ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

ตื่น! ขุมทรัพย์เมืองขะแมร์ ขายตรงไทย บุกกัมพูชา!









กระแสการเปิดเสรีการค้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) ที่จะมาถึงในปี 2558 ได้สร้างความตื่นตัวให้กับเหล่าบรรดาผู้ประกอบการขายตรงคนไทยและบริษัทขายตรงต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่ประเทศกัมพูชาธุรกิจขายตรงกำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนทำให้กัมพูชากลายเป็น ขุมทรัพย์ แห่งใหม่ที่ทำให้เหล่านักลงทุนมากหน้าหลายตาให้ความสนใจแห่เข้าไปร่วมหลักปักฐานลงทุนอย่างเนืองแน่นนับ 10 บริษัทในปัจจุบันทั้ง อารากอนเวิลด์ 54 , คังเซน-เคนโก,เอมสตาร์เน็ทเวิร์ค, นีโอไลฟ์, ซูเลียน , จอย แอนด์ คอยน์ ที่ต่างเป็นเสือปืนไวมองการณ์ไกลชิงเข้าไปปักหลักสร้างฐานขยายเครือข่ายธุรกิจกันอย่างเต็มกำลังอีกทั้งยังหวังใช้กัมพูชาเป็นฐานบัญชาการในการขยายฐานธุรกิจสู่ประเทศเวียดนามในอนาคตอันใกล้อีกด้วย ขณะที่ บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง เวิลด์ไวด์ บริษัทขายตรงหนึ่งเดียวจากประเทศอเมริกากำลังจะกลายเป็นบริษัทขายตรงระดับอินเตอร์รายแรก ที่จะเข้าไปปักหลักลงทุนในกัมพูชาอย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้


จากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสารสำนักปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร ได้เปิดเผยตัวเลขข้อมูลค่าการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านในรูปของ การค้าชายแดน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาในปีตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปีที่ผ่านมามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงกว่า 55,200 ล้านบาทเลยทีเดียวและที่สำคัญประเทศไทยเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เนื่องจากมูลค่าการส่งออกกชายแดนของไทยขยายตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าการนำเข้าชายเดนกัมพูชา โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุตสากรรมเกษตร ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าประเภท อุปโภค-บริโภค และสิ่งทอเป็นต้น ซึ่งมีมูลค่ามากกว่ามูลค่าของสินค้านำเข้าจากกัมพูชาที่ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรกรรม เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง ถั่วลิสง สิ่งทอ เศษเหล็ก หนังโค-กระบือ สินค้าประมงและปศุสัตว์ เป็นต้น ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าของไทยนั้นเป็นที่นิยมและยอมรับของประชาชนชาวกัมพูชาเป็นอย่างยิ่ง


ในขณะที่ภาคส่วนของธุรกิจขายตรงนั้นได้มีการค้าขายระหว่างชายแดนไทยกับประเทศกัมพูชามายาวนานแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะในเขตจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชาได้แก่ อุบลราชธานี, สุรินทร์, บุรีรัมย์ สระแก้ว, จันทบุรีและตราด ซึ่งจุดการค้าผ่านแดนทั้งหมดนี้มีจัดการค้าที่สำคัญ คือ ตลาดโรงเกลือ ที่ตั้งอยู่ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วมีมูลค่าการค้าสูงที่สุด ซึ่งการทำธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่มักทำกันในลักษณะของการหอบหิ้วสินค้าเข้าไปขายในกัมพูชาหรือคนกัมพูชาเข้ามาทำธุรกิจขายตรงในประเทศไทยหรือบางคนมีครอบครัวอยู่ในกัมพูชาก็นำเอาธุรกิจขายตรงจากประเทศไทยเข้าไปขยายฐานในประเทศกัมพูชาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งทำให้คนกัมพูชารู้จักธุรกิจขายตรงเป็นอย่างดีและยังชื่นชอบสินค้าขายตรงจากประเทศไทยอีกต่างหาก


ถึงวันนี้ธุรกิจขายตรงจากประเทศไทยได้เข้าไปปักหลักฐานสร้างธุรกิจขายตรงในประเทศกัมพูชาอย่างชัดเจนกันเป็นจำนวนมากมาย เนื่องจากกฎหมายการลงทุนในประเทศกัมพูชาเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้เอง 100 % ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนจากประเทศไทยและจากต่างประเทศหลั่งไหลกันเข้าไปลงทุนในประเทศนี้กันมากยิ่งขึ้นและส่วนใหญ่มุ่งเน้นเปิดสำนักงานใหญ่ขึ้นที่พนมเปญเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเลยทีเดียว


- ทูตพาณิชย์ชี้คนกัมพูชาชอบขายตรงไทย


สำหรับการเข้าไปลงทุนเปิดดำเนินการธุรกิจขายตรงของคนไทยในประเทศกัมพูชานั้นคุณจิรนันท์ วงษ์มงคล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงวันนี้ธุรกิจขายตรงในประเทศไทยได้หลั่งไหลเข้ามาลงทุนในประเทศกัมพูชามากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 10 บริษัทซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจว่าน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเพราะพื้นฐานของคนกัมพูชาชอบทำค้าขายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งทุกวันนี้เทคโนโลยีต่างๆ เจริญเติบโตขึ้นทำให้ประชาชนในประเทศนี้เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ชีวิตมีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้นความนิยมในความสวยความงามเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค ทั้งในด้านความสวยความงามรวมถึงอาหารเสริมบำรุงสุขภาพในรูปแบบต่างๆ กลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของพวกเขา ซึ่งการเข้ามาของบริษัทขายตรงหลายๆ บริษัทจากประเทศไทยทำให้พวกเขาทำธุรกิจเป็นอาชีพธุรกิจนี้ยังสามารถทำให้พวกเขามีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย


ผู้คนในประเทศนี้ยินดีเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่พวกเขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้วเพราะหลายคนเคยทำธุรกิจหรือบางคนเคยซื้อสินค้าขายตรงจากประเทศไทยมาใช้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะเรียนรู้และเข้าใจธุรกิจนี้ ที่สำคัญรายได้ต่อเดือนของคนกัมพูชาในระดับผู้ใช้แรงงานนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70-80 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 3,000 บาท หากเขามุ่งมั่นทำธุรกิจนี้อย่างจริงจังก็จะเป็นการช่วยทำให้พวกเขามีรายได้ที่สูงขึ้นตามไปด้วย


คุณจิรนันท์ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ไม่เคยได้ยินปัญหาเรื่องธุรกิจขายตรงเข้ามาหลอกลวงคนกัมพูชาเลยแม้แต่รายเดียว นั้นแสดงว่าบริษัทขายตรงจากประเทศไทยที่เข้ามาเปิดในกัมพูชานั้นมีความเป็นมาตรฐานสูงเลยทีเดียว ในฐานะที่เป็นทูตฝ่ายการพาณิชย์ยินดีที่จะให้คำปรึกษากับนักลงทุนของคนไทยทุกคนที่เข้ามาลงทุนในประเทศนี้และอย่าได้กลัวว่าเป็นเรื่องยากเพราะกัมพูชาและไทยก็มีวัฒนธรรมหลายสิ่งหลายอย่างที่คล้ายคลึงกันมาก ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจขายตรงน่าจะเติบโตได้สูงมากในประเทศนี้และยังสามารถขยายต่อไปยังประเทศเวียดนามได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งนั้นน่าจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจนี้เลยทีเดียว


- อารากอนเวิลด์54 ปักหมุดรายแรกในพนมเปญ


บริษัท อารากอนเวิลด์54 จำกัด ถือเป็นบริษัทคนไทยรายแรกที่เข้าไปลงทุนเปิดสำนักงาน อารากอนเวิลด์ สาขาพนมเปญ เป็นรายแรกเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา ด้วยการลงทุนเช่าอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ถึง 4 คูหาพร้อมทั้งเปิดโรงเรียนสอนการทำธุรกิจขายตรงอย่างจริงจังให้กับคนกัมพูชาได้เข้ามาเรียนรู้และทำความเข้าใจในธุรกิจขายตรงมากยิ่งขึ้น ภายใต้ชื่อ Aragon world Business School ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนชาวกัมพูชาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมาอารากอนฯได้จัดงานฉลองครบรอบ 5 ปีของการก่อตั้งสาขาพนมเปญขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่มีสมาชิกนักธุรกิจอารากอนเข้ามาร่วมงานอย่างมากมายกว่า 2,000 คนเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีตัวอย่าง ผู้นำธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ขึ้นไปแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จกันล้นเวทีเลยทีเดียว


คุณนภดล กลิ่นบำรุง ประธานบริษัท อารากอนเวิลด์ 54 เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชาเป็นผลสำเร็จและถือเป็นบริษัทขายตรงคนไทยรายแรกที่เข้าไปบุกเบิกตลาดในประเทศนี้ขอบอกด้วยความภูมิใจว่า อารากอนเวิลด์ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะเรามีสินค้าที่ดีเข้าไปทำตลาดและมีแผนการตลาดที่ทันสมัยสามารถช่วยทำให้ประชากรของประเทศนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว วันนี้เรากล้าบอกได้เลยว่า อารากอนเวิลด์กัมพูชาสามารถเก็บเกี่ยวผลกำไรจากการลงทุนได้แล้วและผลกำไรที่ได้มาเหล่านั้นส่วนหนึ่งได้นำกลับไปลงทุนสร้างและขยายสาขาเพิ่มทั้งที่เสียมราชและที่อื่นๆ เพื่อให้ธุรกิจของอารากอนเข้าถึงประชาชนในประเทศกัมพูชามากยิ่งขึ้นอีกด้วย


คังเซน-เคนโก สยายปีกในพนมเปญ!


บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทขายตรงของคนไทยเป็นอีกหนึ่งบริษัทขายตรงที่เข้าไปบุกเบิกตลาดขายตรงในประเทศแถบอินโดนีเซีย,พม่า,เวียดนาม,สปป.ลาวและเมื่อต้นปี 55 ปีที่ผ่านมาก็ได้ทำพิธีเปิดตัว คังเซน-เคนโกสาขาพนมเปญ อย่างเต็มตัว ด้วยการร่วมลงทุนกับนักธุรกิจชาวกัมพูชาและในงานเปิดตัวธุรกิจคังเซนฯในวันนั้นก็ได้รับการตอบรับจากผู้คนชาวกัมพูชาอย่างล้นหลามเช่นเดียวกันคังเซนฯเปิดตัวในกัมพูชาด้วยการชูสินค้าความสวยความงามและผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพซึ่งเป็นสินค้าที่ยอดนิยมและตรงกับความต้องการของหนุ่มสาวที่รักสวยรักงามเป็นอย่างยิ่ง ถึงวันนี้ธุรกิจขายตรงคังเซนฯในพนมเปญมีอายุครบ 1 ขวบปีซึ่งถือเป็นหนึ่งขวบปีที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม


- กาแฟโสม-ยาสีฟันซูเลียนขายดีในกัมพูชา!


หลายปีก่อนหน้านี้บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด เคยคิดที่จะเข้าไปปักหลักฐานสร้างธุรกิจในประเทศกัมพูชามาครั้งหนึ่งแล้วแต่ก็ได้ล้มเลิกความตั้งใจนั้นไปโดยปริยายเพราะปัญหาบุคลากรภายในประเทศ ถึงแม้จะล้มเลิกแต่สินค้าของซูเลียนโดยเฉพาะกาแฟโสมและยาสีฟันรวมถึงผงซักฟอกก็ยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวกัมพูชาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ผู้นำที่ยังคงทำธุรกิจอยู่ต้องเดินทางมาซื้อสินค้าจากฝั่งประเทศไทยโดยเฉพาะที่ ซูเลียนโรงเกลือเอเยนซี่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นเอเยนซี่ของนายไพบูลย์ โอภาสไพบูลย์และมีการจัดประชุมแนะนำธุรกิจกันอย่างต่อเนื่องและถึงวันนี้นายไพบูลย์ได้นำธุรกิจขายตรงซูเลียนไปเปิดศูนย์สาขาที่จขังหวัดเสียมเรียบและศรีโสภณเรียบร้อยแล้วและล่าสุดยังขยายไปเปิดศูนย์ขยายงานธุรกิจซูเลียนที่จังหวัดไพลินเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง โดยปัจจุบันซูเลียนมียอดขายสินค้าในประเทศกัมพูชาสูงถึงเดือนละ 10 ล้านบาทเลยทีเดียว


-นีโอไลฟ์ เปิดตัวยิ่งใหญ่ที่พนมเปญ


เมื่อปลายปีที่ผ่านมาบริษัท นีโอไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ของคุณนพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริษัทได้ทำการเปิดตัว บริษัท นีโอไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล คัมโบเบีย ขึ้นอย่างเป็นทางการหลังจากเข้าไปปักหลักสร้างฐานธุรกิจที่เมืองพนมเปญมานานร่วมปี ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม นีโอไลฟ์ฯเข้าไปลงทุนเองทั้งหมดในประเทศนี้ด้วยงบประมาณเริ่มต้นถึง 30 ล้านบาทและใช้ระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงแพกเกจจิ้งของสินค้าก็เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด นอกจากจะเปิดสาขาที่พนมเปญแล้วในเร็วๆนี้จะเข้าไปเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา คือ สาขาพระตะบอง,สาขาสีหนุวิลล์,สาขากัมปงจาม โดยวางเป้าหมายไว้ว่าจะสร้งนีโอไลฟ์ฯในกัมพูชาให้เป็นสาขาต้นแบบสำหรับการขยายตัวสู่ตลาดเวียดนามและเพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้า (AEC) ในปี 2558 อีกกด้วย


