ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ดีเอสไอ-กองปราบ บุกจับบริษัทแชร์ลูกโซ่ กลางกรุง


เมื่อ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองปราบปราม กว่า 50 นายนำกำลังเข้าตรวจค้น บริษัท ดิจิตอล คราวน์ โฮลดิ้ง จำกัด เลขที่ 338 อาคาร ดี ซี เอช แอล จำกัด ถ.พระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นบริษัทขายตรงน้ำมันหอมระเหย และตะเกียง แต่มีผู้ร้องเรียนว่าบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่ มีการชักชวนให้ร่วมลงทุน และหาสมาชิกเพิ่มหากหาสมาชิกใหม่มาได้ 5-6 คน ก็จะรับเงินปันผลเพิ่ม ถึง 21,000-26,000 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าตรวจค้นภายในบริษัทพบประชาชนซึ่งมานั่งรอสมัครสมาชิกใหม่กับทางบริษัทบริเวณชั้น 1 ไม่ต่ำกว่า 100 คน และพบสมาชิกเก่าเข้ามารับสินค้าและมาอบรมกับบริษัท โดยไม่ตื่นตกใจกับการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ยังคงนั่งรอสมัครสมาชิกและรับสินค้ากันตามปรกติ จนเสร็จสิ้นการตรวจค้น


พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 20 คนซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ 3 คนที่สามารถจับกุมได้แล้วคือนายฮวง เชียง เชียง ชาวไต้หวัน อายุ 43 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการ , น.ส.หว่อง คิน ซี อายุ 36 ปี ชาวฮ่องกง และน.ส.เฉิน เป่า หยี อายุ 32 ปี ชาวฮ่องกง ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นผู้ชักชวนสมาชิกเข้าร่วมลงทุนด้วยการล่อลวงให้ลงทุนจำหน่ายน้ำมันหอมระเหยและตะเกียง รายละ 190,000 บาทเพื่อให้ได้เงินปันผล 40,000 บาท แต่หากลงทุนเพียง 12,300 บาทจะยังไม่ได้รับเงินปันผลจนกว่าจะสามารถชักจูงสมาชิกมาร่วมลงทุนเพิ่ม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน


พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวต่อว่า การตรวจค้นบริษัทดังกล่าวดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ประมาณ 70 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยประชาชนที่ถูกหลอกมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีการตั้งสาขาใหญ่อีก 1 แห่งที่จังหวัดนครราชสีมา โดยวิธีการหลอกลวงจะจัดอบรมตามโรงแรมหรูต่างๆ ซึ่งมีวิทยากรชักชวนให้ร่วมเป็นสมาชิกและเชิญชวนให้ซื้อสินค้าโดยโฆษณาชวนเชื่อว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนสูง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีวิธีการพูดที่น่าเชื่อถือ เจาะกลุ่มคนที่มีเงินน้อยซื้อน้อย มีเงินมากซื้อมาก รวมถึงมีการโฆษณาชักชวนผ่านเว็บไซด์ และอ้างว่าเงินปันผลสามารถนำไปเป็นมรดกตกทอดถึงเครือญาติได้


ในวันนี้จะรวบรวมหลักฐานโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่มีรายละเอียดข้อมูลจำนวนลูกค้าและสินค้าเพื่อตรวจสอบยอดผู้เสียหาย รวมถึงดูบัญชีความเคลื่อนไหวทางการเงิน ซึ่งพบว่าเฉพาะวันนี้เพียงวันเดียวมียอดสั่งซื้อ 39 ล้านบาท และเดือนกันยายน 2555 มีกำไรกว่า 198 ล้าน ทั้งนี้จากการตรวจสอบยอดสมาชิกจาก สคบ.ปี 2554 มีสมาชิกกว่า 20,000 คน และเชื่อว่าขณะนี้มียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 40,000 คน ซึ่งสคบ.ได้สั่งปรับวันละ 10,000 บาทรวมยอดค่าปรับถึงปัจจุบัน 600,000 บาท ส่วนการสั่งให้ยุติกิจการเป็นอำนาจของสคบ."พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าว


อ้างอิง : ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น