ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

สัมภาษณ์ ดร.สมชาย หัชลีฬหา ประธาน Join & Coin กับความเป็นมาของนวัตกรรมขายตรงสะดวกซื้อที่เปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมเข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจ









การตลาดในรูปแบบธุรกิจขายตรงหรือที่คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันคือ MLM ที่ย่อมาจาก Multi Level Marketing หรือเรียกกันอีกอย่างว่าการตลาดแบบเครือข่าย NetworkMarketing ซึ่งเป็นการตลาดขายตรงหลายชั้นเพื่อแบ่งรายได้ให้แก่สมาชิกในองค์กร โดยผู้ที่เป็นสมาชิกจะเป็นผู้ที่ทำการกระจายสินค้าไปสู่มือผู้บริโภคเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่สมาชิก โดยมีองค์กรเป็นผู้สนับสนุนในการผลิตสินค้าและแผนการตลาด


โดยทั่วไปแล้วธุรกิจเครือข่ายจะมีข้อจำกัดอยู่ที่สมาชิกไม่สามารถนำสินค้าที่นอกเหนือจากแบรนด์ขององค์กรมาจัดจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคได้และไม่มีการพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกในด้านการซื้อขายสินค้า ไปยังถึงระบบการจัดส่งที่รวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคก่อให้เกิดความรู้สึกว่าธุรกิจนี้ไม่ใช่เป็นธุรกิจของตัวสมาชิกเองส่งผลให้สมาชิกได้หมดความรักและความเชื่อมั่นต่อองค์กรสุดท้ายก็ได้ปิดตนเองออกจากองค์กรที่ทำอยู่


ด้วยเหตุนี้ ดร.สมชาย หัชลีฬหา ประธานกรรมการบริหารบริษัท จอยแอนด์คอยน์คอร์ปอเรชั่นจำกัด จึงเกิดแนวคิดพัฒนาระบบธุรกิจขายตรงรูปแบบใหม่ที่แตกต่างจากรายอื่น โดยเน้นที่การได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันทุกฝ่าย


ดร.สมชาย ได้ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจขายตรงเมื่อ 10 ปีก่อนโดยเริ่มจากการจำหน่ายธุรกิจโหย่งเหิง ยาน้ำสมุนไพรจีนเพื่อบำรุงสุขภาพ โดยเริ่มจากการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ตลอดจนถึงงานแสดงสินค้าต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากทางผู้บริโภค จนมีผู้สนใจขอเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่าย ตลอดจนได้มีผู้มาชักชวนให้พัฒนามาเป็นธุรกิจในรูปแบบขายตรง ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทมากขึ้นอีกทั้งยังช่วยให้ผู้คนทั่วไปสามารถสร้างรายได้สร้างอาชีพได้จริง


โดยในปีแรกที่ได้เข้ามาเริ่มต้นธุรกิจเครือข่ายก็สามารถทำยอดการจำหน่ายได้ถึง 180 ล้านบาท ซึ่งยอดการเจริญเติบโตของบริษัทในแต่ละปีนั้นมากกว่า 80% ในช่วง 4 ปีแรกจนกระทั่งได้ถูก อย. กล่าวว่าได้ทำการโฆษณาสินค้าเกินจริงก่อให้เกิดผลกระทบต่อบริษัทและยอดการจำหน่ายตลอดจนสมาชิกและผู้บริโภครู้สึกถึงความไม่เชื่อมั่นในตราสินค้าทำให้ปีถัดมายอดตกลงมาเหลืออยู่ที่ราว 400 ล้านบาท


ดร. สมชาย มีความเชื่อมั่นว่าเมื่อคนเราพบกับปัญหาและสามารถข้ามผ่านปัญหาที่เข้ามาได้มนุษย์เราจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง จึงก่อให้เกิดแนวคิดในการนำสินค้าที่มีความหลากหลายมากกว่าหมื่นรายการมาจำหน่ายเพื่อแก้ไขปัญหาในข้างต้น รวมไปถึงการพัฒนารายได้ของธุรกิจให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น จึงก่อให้เกิดนวัตกรรมในระบบธุรกิจขายตรงที่มีจุดเด่นที่เรียกว่า Convenience MLMหรือเรียกอีกอย่างว่าขายตรงสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นการนำสินค้าขายตรงต่างมาๆอยู่ภายในร้านสะดวกซื้อ ภายใต้ชื่อ Join Mart


