ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

ขายตรงอินเดียระอุ!เอกชนบี้รัฐบาลเคาะกฏเหล็ก สมาคมผนึกหอการค้าตอกฝาโลงแก๊ง "ปิระมิด"









ธุรกิจขายตรงในประเทศอินเดียมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองตั้งแต่ต้นปี เมื่อภาคธุรกิจส่งสัญญาณไปยังภาครัฐให้ออกกฎหมายขายตรงโดยเร่งด่วน โดยสื่อท้องถิ่นระบุ สมาคมการขายตรงอินเดีย (The Indian Direct Selling Association : IDSA) ผนึกกำลังกับหอการค้าเรียกร้องรัฐบาลเร่งออกกฎหมายหรือกฎระเบียบกำกับดูแลธุรกิจขายตรง สกัดพวกขายตรง นอกรีตที่จัดตั้งบริษัทขึ้นมาหลอกลวงประชาชนเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมและของประเทศชาติ ตลอดไปถึงดูแลผู้บริโภคสร้างมาตรฐานให้กับธุรกิจ


สมาคมการขายตรงอินเดียแสดงจุดยืนอันแรงกล้านี้ในการประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานเพื่อหารือกันถึงอนาคตธุรกิจขายตรงภายในประเทศรวมถึงมาตรการจัดการแก๊ง ปิระมิด ระบบการตลาดสีเทาที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก


การประชุมมีขึ้นหลังปีใหม่ที่ผ่านมาโดยผู้เข้าร่วมประชุมนอกจากคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ แล้วยังมีผู้แทนจากหอการค้าทั้งกลุ่มผู้จบการศึกษาระดับปริญญาเอกสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดียที่ล้วนมีจุดยืนต้องการส่งเสริมธุรกิจขายตรงซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญแขนงหนึ่งที่มีส่วนไม่น้อยในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ


ในกลุ่มบุคคลที่ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเวทีการประชุมเพื่อส่งผ่านข้อเสนอดังกล่าวไปยังภาครัฐ อาทิ ชาวี เฮมานห์ เลขาธิการหอการค้า, พี เดฟดาส เหรัญญิกสมาคมการขายตรงอินเดีย,เอส.พี.ชาร์มา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ รวมถึงกลุ่มผู้จบการศึกษาระดับปริญญาเอกของหอการค้าอีกหลายคน และ ดี.เอส.ราชโอระ กรรมการอาวุโส สมาคมสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย


ตอกย้ำอินเดียต้องมีกฎหมายขายตรง สกัด ปิระมิด สร้างมาตรฐานธุรกิจ


ชาวี เฮมานห์ได้พูดตอกย้ำถึงความจำเป็นของประเทศที่จะต้องมีกฎหมายขายตรง หรืออย่างน้อยต้องมีระเบียบจากทางการออกมาเพื่อกำกับดูแลธุรกิจขายตรง แยกข้อแตกต่างระหว่างปิระมิด และธุรกิจเครือข่ายหลายชั้น(MLM) ออกจากัน โดยให้กำหนดเป็นคำนิยามในกฎหมายว่าการตลาดแบบ MLM เป็นอย่างไร การตลาดแบบปิระมิดเป็นอย่างไร เพื่อให้ประชาชนทั่วไปตลอดจนองค์กรต่างๆ ได้รับรู้เฉพาะปัจจุบันไม่สามารถแยก 2 โมเดลนี้ออกจากกันได้ ขณะเดียวกันยังไม่มีกฎหมายรับรอง MLM


การตลาดแบบ ปิระมิด มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจไม่ต่างจากแชร์ลูกโซ่จะหากินด้วยการสวมรอยเป็น MLM ใช้ช่องว่างของกฎหมาย โอกาสที่เปิดกว้างตลอดจนความไม่รู้ของประชาชนออกต้มตุ๋น หลอกหลวงประชาชนผู้บริสุทธิ์มีผู้ตกเป็นเหยื่อตลอด


บริษัทเหล่านี้จะเสนอสินน้ำใจหรือเงินรางวัลล่อใจเพื่อใช้รีครูตคนใหม่ๆ เข้ามาสู่วงจรของพวกเขา ดึงเงินจากสมาชิกเข้ามาหมุนเวียนและจ่ายค่าหัวคิวกันเป็นทอดๆ เพื่อให้ไปรีครูตคนใหม่ๆ เข้ามาอีก ยิ่งหาคนได้มากยิ่งได้เงินมาก ไม่มีตัวสินค้าที่จับต้องได้ แบบนี้คือโมเดลของปิระมิด


เอ.เซ็น กัพตา รองนายกสมาคมการขายตรงอินเดียกล่าวว่า มีความต้องการอย่างมากที่จะให้ภาครัฐสร้างความชัดเจนระหว่างขายตรง M:M และปิระมิด


