ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

ข่าว มิลค์กี้เวย์ เน็ตเวิร์ค (Milkyway Network) : มิ้ลค์กี้ เวย์ เร่งตอกเข็มธุรกิจแดนอีสาน มุ่งสร้างจุดศูนย์กลางรับตลาดอาเซียน








 


มิ้ลค์กี้ เวย์ ปีมะเส็ง เดินเครื่องเต็ม แรง ประกาศบุกอีสาน ล่าสุดเล็งจังหวัด อุดรธานี เตรียมตั้งเป็นฐานบัญชาการรบ ใหม่ หวังเชื่อมโยงธุรกิจรับประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน ด้ว ยการทุ่ม งบกว่า 100 ล้าน สร้างศูนย์คอนเวนชั่นฮอลล์ บนพื้นที่ 5 ไร่ เชื่อหากศูนย์ดังกล่าวเสร็จเมื่อไหร่ ธุรกิจ มิ้ลค์กี้ เวย์ เติบโตทะยานฟ้าเทียบชั้นยักษ์ ใหญ่เบอร์ 1 แน่นอน พร้อมเผยภาพรวม ธุรกิจที่ผ่านมา โตดีเป็นที่น่าพอใจ
เปิดศึกรับศักราชใหม่สำหรับขายตรง มิ้ลค์กี้ เวย์ ที่ต้องบอกว่า นาทีนี้ ค่ายนี้กำลัง เร่งเครื่องธุรกิจแบบเต็มแรงกันเลยทีเดียว ด้วยเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า ต้องการที่จะอยู่ในแถวหน้าของธุรกิจขายตรงเมืองไทย ทั้งนี้ หากใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ มิ้ลค์กี้ เวย์ แล้วจะทราบว่า การเดินเกมของ ค่ายนี้ เริ่มที่จะออกมาเป็นรูป เป็นร่างบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากดูถึง ความเคลื่อนไหวของธุรกิจ มิ้ลค์ กี้ เวย์ ในช่วงที่ผ่านมานั้น ทาง ด้าน นายสุมิตร วชโรดมทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิ้ลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิรค์ จำกัด ได้เปิด เผยว่า ตลอดระยะเวลาในการ ดำเนินธุรกิจของมิ้ลค์กี้ เวย์ ใน ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ภาพโดย รวมของธุรกิจเรียกได้ว่าเป็นที่น่า พอใจ เห็นได้จาก ปัจจุบันนี้ บริษัทฯ มีสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่น รหัสด้วยกัน ถือว่าเป็นการ เติบโตที่รวดเร็วกว่าที่บริษัทฯ ตั้ง เป้าหมายไว้เสียอีก อย่างล่าสุด เมื่อไม่นาน บริษัทฯ ก็ได้มีการ เปิดสาขาใหม่ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุด ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของบริษัทฯ ในการที่จะขับเคลื่อนธุรกิจสู่เป้า หมายที่ตั้งไว้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นายสุมิตร ยังกล่าว ต่ออีกว่า ในส่วนของแผนการ ดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นับ จากนี้ต่อไปนั้น ได้เตรียมที่จะ ผุดศูนย์คอนเวนชั่นฮอลล์ ที่ จังหวัดอุดรธานี เพื่อหวังที่จะ สร้างเป็นศูนย์รวมทางธุรกิจ ของอาเซียน โดยศูนย์ดังกล่าว นั้น จะมีทั้งศูนย์อบรมสัมมนา ห้องเทรนนิ่ง ที่ใช้งบประมาณ ในการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท การเปิดศูนย์คอนเวน ชั่นฮอลล์ดังกล่าว ถือเป็นแผน งานในระยะยาวที่บริษัทฯ ได้ วางไว้ เพื่อเป็นการเปิดรับกับ ตลาดอาเซียนที่จะมีขึ้นใน อนาคตอันใกล้นี้ โดยขณะนี้ได้ มีการสำรวจพื้นที่ก่อสร้างเพื่อ เรื่องดำเนินการไปแล้ว ซึ่งจะใช้ พื้นที่ในการก่อสร้างประมาณ 5 ไร่ พร้อมกับคาดว่าจะเปิดใช้ได้ ในช่วงปี 2556 นี้แน่นอน นายสุมิตร เผยต่ออีกว่า เป้าหมายของ มิ้ลค์กี้ เวย์ ไม่ ได้หยุดเพียงแค่นี้ เพราะสิ่งที่ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้คือ ต้องการเป็นที่ 1 ในตลาดเครือ ข่ายเมืองไทย ซึ่งเป้าหมาย อันดับ 1 ในที่นี้นั้น คือ บริษัทฯ จะต้องสานนโยบายและแผน ปฏิบัติการให้สามารถแข่งขัน กับเบอร์ 1 อย่างค่ายแอมเวย์ให้ ได้ ที่สำคัญ บริษัทฯ มีความ เชื่อมั่นและมีความมั่นใจว่า มิ้ลค์กี้ เวย์ ในอนาคตจะต้องมา แทนแอมเวย์ให้ได้ หากนโยบาย เป็นไปตามแผนงานที่บริษัทฯ วางไว้ สิ่งที่ทำให้ มิ้ลค์กี้ เวย์ มี ความเชื่อมั่นว่าจะเป็นเบอร์ 1 ของเมืองไทยให้ได้นั้น เนื่องจากนโยบายของบริษัทฯ ที่มีความ ชัดเจน รวมถึงฐานลูกค้าของ บริษัทฯ ที่มีอยู่ในต่างประเทศ รวมถึงวอลุ่ม การส่งออกไปต่าง ประเทศ ซึ่งขณะนี้ ต้องบอกว่า มิ้ลค์กี้ เวย์ มีความชัดเจนอย่าง มาก ในเรื่องของตลาดส่งออก ทั้งหมด และยิ่งในอนาคตอัน ใกล้นี้ ที่บริษัทฯ เชื่อว่า จะมีอีก หนึ่งเครื่องมือที่ช่วยผลักดัน ธุรกิจของบริษัทฯ ให้เติบโต อย่างรวดเร็วนั่นก็คือ สินค้า นั่นเอง พร้อมกับระบบการฝึก อบรมที่เรียกว่า 4+1 ที่จะช่วย ให้สมาชิกทุกคนที่อยู่ที่มิ้ลค์กี้ เวย์ ได้ประสบความสำเร็จ ความพร้อมของมิ้ลค์กี้ เวย์ ในขณะนี้เรียกว่า มีความ พร้อมเกือบทุกด้าน และยิ่งใน เรื่องของการลงทุนต้องบอกว่า ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน พร้อม กันนี้ บริษัทฯ ยังได้มีแผนที่จะ ออกสินค้าใหม่ เพื่อมาตอบ สนองความต้องการของสมาชิก และผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องอีก ด้วย นายสุมิตร กล่าวต่ออีกว่า หากเมื่อโมเดลของธุรกิจมิ้ลค์กี้ เวย์ เมืองไทยประสบความ สำเร็จ และมีระบบที่ชัดเจน โดย เฉพาะที่จังหวัดอุดรธานี ที่ถือ เป็นอีกหนึ่งยุทธ์ศาสตร์ที่สำคัญ ของการทำธุรกิจเมื่อไหร่ เชื่อว่า โอกาสที่มิ้ลค์กี้ เวย์ จะสามารถ ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในประเทศไทยก็ ไม่ยากด้วยเช่นกัน แต่หากถาม ว่า จะใช้ระยะเท่าไหร่นั้น คงยัง ไม่สามารถที่จะตอบได้อย่าง ชัดเจน แต่สามารถที่จะบอกได้ ว่า หากเมื่อไรก็แล้วแต่ ที่โมเดล ที่อุดรธานีประสบความสำเร็จ และสร้างเสร็จ ซึ่งจะใช้เวลา ไม่เกิน 2 ปี น่าที่จะช่วยดัน ธุรกิจของมิ้ลค์กี้ เวย์ สู่ความ เป็นเบอร์ 1 ของเมืองไทยได้ด้วย เช่นกัน
ผมยังมีโมเดลที่จะต้อง ทำให้ได้อีกอย่างน้อย 85% ซึ่ง วันนี้เราประสบความสำเร็จแล้ว เพียงแค่ 15% จากเป้าหมายที่ เรานั้น จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 โดยยัง เหลืออีก 85% ที่จะต้องสานต่อ ดังนั้นถนนเส้นนี้ ยังคงต้องเดิน อีกไกลมาก ๆ แล้วถามว่า โอกาสที่เรานั้นจะพลาดพลั้ง ที่ จะล้มในวันข้างหน้าเป็นเช่นไร คิดว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก แต่หากจะมีในเรื่องของผลกระ ทบคงเกิดจาก 2 เรื่อง คือ สิ่ง ที่มากระทบทั้งภายใน และ ภายนอก โดยผลกระทบจาก ภายใน ถือว่าเราควบคุมได้ แต่ ผลกระทบภายนอกนั้น อาจจะ ตอบไม่ได้ แต่ทั้งนี้เราเองก็ต้อง ทำธุรกิจด้วยความระมัดระวัง อย่างแน่นอน


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพตลาดวิเคราะห์ ประจำวันที่ 1-15 มกราคม 2556 ปีที่ 15 ฉบับที่ 335

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น