นิยามของ นวัตกรรมขายตรง คือการที่เราเปลี่ยนธุรกิจขายตรงทั่วไปให้เป็นขายตรงสะดวกซื้อที่จะสามารถช่วยให้การกระจายสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง อีกทั้งสมาชิกสามารถบริหารจัดการธุรกิจเองได้และมีระบบ อี-วอลเล็ต ที่เป็นระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยในการบริหารจัดการในการซื้อขายสินค้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ขายตรงแบบทั่วไปให้มีศักยภาพและการขับเคลื่อนของธุรกิจที่พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง


ดร. สมชาย ได้กล่าวต่ออีกว่า ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ทำให้สมาชิกทุกคนเปรียบเหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจและสามารถที่จะสร้างแรงผลักดันให้มีการทำธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งผลสำรวจได้พบว่า ถ้าหากสมาชิกมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของในธุรกิจสูงก็จะสามารถดึงศักยภาพในการทำธุรกิจให้ดีขึ้นถึง 2-3 เท่า เพราะมีความรู้สึกว่านี่คือธุรกิจของตนเอง โดยที่ผ่านมามีสมาชิกได้นำไปขยายเป็นแฟรนไชส์แล้วได้ผลตอบรับที่ดี


สมาชิกมองเห็นว่านวัตกรรมนี้เป็นโอกาสให้กับสมาชิกและสมาชิกทุกคนสามารถสร้างรายได้สร้างอาชีพได้ด้วยระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิคส์ สมาชิกสามารถเปิดร้านขายสินค้าได้ทุกที่หรือสามารถนำสินค้าที่มีอยู่สามารถเข้ามาร่วมขายด้วยก็ได้


โดยปกติทั่วไปแล้วบริษัทขายตรงจะไม่อนุญาตให้นำสินค้าอื่นที่ไม่ใช่แบรนด์ขององค์กรมาขาย แต่ทางเราอนุญาตและเปิดโอกาสให้ทางสมาชิกสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในตรงนี้ จึงก่อให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองมีความเป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่า อีกทั้งโดยทั่วไปแล้วธุรกิจขายตรงอื่นๆ จะไม่อนุญาตให้ทางสมาชิกเปิดร้าน แต่ทางเราคิดต่างและยังเปิดโอกาสให้คนที่มีความรู้ ความสามารถมีความชำนาญในพื้นที่ ที่เราไม่มีความสะดวกในการเข้ามาดูแล เราก็ให้คนที่ในพื้นที่สามารถขยายเข้าไปเปิดเป็นแฟรนไชส์ซึ่งคือการให้โอกาสเจ้าของร่วม


นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างความแตกต่างด้วยสินค้าที่หลากหลายรวมถึงราคาในระดับที่ผู้บริโภคสามารถเข้ามาหยิบจับได้จริง โดยใช้หลักการกำไรที่โตขึ้นนั้นตามจำนวนสินค้าที่มากขึ้น โดยทางบริษัทจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนสมาชิกที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อนำสินค้าไปจำหน่ายต่อ ซึ่ง ดร.สมชายเชื่อมั่นว่ารูปแบบการทำตลาด กลยุทธ์ และเครื่องมือเหล่านี้สามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้


ดร.สมชายบอกต่อไปอีกว่า การพัฒนาธุรกิจที่ผ่านมา เขาเริ่มต้นจากการพัฒนาสินค้า ต่อมาคือการพัฒนาลูกค้า ตามด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจ ซึ่งไม่ได้มีแค่สินค้ากับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกที่นำสินค้าไปจำหน่ายต่อด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกคนได้รับความพึงพอใจ และได้ประโยชน์ร่วมกัน


การพัฒนาโซลูชั่นนี้ทำให้เราค้นพบตัวตนที่แท้จริงและทำให้เราแสดงตัวตนให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นใคร ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาเราถือว่าเป็นการทำวิจัยและพัฒนาดร.สมชายกล่าว ซึ่งต่อไปคือการหาวิธีการที่จะทำให้ลูกค้าอยู่กับแบรนด์ได้นานขึ้น มีความจงรักภักดีกับแบรนด์ รู้สึกดีกับบริษัทและสินค้า จึงเป็นเรื่องของการต่อยอด


สำหรับเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้คือ การมีสาขาของ JC Shop (เปลี่ยนชื่อจากJoin Mart) ในรูปแบบห้างขายตรงสะดวกซื้อจำนวน 3-4 สาขาตามจังหวัดใหญ่ๆ ที่มีสนามบินเพื่อเป็นฮับในการกระจายสินค้าสู่สาขาย่อยในพื้นที่ต่างๆ ที่มีอยู่แล้วกว่า 40 สาขาในปัจจุบัน โดยในจำนวนนี้ 30% คือสาขาแฟรนไชส์ที่สมาชิกนำไปเปิดธุรกิจเอง รวมทั้งพัฒนาช่องทางอี-วอลเล็ตให้สะดวกมากยิ่งขึ้นเพื่อที่สมาชิกจะสามารถนำระบบนี้ไปขยายสาขาเพื่อขายสินค้าเองได้ ซึ่งเขามั่นใจว่าวิธีนี้จะช่วยกระจายสินค้าในจังหวัดที่มีฮับอยู่ได้เร็วยิ่งขึ้น และจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2556 นี้ ซึ่งจะเริ่มเห็นอย่างเป็นรูปธรรมในปลายปีที่จะถึงนี้


ตอนนี้ Join & Coin มีสมาชิกทั่วประเทศทั้งหมดนับล้านราย โดยมีสมาชิกที่ดำเนินธุรกิจต่อเนื่องราวแสนรายหรือ 10% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ขณะเดียวกันก็มีจำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นถึงหลักแสนรายต่อปีเช่นกัน ซึ่งเป้าหมายที่เขาวางไว้อีกข้อหนึ่งคือพยายามเพิ่มจำนวนสมาชิกที่แอ็กทีฟให้มากขึ้นจาก 1 แสนรายเป็น 2 แสนรายต่อปี


ปัจจุบัน Join & Coin มีรายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีสินค้าหลักคือ โหย่งเหิง ที่สร้างยอดขายปีละเกือบ 1,000 ล้านบาทหรือคิดเป็นเกือบ 50% ของรายได้ทั้งหมด


ทั้งนี้ภายใน 2 ปี ข้างหน้านี้ทาง Join & Coin มีแผนที่จะเปลี่ยนตนเองให้เป็นบริษัทมหาชนเพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งทางบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มเม็ดเงินการจดทะเบียนให้เป็นเป็น 300 ล้านบาท เพื่อนำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ภายในปีหน้านี้ ซึ่งวัตถุประสงค์การเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อที่จะนำเงินทุนเข้ามาเพื่อเปิดสาขาให้กระจายไปทั่วประเทศมากที่สุด


ในส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ทาง Join & Coin ได้เปิดตลาดอยู่ในประเทศลาวและมาเลเซียซึ่งจะมีการเปิดตลาดต่อไปอีก 2 ประเทศด้วยกันในอนาคต และหลังจากประชาคมอาเซียนในปี 2558 ได้ถือกำเนิดขึ้น ดร.สมชาย คาดว่าจะขยายสาขาไปได้ถึง 8 สาขาในตลาดต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน


ดร.สมชาย ได้กล่าวถึงประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นต่อด้วยว่า ตามที่คาดการณ์ไว้ประเทศต่างๆ จะเข้ามาสู่ประเทศไทยมากกว่าเพราะเชื่อว่าประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางของประชาคมอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ซึ่งทางเราก็จะแบ่งตลาดได้ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพและแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในตลาดสากล ส่วนแผนในระยะยาวนั้นเราจำเป็นต้องการใช้คนในพื้นที่เข้าไปเพื่อแบ่งตลาดเข้ามา โดยใช้ระบบ One Code One World ให้คนต่างชาติเข้ามาเป็นสมาชิกเข้ารับการเทรนนิ่งเพื่อกลับไปยังประเทศและสามารถทำตลาดต่อไปได้


