ.เร่งดำเนินงานให้บริษัทขายตรงไทยที่มีกว่า 800 บริษัทในปัจจุบัน เข้า สังกัดสมาคมใด สมาคมหนึ่งจาก 3 สมาคม หรืออาจมีการจัดตั้งสมาคมขายตรงอื่นๆ ขึ้นมาอีกก็ได้


ในฐานะสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยซึ่งเป็นสมาคมเพิ่งเกิดใหม่ และเราได้มีโอกาสสัมผัสกับบริษัทขายตรงค่าย เล็ก ที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อลักษณะขายตรง มันนี่เกม มากกว่าสมาคมอื่นๆ ตนอยากบอกว่า บริษัทที่มีลักษณะมันนี่เกมมีเยอะมาก และบางบริษัทก็มีคนสนับสนุนที่มีอำนาจ ซึ่งการที่เราจะเข้าไปทำอะไรจึงอาจมีความเสี่ยงสูง ตรงส่วนนี้ตนจึงมองว่า ต้องดึงผู้ใหญ่อย่าง สคบ.เข้ามาจัดการ และคิดว่าการเสนอแนะให้บริษัทต่างๆเข้าสังกัดสมาคม หรือรับผิดชอบร่วมกันเป็นสมาพันธ์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก และ ประเด็นที่หลายฝ่ายอาจไม่เห็นด้วยกับการ ที่ธุรกิจการขายตรง ทำไมต้องมีสมาคมเกิดขึ้นมามากมาย ตนขอแย้งว่า การที่จะ มีสมาคมขายตรงใหม่ๆ เกิดขึ้นมาไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะตนคิดว่า เราแตกต่างจาก วงการอื่นๆ ที่เมื่อเกิดสมาคมมากมายอาจ ทำให้เกิดการแตกความสามัคคี แต่ตนคิด ว่า วงการขายตรงซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องแผนการตลาด น่าจะมีหลายสมาคม ได้ แต่ทุกสมาคมต้องมีความร่วมมือกัน


จะมีสัก 10 สมาคมก็ได้ เพราะแทนที่ สคบ.จะดูแลถึง 800 บริษัท ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าหน้าที่ของสคบ.ย่อมจะดูแล ได้ไม่ทั่วถึง จนที่ผ่านมาทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสคบ.มากมาย แต่เมื่อบริษัทต่างๆ เข้าสังกัดสมาคม ก็จะ ทำให้การดูแล ควบคุมของหน่วยงาน เป็น ไปโดยสะดวกขึ้น เพราะจะมีคณะกรรมการ และสมาชิกภายในสมาคมช่วยกันกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง


ทั้งนี้ นายอัศวินก็ได้เสนอแนะแนวทางสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวงการขายตรงไทยอีกอย่างหนึ่ง คือ การขอตรา Thailand Trust Mark (TTM) ของกรมส่งเสริม การส่งออก เพื่อนำมาติดบนสินค้าควบคู่ไป กับการติดตราสัญลักษณ์ของ สคบ.ตามแบบ อย่างของประเทศเกาหลี เพื่อสร้างความเชื่อถือในการส่งออกไปจำหน่ายที่ต่างประเทศ


หากทางสมาคมร่วมกันยื่นขอตราสัญลักษณ์นี้ของกรมส่งเสริมการส่งออก เพื่ออนุญาตให้นำมาติดบนสินค้าของเราควบคู่ไปกับการติดตราสัญลักษณ์สคบ. ตนเชื่อว่าธุรกิจขายตรงจะแข็งแกร่งขึ้นอีกระดับหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาจากที่ตนได้ดูตัวอย่างการใช้ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวของประเทศเกาหลี พบว่าบริษัทที่มีการติดตราดังกล่าวสามารถดึงสมาชิกเข้ามาได้อีกมาก สามารถกู้ชื่อเสียงของธุรกิจขายตรงคืนมาได้ เพราะประชาชนจะเกิดความเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ขายตรงเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และสมาคมเรายินดีที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในทุกๆเรื่องอย่างเต็มกำลัง


ทั้งนี้ในส่วนของสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 20 บริษัท รวมบริษัทที่เพิ่งเข้ามาใหม่ 2 บริษัท และนโยบายต่อไปคือเร่งดำเนินงาน ติดต่อรวบรวมบริษัทขายตรงอื่นที่อยู่นอกสมาคมต่างๆ ให้เข้ามารวมสังกัดสมาคม ทั้งนี้แนวคิดการจัดตั้งสมาพันธ์ของนายกอัศวิน ตนคิดว่าเรายังไม่ละทิ้งอย่างแน่นอน ยังคงจะสานต่อแนวคิดนี้ต่อไป เพราะเชื่อว่าเมื่อเป็นแนวความคิดที่ดี และต้องการช่วยเหลือสังคมจริงๆ เมื่อ โอกาสหน้าฟ้าใหม่มาเยือน ความตั้งใจ ดังกล่าวจะต้องไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1321 ประจำวันที่ 28-7-2012 ถึง31-7-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น