ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ภัทรกร วัฒนายนต์ Executive President : มินเนอร์รี่ โกลด์ Minery Gold


นายปทักษ์ ตั้งพานิชยานนท์ (ตง) C.E.O อายุ 28 ปี ขึ้นตำแหน่งในเวลา 2 เดือน, นายนิติธร บัวธนาศิริ (นู) C.E.O อายุ 28 ปี ขึ้นตำแหน่งในเวลา 2 เดือน, นายภัทรกร วัฒนายนต์ (เจา) Executive President อายุ 27 ปี ขึ้นตำแหน่งในเวลา 5 เดือน,นายมติ สิริอุปบล (ซี) Executive President อายุ 29 ปี ขึ้นตำแหน่งในเวลา 4 เดือน, นายประสันต์ ขานนาม (ก้อง) Executive Director อายุ 26 ปี ขึ้นตำแหน่งในเวลา 1 เดือน

บทสัมภาษณ์ คุณภัทรกร วัฒนายนต์ Executive President


 


จุดเริ่มต้นก่อนเข้าสู่มินเนอร์รี่โกลด์


เคยเป็นนักดนตรีอาชีพ, Sound Engineer, ทำงาน Event รายได้ประมาณ 3 4 หมื่นอยู่แล้ว ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นสบายๆ แต่ว่าวิกฤตเกิดขึ้นได้เสมอ พอเกิดปัญหาจากรายได้ที่มีก็กลายเป็นศูนย์ เกิดความคิดว่า คนที่เรียนจบปริญญาแต่ไม่รวยก็เยอะแยะ ทำให้คิดว่า ความรู้กับความคิด มันไม่เหมือนกัน คนที่มีความรู้เยอะๆแต่เป็นลูกจ้างชั้นดี แต่คนที่มีวิธีคิดเรียนแค่ ป.4 ก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้ ก็ผ่านอะไรมาเยอะครับ กว่าจะมาถึงวันนี้


เหตุผลที่เลือกมินเนอร์รี่โกลด์


เครื่องจักรหรือโรงงานดีๆ ใครมีเงินก็สร้างได้ แต่ทั้งสินค้าและประสบการณ์ผลิตยา 80 ปีของปราสาททองโอสถ ไม่มีใครเลียนแบบได้ และเจ้าของบริษัทก็มีจรรยาบรรณ แผน ทีม ช่วงเวลา ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ผมทำเพื่อเกษียณ ไม่ใช่แค่ทำตามกระแส


การทำงานในช่วงแรกและอุปสรรค


ทุกคนเจอเหมือนกันแหละครับ คือ คิดไปเอง ของคนที่ไม่เข้าใจ เช่นเราพูดว่ามันง่าย ทำแค่นี้ก็รวยได้ คนก็ไม่เชื่อ แต่พออธิบายเยอะ ก็บอกว่า ยากไปทำไม่ได้หรอก ช่วงแรกชวนใครเค้าก็ไม่เอา เพราะเขาไม่เข้าใจ แต่พอเรามีรายได้ขึ้นมา ก็เป็นการพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า ใครที่คิดว่ามันง่ายจนไม่น่าเชื่อ มันเป็นไปได้ และใครที่คิดว่าทำไม่ได้ มันง่ายกว่าที่เขาคิด


การบริหารทีมงานไปสู่เป้าหมายเดียวกัน


ธุรกิจนี้จริงๆแล้วไม่ยากครับ ที่มันยากเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันง่าย ผมทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีที่ง่ายมากๆ ผมเรียกวิธีนี้ว่าModern Network


คติประจำใจในการทำงาน


บอกตัวเองเสมอ ว่าคนเราเกิดมาจากความรัก เติบโตด้วยการศึกษา ฉะนั้นผมก็ขอตอบแทนพ่อแม่ด้วยความสำเร็จ อันนี้เป็นแรงผลักให้ผมวิ่งขึ้นมาถึงจุดนี้ได้


จุดเปลี่ยนในชีวิต


สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตคือ วิธีคิดที่ต่างกัน เห็นได้ชัดคือ ผมใช้เวลาแค่ 5 เดือน จากนักดนตรีมาเป็นผู้บริหารที่ตำแหน่งสูงที่สุดในบริษัทขณะนี้ สามารถปลดหนี้หลักแสนได้ ภายใน 4 เดือน หากทำงานประจำคิดว่าคงหลายปี


กล่าวทิ้งท้าย


คนส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าใจแล้วแอนตี้ธุรกิจนี้ เค้าไม่ได้ผิดนะครับ เค้าแค่ไม่รู้ แต่ความจริงแล้วธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่สวยงามครับ ลงทุนต่ำแต่รายได้สูง และเป็นธุรกิจที่ยุติธรรมที่สุด คือคุณทุ่มเทกับมันเท่าไหร่ คุณจะได้กลับไปเท่านั้น ถ้าคุณแค่ลองทำ อาจจะได้แค่หลักหมื่นเป็นรายได้เสริม แต่ถ้าคุณจริงจังกับมัน คุณจะได้หลักแสนกลับมา แต่หากคุณทุ่มให้มันทั้งชีวิต คุณจะได้ชีวิตใหม่กลับมา และวันนี้ผมสามารถส่งต่อความสำเร็จให้ทีมงาน รับรายได้หลักแสนได้เหมือนกัน แต่ผมจะได้เท่าไหร่มันไม่สำคัญหรอกครับ มันสำคัญว่า มนุษย์เงินแสนคนต่อไป...จะใช่คุณรึเปล่า !!


อ้างอิง : นสพ.ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ฉบับที่ 237 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 1-15 ตุลาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น