ถึงเวลาจัดระเบียบหน่วยงานควบคุม เยอะเกิน-ซ้ำซ้อน-ขวางการเติบโต


ในมุมของเอส.พี.ชาร์มา สะท้อนศักยภาพของธุรกิจขายตรงภายในประเทศว่า ที่ผ่านมาขยายตัวสูงมาตลอดซึ่งในปีงบประมาณ 2553-2554 มีอัตราเติบโตถึง 27 % ด้วยยอดขาย 52,300 ล้านรูปีหรือประมาณ 36,600


ล้านบาท อยู่อันดับ 9 ของเอเชียและอันดับ 20 ของโลก โดย 28% เป็นผลงานของบริษัทสมาชิกและ 17% มาจากบริษัทที่ไม่ได้เป็นสมาชิก


ดี.เอส. ราชโอระ กล่าวว่า บริษัทขายตรงอยู่ภายใต้กฎหมายแห่งชาติก็จริงแต่กฎหมายเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง หลายกรมทั้งในส่วนกลางระดับจังหวัดไปจนถึงท้องถิ่น ไม่ได้มีกฎหมายขายตรงเป็นของตัวเองเหมือนหลายประเทศ


ซึ่งการมีหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งทำให้มีกฎ กติกาที่ต้องปฏิบัติหลากหลายมาก เกิดความซ้ำซ้อนและล่าช้าในการดำเนินการเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมากควรจะปรับปรุงใหม่ให้เกิดความทันสมัยเป็นไปในแนวทางเดียวกัน


เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ


อินเดียมีหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานที่มีบทบาทในการควบคุมดูแลธุรกิจขายตรง ซึ่งแต่ละหน่วยงานจัดชั้นประเภทธุรกิจขายตรงไม่เหมือนกันอย่างกรมส่งเสริมและกำกับนโยบายด้านอุตสาหกรรมจัดการขายตรงให้อยู่ในกลุ่มธุรกิจค้าส่งอนุญาตให้การลงทุนโดยตรงของชาวต่างชาติทำได้ 100% ขณะที่หน่วยงานจัดชั้นอุตสาหกรรมแห่งชาติจัดการขายตรงอยู่ในธุรกิจค้าปลีกซึ่งจำกัดการลงทุนให้แค่จำนวนหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของบริษัทขายตรงจากต่างประเทศ


ยิ่งกว่านั้น การที่ไม่มีกฎหมายขายตรงเพื่อกำกับดูแลธุรกิจให้มีมาตรฐานและเอกภาพเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจเพราะไม่สามารถแยกขายตรง น้ำดี คือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจถูกกฎหมายกับพวก ปิระมิด ออกจากกันได้ ทำลายภาพลักษณ์ของธุรกิจภาพรวมทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนอีกทั้งระบบ


หลายปีที่ผ่านมา สมาคมการขายตรงของอินเดียพยายามอย่างหนักที่จะขอให้รัฐบาลอินเดียออกกฎหมายหรือระเบียบกำกับดูแลธุรกิจขายตรงซึ่งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีข่าวดีเมื่อกระทรวงกิจการเพื่อความร่วมมือทางการค้าของอินเดียจะยกร่างแนวทางกำกับดูแลธุรกิจขายตรงของอินเดียถึงขนาดมีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐและเอกชนเพื่อให้คำแนะนำในการยกร่างกฎระเบียบดังกล่าวเพื่อใช้เป็นข้อบังคับควบคุมธุรกิจขายตรงทั่วประเทศเพราะปัจจุบัน มีเพียง 2 รัฐคือเกรละและราชสถานเท่านั้นที่มีแนวทางกำกับดูแลธุรกิจขายตรง


สมาคมการขายตรงอินเดียคาดการณ์อุตสาหกรรมขายตรงของอินเดียจะมียอดขายแตะ 71,200 ล้านรูปีหรือประมาณ 4.98 หมื่นล้านบาทภายในปี 2555-2556 สอดคล้องกับประมาณการณ์ของเอิร์นส์ แอนด์ ยัง บริษัทตรวจสอบ


บัญชีชั้นนำของโลก ซึ่งการเติบโตของธุรกิจขายตรงเนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (จีดีพี)เป็นสำคัญ ตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา อินเดียติดกลุ่มประเทศที่มีอัตราดารเติบโตของจีดีพีสูงสุดในโลกเฉลี่ย 7% ต่อปี ขณะที่รายได้ต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5% ต่อปี รัฐบาลอินเดียคาดการณ์จีดีพีจะมีมูลค่าถึง2.18ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2558 มีขนาดใหญ่อันดับ 11 ของโลก


อีกทั้งด้วยศักยภาพของตลาดผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่มากประชากรกว่า 1,200 ล้านคนมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นปัจจัยสำคัญกระตุ้นการเติบโตในอนาคต โดยในปี 2550 ตลาดผู้บริโภคของอินเดียมรกำลังซื้ออยู่อันดับ 12 ของโลก ตั้งเป้าหมายภายในปี 2568 ต้องขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 5 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีนและอังกฤษ




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพธุรกิจเครือข่าย ประจำวันที่16-31มกราคม 2556 ฉบับที่ 244

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น