ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

ข่าวโดกุดามิ (Dokudami) : โดกุดามิ ผนึกพันธมิตรรายใหม่ ผุดเสริมอาหารแคปซูลลงตลาด









โดกุดามิ จีบบริษัทข้ามชาติ เล็งเปิดบริษัทน้องใหม่ ในระบบ ขายตรงระหว่างประเทศ หวังเป็นแบบอย่างขายตรงสัญชาติไทย ก้าวสู่นานาชาติ พร้อมจับมือคู่ค้ารายใหม่ผลิตเสริมอาหารชนิด แคปซูล หลังวางขายเสริมอาหารชนิดน้ำมานาน ระบุรอผลวิจัย รองรับก่อนเปิดตัวเป็นทางการ ลั่นกุมภาพันธ์นี้ ปรับราคาสินค้า เพิ่ม หลังนโยบายปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ของรัฐบาลพ่นพิษ
อัศวิน วัฒนปราโมทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โดกุดามิ เอเชีย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัทต่างชาติจัดตั้งบริษัท ขายตรงขึ้นมาใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท โกลบอล เฮิร์บ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงระหว่างประเทศ ที่นำสินค้าขายตรงของ ไทยกระจายสู่ตลาดโลก โดยจะทำในระบบโกลบอล เน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็น ระบบออนไลน์สามารถทำงานได้ทั่วโลก ขณะนี้บริษัทดังกล่าว อยู่ระหว่างการขอรับใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.)
ทั้งนี้ การที่บริษัทได้จัดตั้งบริษัทดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากบริษัท มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจกับต่างชาติมานาน และต้องการที่จะ เผยแพร่สินค้าของไทยให้ทั่วโลกได้รู้จัก โดยมีประเทศไทยเป็นฐาน ในการส่งออก อีกทั้งต้องการที่จะเป็นแบบอย่างแนวทางในการทำให้ บริษัทขายตรงสัญชาติไทยได้รู้จักระบบการขายตรงแบบโกลบอล เน็ตเวิร์ก เพื่อเข้าไปแข่งขันในตลาดต่างประเทศเมื่อมีการเปิดตลาด AEC
อย่างก็ตาม บริษัทดังกล่าว จะดำเนินธุรกิจในการจำหน่ายสินค้า เฉพาะในต่างประเทศ และบริษัทดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับ บริษัท โดกุดามิ เอเชียฯ ส่วน โดกุดามิ เอเชีย จะทำหน้าที่จำหน่าย สินค้าขายตรงในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว และในเดือน กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ บริษัทมีแผนที่จะปรับราคาสินค้า เพิ่มขึ้นประมาณ 13.5% เนื่องจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาล ดังนั้น บริษัทในฐานะที่เป็นผู้ผลิต สินค้าจึงต้องปรับราคาสินค้าตาม
บริษัทก็ได้แต่หวังว่ารัฐบาลจะเข้ามาช่วย บริษัทที่เป็น SME อย่างเรา ถึงแม้ว่าในความเป็นจริง เชื่อว่าไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ คาดว่าบริษัท ขายตรงอีกหลายแห่งจะต้องได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ และยังเชื่ออีกว่าใน 2-3 เดือนข้างหน้า บริษัท SME อีกหลายแห่งต้องปิดตัวลง
สำหรับภาพรวมบริษัทในปีที่ผ่านมา ปิดยอดขาย ได้ 300 ล้านบาท และในปีนี้บริษัทจะมีสินค้าที่มีงานวิจัย รองรับออกสู่ตลาดอีกหลายรายการ ขณะเดียวกันบริษัท ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทยฟรีซดราย จำกัด ในการร่วม ผลิตสินค้าให้กับบริษัท ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทต่าง- ชาติที่เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทยและเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ ในการผลิตสินค้าประเภทเสริมอาหารมานาน รวมถึงการเป็นบริษัท ที่ผลิตสินค้าออกจำหน่ายเอง โดยมีช็อปจำหน่ายเสริมอาหาร ในสหรัฐอเมริกา และนิวซีแลนด์ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี การร่วมมือในการผลิตสินค้า ครั้งนี้จะเป็นการผลิตเสริมอาหารชนิดแคปซูล จาก เดิมที่บริษัทมีสินค้าชนิดน้ำ โดยการนำเอาระบบ ไบโอไดนามิคฟรีซดราย เข้ามาช่วยในกระบวนการ ผลิต ซึ่ง บริษัท ไทยฟรีซดรายฯ ถือเป็นบริษัท เดียวในโลกที่ได้นำเอาระบบนี้มาใช้ใน การผลิต โดยจะทำให้สมุนไพรที่นำมา ผลิตแห้งกรอบแต่ยังคงเหลือคุณค่า และสรรพคุณของสมุนไพรแต่ละตัวไว้ อย่างครบถ้วน และสมุนไพรที่นำมา ผลิตจะเป็นสมุนไพรไทย 100% ที่นำมาจากโครงการหลวง
เราต้องรอผลการวิจัยก่อนว่า เมื่อนำมาผลิตในรูปแบบของแคปซูล แล้วผู้บริโภคควรจะรับประทานในปริมาณ เท่าไหร่ต่อครั้ง เมื่อเทียบกับชนิดน้ำที่ต้อง รับประทานครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ หากผลวิจัย ออกมาเมื่ออยู่ในรูปแบบแคปซูลแล้ว จะมี ปริมาณการรับประทานมากกว่าในรูปของน้ำ อาจจะต้องลดปริมาณหรือขนาดของ แคปซูลลงมา เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทาน ในปริมาณที่พอเหมาะ




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ เดอะ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค ปีที่ 9 ประจำวันที่16-31มกราคม 2556 ฉบับที่ 215

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น