ในด้านยอดปี 2555 ที่ผ่านมาทาง บริษัท จอยแอนด์คอยน์คอร์ปอเรชั่น จำกัด มียอดการเจริญเติบโตอยู่ที่ 20% ซึ่งผิดจากที่ตั้งเป้าไว้เล็กน้อย และในส่วนปี 2556 ดร.สมชาย มั่นใจถึงศักยภาพขององค์กรและมองว่าในปี 2556 ที่จะถึงนี้จะเติบโตในด้านยอดขายและสมาชิกมากกว่า 20% ซึ่งในด้านกลยุทธ์ ดร.สมชาย ได้กล่าวว่า แผนที่จะผลักดันในการกระตุ้นการเติบโตของบริษัทนั้นได้แก่การเทรนนิ่งบุคลากรเพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพให้สมาชิกของ Join & Coin เพื่อให้ทุกคนมีองค์ความรู้นำมาพัฒนาในสายงานของตนเอง ซึ่งการพัฒนาบุคลากรคือการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนที่สุดในส่วนการส่งเสริมการตลาด ดร.สมชาย ได้มองถึงกลยุทธ์หลักคือ การจัดโปรโมชั่นและการจัดอีเว้นท์ ควบคู่กันไปเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายให้แก่สมาชิกและบริษัท ทั้งนี้ในปี 2556 ระบบการจัดส่งของ Join & Coin จะมีความพร้อมซึ่งก็คือ ระบบการจัดส่งที่จะพัฒนาก้าวข้ามขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งการจัดส่งสินค้าของทางบริษัทนั้นจะสามารถจัดส่งสินค้าต่างๆ ได้ถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการแก่ผู้บริโภค


และอีกสิ่งหนึ่งที่ ดร. สมชาย และ Join & Coin มุ่งหวังอย่างแท้จริงนั้นคือ เราไม่มองถึงประโยชน์ของการหารายได้เพียงอย่างเดียวแต่สิ่งที่เรามุ่งเน้นเป็นหลักตั้งแต่เริ่มธุรกิจมานั้นคือ โอกาสทางธุรกิจ และเราก็ให้ความสำคัญต่อทุกภาคส่วนนโยบายของเรานั้นคือการใช้แพลทฟอร์มที่จะเปิดโอกาสให้ผู้มีความสนใจในธุรกิจได้มีโอกาสเข้ามาร่วมก้าวเดินไปกับ Join & Coin พร้อมที่จะสร้างให้สมาชิกทุกคนมีวิธีคิดและหลักการเป็นของตนเอง ไม่จำเป็นต้องมาขึ้นกับบริษัท อนึ่ง บริษัทเรานั้นเปรียบเสมือนเป็นผู้ให้บริการแก่สมาชิก เพื่อช่วยเหลือให้สมาชิกทุกคนมีความสำเร็จ มีชีวิตที่ดี มีความคิดที่ดี เราไม่เคยคิดที่จะตีกรอบไว้ที่ว่าสมาชิกเมื่อมาซื้อของกับเราแล้วจะต้องนำสินค้าไปขายเพียงอย่างเดียวแต่ที่นี่สมาชิกทุกคนยังสามารถนำสินค้ามาขายด้วยและยังนำระบบไปขายต่อได้อีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรามองว่าเป็น นวัตกรรมขายตรงรูปแบบใหม่ซึ่งเป็นโอกาสแห่งชีวิตสำหรับผู้คน(Innovative Modern Trade MLM) ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้กับการนำบริษัท จอยแอนด์คอยน์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ไปสู่การเป็นมหาชนหรือการตั้งระบบให้เป็นศูนย์กลางของการค้าขายรูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็น ขายตรง ค้าปลีก หรือ ค้าส่ง จนกระทั่งถึงระดับสรรพสินค้าก็ตาม


ด้วยคอนเซ็ปที่ผ่านพ้นมาในอดีตนั้นก่อให้เกิดแผนใหม่ได้แก่แผนที่นำมาผสมซึ่งกันและกัน Hybrid ซึ่งเป็นกลยุทธ์แบบ Vertical Market หมายถึงเป็นการทำการตลาดแนวดิ่งไม่ว่าจะเป็นการผลิตเอง การขายส่ง การค้าปลีก จนไปถึงผู้บริโภค และก็ยังสมารถให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาเป็นสมาชิกเพื่อให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการและผู้บริโภคก็จะสามารถกลายเป็นแฟนไชส์ซีของเราได้ ซึ่งแฟรนไชส์ซีก็มีโอกาสที่จะเป็นแฟนไชส์ซอว์ได้อีกด้วยหากผู้บริโภคผู้นั้นสามารถนำเอาธุรกิจนี้ไปขยายได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือนวัตกรรมทางการตลาดแบบใหม่ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือโอกาสสำหรับผู้คนในทุกช่วงอายุที่สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโอกาสในส่วนนี้ได้


จัดทำและเรียบเรียงโดย www.thaimlmnews.com


1 ความคิดเห็น: