ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว คังเซน-เคนโก (Kangzen-Kenko) : เล็งขายไลเซนซ์มะกัน ดึงแผนเฟส 2 สร้างตึกแฝด


คังเซน-เคนโก ตบเท้าเข้าสู่ธุรกิจใหม่ แย้มเล็ง ขายไลเซนซ์ หลังนักลงทุนอเมริกันเจรจาเรื่อง สินค้า เดินหน้าประกบนักลงทุนไต้หวัน สร้าง โรงงานแห่งใหม่ มูลค่า 30 ล้านบาท พร้อม ประกาศแผน 2 สร้างตึก 2 คังเซนฯ ชี้รอ ใบอนุญาตสิ่งแวดล้อมอีก 4 เดือน ด้านตลาด ต่างประเทศ พาเหรดเปิดต่อเนื่อง หวังขยาย- ฐานสู่ตลาดอินโดจีนทุกประเทศ ขณะที่ยอดขาย 6 เดือนแรกของปียังทรงตัว คาดปิดยอดขายสิ้นปีได้ 2,000 ล้านบาท


อิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่าที่ผ่านมามีกลุ่มนักลงทุนจากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา สนใจ และมองเห็นโอกาสเกี่ยวกับสินค้าของคังเซนฯ หลังจากผู้นำคังเซนฯ จาก สปป.ลาว นำสินค้าไปจำหน่าย ที่อเมริกาและได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทจึงมีแผนที่จะขาย ไลเซนซ์คังเซนฯ ให้กับนักลงทุนที่สนใจเกี่ยวกับสินค้า ซึ่ง ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันแล้วในระดับหนึ่ง


นอกจากนี้บริษัทได้ร่วมลงทุนกับพันธมิตรไต้หวัน ในการสร้างโรงงานผลิตสินค้าในกลุ่มคอสเมติกส์ มูลค่า 30 ล้านบาท ที่ไต้หวัน คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องจักรและผลิต- สินค้าได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทกำลัง เตรียมแผนเฟส 2 ในการก่อสร้างตึกคังเซนฯ 2 ด้วยมูลค่า การลงทุน 250-300 ล้านบาท เพื่อเป็นการต้อนรับ คังเซนฯ 2 ทศวรรษ อีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งการก่อสร้างตึกคังเซนฯ นั้น ต้องรอใบอนุญาตเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอีก 4 เดือน จึงจะ สามารถเริ่มต้นเฟส 2 ได้


ในส่วนของแผนงานต่างประเทศในปีนี้บริษัทเตรียม เปิดสาขาใหม่ที่เมืองย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์ และเนปิดอร์ เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พม่ามีอัตราการเติบโต 5-7% โดยมียอดขายแต่ละปีประมาณ 15 ล้านบาท และในปีนี้จะ เห็นได้ว่ายอดขายของประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้น 2-3 ล้านบาท ต่อเดือน ดังนั้น ภายในสิ้นปีบริษัทคาดว่าประเทศพม่าจะปิด ยอดขายได้ประมาณ 25 ล้านบาท ภายหลังจากที่ประเทศ ดังกล่าวมีการเปิดประเทศมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อนักลงทุน มากขึ้นเช่นเดียวกัน


สำหรับประเทศที่มียอดขายเป็นอับดับ 1 ได้แก่ อินโดนีเซีย ปิดยอดขายในปี 2554 ได้กว่า 900 ล้านบาท อันดับ 2 ได้แก่ สปป.ลาว ปิดยอดขายได้ 160 ล้านบาท อันดับ 3 ได้แก่ พม่า และอันดับ 4 ที่บริษัทเพิ่งเปิดดำเนินธุรกิจ ได้แก่ กัมพูชา ปิดยอดขายได้ 8-9 แสนบาท อย่างไรก็ดี บริษัท เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เวียดนาม ได้แก่ เมืองโฮจิมินห์ และ ฮานอย ในปีนี้ เพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดอินโดจีนทุกๆ ประเทศด้วย แผนการลงทุนเอง 100% ขณะที่แผนการบุกตลาดต่าง- ประเทศต่อไป คือ ฮ่องกง และฟิลิปปินส์


อิทธิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมบริษัทในช่วง 6 เดือน ที่ผ่านมายังอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากปลายปี 2554 ที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับตัว และปรับเปลี่ยนโครงสร้างการ- บริหารงานภายใน จากรูปแบบครอบครัวเปลี่ยนเป็นการ สร้างองค์กรเครือข่ายเน็ตเวิร์คอย่างแท้จริง ด้วยการดึงระบบ Evolution Success System เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งจุดเด่นคือการมีนักธุรกิจที่จำหน่ายสินค้าเก่งมากถึง 70% บริษัทจึงเน้นวางแผนไปยังกลุ่มนักธุรกิจดังกล่าว ซึ่งมี เป้าหมายการสร้างเน็ตเวิร์คบิวเดอร์ให้ได้ 50% ในปีนี้


ช่วงนี้เป็นช่วงปรับเปลี่ยน หลังจากเจอปัญหา เรา เจอจุดอ่อนภายใน แล้วเราก็มาปรับหาจุดแข็งเพื่อให้องค์กร เติบโตต่อไป อย่างการปรับตัวครั้งนี้ไม่ได้กำหนดระยะเวลา ว่าเมื่อไหร่จะต้องทำให้เสร็จ และเมื่อทำเสร็จก็ต้องหาจุดอ่อน และต้องพัฒนา ต่อไปให้องค์กรภายในดีขึ้นเรื่อยๆ


อย่างไรก็ตาม จนถึงสิ้นปี บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 1,900-2,000 ล้านบาท ซึ่งเหตุผลหลักที่บริษัทไม่ได้วาง เป้าสูงถึง 2,500-3,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรู้ว่า ภายในบริษัทเป็นอย่างไร มีจุดอ่อนและจุดแข็งอย่างไร ซึ่งว่ากันไปตามความเป็นจริงมากกว่าที่จะตั้งเป้าหมาย ไว้สูงเกินจริง


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค ฉบับที่ 203 วันที่ 16-31 กรกฏาคม พ.ศ. 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น