ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

สคบ.ฟิตจัดเรียก 2 มหาลัยดัง ทำวิจัยแก้กฎหมายขายตรงใหม่








 


สคบ.เอาจริงยกเครื่องธุรกิจขายตรงใหม่ กวักมือเรียก 2 มหาลัย จุฬา-ธรรมศาสตร์ ทำวิจัยแก้กฎหมายขายตรงอย่างเป็นรูปธรรม หลังประกาศใช้มานานทำให้ล้าหลังประเทศอื่น ระบุสิ้นเดือนม.ค.นี้ เตรียมได้ข่าวดี!! รวมทั้งไล่เชือดบริษัทขายตรงผี มีชื่อแต่ไร้ตัวตน ย้ำหากเรียกแล้วไม่มารายงานตัว สั่งถอนใบอนุญาตทันทีนายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สคบ.อยู่ระหว่างการทำวิจัยเพื่อแก้กฎหมายขายตรงใหม่ โดยได้เชิญทางมหาวิทยาลัยสองแห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งยังไม่ทราบว่าทางมหาวิทยาลัยใดจะได้เข้ามาทำวิจัยคาดว่าภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้น่าจะทราบรายละเอียดทั้งหมด


นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สคบ.อยู่ระหว่างการทำวิจัยเพื่อแก้กฎหมายขายตรง โดยได้เชิญทางมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งยังไม่ทราบทางมหาวิทยาลัยใดจะได้เป็นผู้เข้ามาทำวิจัยคาดว่าภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้น่าจะทราบรายละเอียดทั้งหมด


อย่างไรก็ตามการทำวิจัยในครั้งนี้เพื่อให้ทราบว่าจำเป็นจะต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายมาตรฐานใดบ้าง เนื่องจากกฎหมายฉบับปัจจุบันเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งถือว่าค่อนข้างเก่ามาก ทำให้หล้าหลังประเทศอื่น เนื่องจากปัจจุบันโลกทางธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ของโลก อีกอย่างการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายขายตรงไทยดังกล่าว ยังเป็นการรรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจในปี 2558 อีกด้วย


นอกจากนี้ทางสคบ. ยังมีนโยบายเร่งด่วนในการจัดระเบียบบริษัทขายตรงที่จดทะเบียนไว้กับ สคบ. ที่มีจำนวนทั้งหมด 852 บริษัท เพื่อต้องการทราบว่ายังเหลือบริษัทขายตรงที่ปิดดำเนินธุรกิจจริงอยู่กี่บริษัท โดยก่อนหน้านี้ทาง สคบ. ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทเหล่านี้ ปรากฏว่ามีหนังสือตอบกลับเพียง 180 บริษัท โดยมีบริษัทขายตรง 35 แห่งใน 180 บริษัท แจ้งความจำนงขอเลิกกิจการ ส่วนบริษัทที่เหลือทาง สคบ. เตรียมจะลงโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้บริษัทเหล่านั้นได้รับทราบและมาแจ้งความประสงค์ว่าต้องการจะดำเนินธุรกิจต่อไปหรือไม่ หากไม่มาถือว่าท่านต้องการจะเลิกกิจการ


ส่วนโครงการตราสัญลักษณ์สคบ.นั้น นายจิรชัย กล่าว่า ทางสคบ. ได้หารือกับสมาคมต่างๆ แล้วว่าบริษัทใดที่ต้องการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจำเป็นจะต้องสังกัดสมาคมใดสมาคมหนึ่ง เพื่อให้ทางสมาคมนั้นๆ กรองอีกชั้นหนึ่งก่อนเข้ามาร่วมขอตราสัญลักษณ์สคบ. ส่วนบริษัทขายตรงใดที่มีความพร้อมและสังกัดอยู่ในสมาคมใดสมาคมหนึ่งแล้วจะเข้าร่วมขอตราสัญลักษณ์ดังกล่าวได้ สคบ. ก็จะดำเนินการให้ทันที ส่วนรายละเอียดอื่นๆค่อยมาว่ากัน


โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการที่ดี เพราะจะเป็นการการันตีคุณภาพของบริษัทขายตรงไทย รวมถึงการขยายตลาดออกไปยังตลาดในอาเซียน ดังนั้นอยากให้บริษัทที่ต้องการเข้าร่วมโครงการนี้ไปสังกัดสมาคมใดสมาคมหนึ่งก่อน เพราะจะช่วยคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ LEADER TIME รายปักษ์ ประจำวันที่16-31มกราคม 2556 ฉบับที่ 215

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น