 |
ยักษ์ไบนารี่เบอร์หนึ่ง ยูซานา โชว์ความเจ๋งด้วยยอดโกลบอลที่รับทรัพย์เต็มๆ 165 ล้านเหรียญสหรัฐเติบโต 15.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2011 ในขณะที่ตัวเลขกำไรพุ่งขึ้นกว่า 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 41.2% ส่วนทางด้าน ยูซานาไทย โหมจัดกิจกรรม Road Show เดินสายสร้างการรับรู้ เผยฐานสมาชิกและนักธุรกิจไหลตบเท้าเข้าสังกัดอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 70 %หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมมั่นใจศักยภาพเดินหน้ารุกก้าวสู่ปีที่ 2 ได้ไม่มีหวั่น
นางสาริณี เสถียรภัคกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการเติบโตทางธุรกิจของยูซาน่าทั่วโลก จากการประกาศผลประกอบการไตรมาส ที่ 3 ของ มร. เดฟ เวนทซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์ ที่ซอลท์เลค ซิตี้ สหรัฐอเมริกา พบว่า ยูซานา มียอดขายกว่า 165 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 15.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2011 โดยมีกำไรสุทธิ 17.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 41.2% จากช่วงเดียวกันของปี และกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 45.7% อยู่ที่1.18 ดอลลาร์ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 0.81 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งเหตุผลสำคัญของการเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 นี้มาจากงานเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีอย่างยิ่งใหญ่ในงานประชุมนานาชาติที่ซอลท์เลค ซิตี้ สหรัฐอเมริกา ที่ถือเป็นการประชุมครั้งที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำสถิติยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากแล้วยังมีผู้เข้าร่วมงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 10,000 คน จาก 18 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งภายในงานดังกล่าวนี้ มร. เดฟ เวนซ์ ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ในอีก 20 ปีข้างหน้า เกี่ยวกับนวัตกรรมส่วนบุคคล (Personalization) ที่มุ่งเน้นไปที่ลูกค่าและประสบการณ์ของเราในการช่วยนักธุรกิจยูซานา ในการเลือกเฟ้นและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล (Customization)
สำหรับปัจจุบันนี้ยูซานาได้เปิดสำนักงานเพื่อจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคและนักธุรกิจยูซานารวมทั้งสิ้น 18 สาขาทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ไทย สิงค์โปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกงและผ่านบริษัทเบบี้แคร์ ลิมิเต็ดในประเทศจีน ส่วนทางด้านภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคนั้น ปัจจุบันมียอดขาย 102.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักธุรกิจยูซานาที่เริ่มต้นทำธุรกิจอย่างจริงจัง ซึ่งมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักในตลาดจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาจากการเปิดสาขาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีนี้
บริษัทคาดการณ์ว่า 2 เดือนสุดท้ายจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้ตัวเลขยอดขายประมาณการของบริษัทอยู่ที่ 645 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าที่เคยประมาณการไว้ระหว่าง 630 640 ล้านเหรียญสหรัฐ จากผลประกอบการล่าสุด รวมถึงประมาณการตัวเลขยอดขายของปีนี้ จะทำให้ยูซานาสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 (ข้อมูลจาก www.businessforhome.org)
นางสาริณี เผยถึงทิศทางการเติบโตของยูซานาประเทศไทยตลอดทั้งปีนี้ว่า บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากบริษัท ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์ (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลในเชิงองค์ความรู้เกี่ยวกับแผนการตลาดแบบไบนารี่และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่มีความโดเด่นในเรื่องของประสบการณ์นานกว่า 20 ปีของสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ ซอลท์เลค ซิตี้ รัฐยูท่าห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่การันตีคุณภาพและมาตราฐานจากสถาบันต่างๆ ในความมีประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อันดับ 1 เหรียญทอง 5 ดาว จากสหรัฐอเมริกา จากการจัดจัดอันดับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกว่า 1,500 แบรนด์ทั่วทวีปอเมริกาเหนือ และยังได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมในระดับโลกมากมาย ทำให้นักธุรกิจเกิดความเชื่อมั่นและยอมรับในผลิตภัณฑ์จนเกิดการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ตลอดทั้งปีนี้บริษัทฯ มีฐานนักธุรกิจยูซานาและลูกค้าที่บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างมั่นคงและมีนักธุรกิจใหม่สนใจสมัครเข้ามาร่วมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้น 70% หลังจากงานเปิดตัวบริษัทฯ อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับเหตุผลที่คนเข้ามาร่วมธุรกิจกับยูซานาเนื่องจาก ระบบไบนารี่ สามารถตอบโจทย์ให้กับนักธุรกิจยูซานาในการดูแลคนในองค์กรแค่ 2 คน ให้ประสบความสำเร็จได้ดีที่สุด
จากการวิจัยของสมาคมขายตรงแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่า บุคคลทั่วไปสามารถดูแลองค์กรให้ประสบความสำเร็จไดเพียง 2.5 สายงานเท่านั้น ซึ่งแผนไบนารี่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้และมีผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทำง่าย จ่ายเร็ว ทำให้นักธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ามาร่วมธุรกิจมีรายได้เร็วขึ้นและทำให้องค์กรมีรายได้ที่เสถียร รวมถึงความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดระดับโลกตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งยูซานา ได้รับการโหวตจากนักธุรกิจอิสระให้เป็นบริษัทที่น่าร่วมทำธุรกิจด้วยเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันทุกปี มาตั้งแต่ปี 1997 จากนิตยสาร Network Marketing & Insider Magazine ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเครือข่ายชุมชนของผู้ทำธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทั้งนี้สำหรับสัดส่วนรายได้หลักที่มาจากผลิตภัณฑ์ยูซานาแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ ซึ่งสัดส่วนยอดขายที่เกิดขึ้นจะมาจากกลุ่มอาหารเสริมเป็นหลัก จากตัวเลขยอดขายประมาณการของบริษัทอยู่ที่ 645 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 10.8 % ในปีนี้ สัดส่วนยอดขายหลักประมาณ 80 % มาจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวหลักของบริษัท ได้แก่ เอสเซนเชียลส์ (วิตามิน แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระ ,โปรฟาวานอล 30(สารสกัดจากเมล็ดองุ่น),แอคทีฟ แคลเซียมและไบโอเมก้า (น้ำมันปลาบริสุทธ์) ซึ่งแต่ละประเทศที่ยูซานาเปิดทำการก็จะมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น ที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณมีสัดส่วนที่สูงกว่าประเทศอื่น
นอกจากนี้ ผู้จัดการทั่วไป ยูซานาประเทศไทยเผยถึงกลยุทธ์โค้งสุดท้ายว่า สำหรับในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี 2555 นี้เป็นช่วงที่การแข่งขันในตลาดจะคึกคักและมีกำลังซื้อค่อนข้างสูงที่สุด ดังนั้นยูซาน่าประเทศไทยจึงได้มีการจัดกิจกรรม และการส่งเสริมการขายต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องโดยจัดกิจกรรมและการส่งเสริมการขายต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โยจัดกิจกรรม Road Show ไปตามจังหวัดต่างๆ เช่น ชุมพร สงขลา ภูเก็ต เชียงใหม่ อุบลราชธานี จันทบุรี นครราชสีมาและในเดือนธันวาคมนี้จะมีการจัดกิจกรรม Road Show อีก 2 แห่ง คือ พะเยา และระยอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการรับรู้แบรนด์และมีการกระตุ้นให้เกิดยอดขายเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน และการจัดรายการส่งเสริมการวางขายในส่วนของการจัดชุดผลิตภัณฑ์ต่างๆ การแจกของพรีเมี่ยม การส่งเสริมการเพิ่มจำนวนนักธุรกิจอิสระ การเดินทางท่องเที่ยวตามตำแหน่ง ซึ่งแม้ว่าเราจะเปิดตัวเป็นทางการได้เพียง 6 เดือน เราก็สามารถมีนักธุรกิจอิสระ ในระดับโกลด์ไดเร็กเตอร์ร่วมเดินทางไปฉลองตำแหน่งที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ได้ถึง 6 ท่านเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของยูซาน่าต่างประเทศ ทางด้าน มร.เดฟ เวนทซ์ ได้มีการเปิดตัว MyHealthPak อย่างเป็นทางการ ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคครั้งยิ่งใหญ่ ที่สอดคล้องกับการสร้างนวัตกรรมส่วนบุคคล (Personalization) และเลือกเฟ้นออกแบผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล (Customization) อย่างลงตัว และเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายบริษัทแรก และบริษัทเดียวที่ทำได้ในขณะนี้
อย่างไรก็ดี สำหรับยูนาซาประเทศไทยขณะนี้ ถือเป็น Rising Star โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่เป็นอย่างดี และมีความคาดหวังว่า ประเทศไทยจะสามารถเติบโตและมียอดขายเพิ่มขึ้นทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้าและได้รับความสำเร็จเป็นอย่างสูง เช่นฮ่องกง เกาหลีใต้ไต้หวัน สิงค์โปร์ มาเลเซียและฟิลิปปินส์เป็นต้น
โดยสถิติที่ผ่านมา ยูซานาเติบโตอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการโหมเปิดตลาดใหม่ จึงเป็นตัวชี้วัดได้ว่า ยูซานา สามารถเติบโตในตลาดเดิมได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงถึงว่ามีผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง ซึ่งเป้าหมายของยูซานาอยู่ที่การเข้าถึงและพัฒนาสุขภาพ และคุณภาพชีวิตให้กับครอบครัวต่างๆทั่วโลก นางสาริณีกล่าว
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพLEADER TIME ปีที่ 10 ประจำวันที่16-31ธันวาคม 2555 ปักษ์หลัง ฉบับที่ 213
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น