- ยูนิซิตี้ ขายตรงอเมริกันรายแรกในกัมพูชา


ในวันที่ 19 มกราคม 56 ที่จะถึงนี้บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง เวิลด์ไวด์ จำกัด บริษัทขายตรงจากประเทศอเมริกาจะเข้าไปเปิดตัว ยูนิซิตี้มาร์เก็ตติ้งสาขาพนมเปญ อย่างเป็นทางการหลังจากที่ผู้นำจากประเทศไทยเข้าไปขยายฐานธุรกิจในประเทศนี้มานานหลายปีและใช้ศูนย์ขยายธุรกิจที่บริเวณตลาดโรงเกลือจังหวัดสระเก้วสำหรับจัดประชุมแนะนำธุรกิจยูนิซิตี้ให้กับนักธุรกิจกัมพูชาที่เข้ามาจากฝั่งปอยเปตได้รู้จักธุรกิจนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันนักธุรกิจของยูนิซิตี้ในฝั่งปอยเปตนั้นถือว่ามีขุมกำลังเป็นจำนวนมากเช่นกัน การเข้าไปเปิดสาขาที่พนมเปญในครั้งนี้ถือเป็นการเข้าไปเปิดในช่วงเวลาที่เหมาะสมเลยทีเดียว


-กิฟฟารีน ลุยตลาดกัมพูชาโตครองอันดับ 3


เรียกได้ว่า ตลอดเวลา 16 ปีที่ กิฟฟารีน ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น มีสมาชิกผู้บริโภครวมกว่า 6.3 ล้านรหัส และสามารถใช้ระบบสนับสนุนธุรกิจให้กับนักธุรกิจกิฟฟารีนกว่า 50,000 รหัส ให้ประสบความสำเร็จมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีศูนย์ธุรกิจตั้งอยู่ในไทย รวม 113 สาขา และต่างประเทศ 18 สาขา ซึ่งในส่วนนี้ พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีนสกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ได้กล่าวถึงการขยายธุรกิจของกิฟฟารีนในตลาดอาเซียนว่า ขณะนี้ธุรกิจขายตรงมีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง รวมถึงประเทศกัมพูชาก็ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เติบโต เป็นอันดับ 3 รองจาก มาเลเซีย และพม่า ปัจจุบันกิฟฟารีนมียอดขายในตลาดต่างประเทศโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท แบ่งออกเป็นยอดขายในส่วยของธุรกิจขายตรงมีประมาณ 150 ล้านบาทและยอดขายในส่วนธุรกิจค้าปลีกแบรนด์แพทติน่า อยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าหากมีการเปิดการค้าเสรีอาเซียนขึ้นในปี 2558 แล้วจะเป็นแรงหนุนให้ยอดขายในตลาดต่างประเทศของกิฟฟารีนเพิ่มขึ้นไปถึง 500 ล้านบาท ด้วยเช่นกัน


-J&C ปลื้มกัมพูชากระแสดีโกยกว่า 10 ล้านต่อเดือน


ดร.สมชาย หัชลีฬหา ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯกล่าวว่า ในแต่ละตลาดที่ จอย แอนด์ คอยน์ รุกก้าวเข้าไปถือว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะตลาดที่เติบโตค่อนข้างดีอย่างในกรุงพนมเปญ


ประเทศกัมพูชานั้นมียอดขายเฉลี่ยต่อเดือนกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของธุรกิจ สืบเนื่องจากประเทศดังกล่าวมีอัตราว่างงานสูง จึงทำให้หลายคนไขว่คว้าที่จะมีอาชีพหรือสร้างธุรกิจเป็นของตนเอง ในขณะที่เราเองก็พร้อมที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจและชีวิตใหม่ให้กับพวกเรา โดยตลอดระยะเวลาปีกว่าที่ได้ปักหลักเปิดดำเนินธุรกิจในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จนถึงทุกวันนี้ จอย แอนด์ คอยน์ มีฐานสมาชิกหลักพันคน หรือคิดเฉลี่ยผู้ที่สมัครเข้าร่วมธุรกิจ100-200 คนต่อเดือนเลยทีเดียว


-อาวียองซ์ เจาะความงามกัมพูชาคนแห่ร่วม 6,000 รหัส


ในขณะที่ อาวียองซ์ (aviance) แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยมภายใต้การบริหารงานของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยนั้นก็ได้เปิดแนวรุกตลาดความงามในประเทศกัมพูชาด้วยการเปิดตัว อาวียองซ์ กัมพูชา อย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วรวมทั้งล่าสุด มร.บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทยและบอสหญิงแกร่ง สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร อาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ได้เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีกับผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์กัมพูชา Mr.Soun Kosal ที่สามารถพิชิตตำแหน่งในระดับ Area Executive Business Associate ได้สำเร็จเป็นคนแรก พร้อมกับเปิดอาวียองซ์ ช็อป เฟล็กชิพ สโตร์ แหเงแรก ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา


โดยปัจจุบันมียอดสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ กัมพูชา มากกว่า 6,000 รหัส ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่เกิดจากกระแสตอบรับที่ดีของกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาประกอบกับยูนิลีเวอร์เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีความแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก ทให้สมาชิกมีความมั่นใจในธุรกิจที่สามารถเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ LEADER TIME รายปักษ์ ประจำวันที่16-31มกราคม 2556 ฉบับที่ 215

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น