ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข่าวนูสกิน (Nu Skin Thailand) : อวดยอด ส.ค. โกย 450 ล.สินค้าต้านเหี่ยวขายดีดันรายรับโต 27%


นู สกิน สุดปลื้ม เอจล็อก กลุ่มสินค้าต้านหน้าเหี่ยวขายดี ส.ค. เดือนเดียวโกย 450 ล้านบาท ทำสถิติยอดขายต่อเดือนสูงสุดในรอบ 15 ปี ส่วนตัวเลขรวม 3 ไตรมาส ขยายตัว 27% ได้ใจเดินหน้าดันสินค้าต่อต้านความชราเป็นเรือธงอัดกลยุทธ์แน่นไต่ฝัน 2.5 พันล้านบาท พร้อมแผนเพิ่มศูนย์ธุรกิจอีก 2 แห่ง วางงบ 10 ล้านต่อ 1 ศูนย์

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม ปี 2555 นู สกิน ประเทศไทย มียอดขายเติบโตอยู่ที่ 27% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าอัตราการเติบโต เฉลี่ยของอุตสาหกรรมขายตรงไทย โดยในเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา บริษัทสร้างยอดขายได้สูงถึง 450 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายรายเดือน สูงสุดนับตั้งแต่ นู สกิน เปิดดำเนินการในประเทศไทย และคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้แน่นอน

ปัจจัยความสำเร็จมาจากการพรีเซลผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวใหม่ เอจล็อก อาร์สแควร์ (ageLOC R2) ให้กับผู้แทนจำหน่ายระดับบริหาร ประกอบกับตลาดด้านสุขภาพความงามโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชรายังคงเป็นที่ต้องการของตลาดและกำลังขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทยังคงมีการพัฒนานวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ให้มี ความโดดเด่นและชัดเจนในด้านความเป็นผู้นำด้านแอนตี้ เอจจิ้ง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค

นู สกิน ประเทศไทย มีรายได้การเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ต้นปี อีกทั้งในปีนี้บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชรา เอจล็อก กัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III ที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องการลดเลือนริ้วรอยและการดูแลรูปร่าง ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด บริษัทมั่นใจว่าภายในสิ้นปี 2555 นู สกิน ประเทศไทยจะเติบโต 20% หรือ 2,500 ล้านบาท และนอกเหนือ จากความสำเร็จด้านยอดขายแล้ว ภายใน เดือนเดียวกัน นู สกิน ประเทศไทย ยังได้รับรางวัล โกลด์ สตีวี่ วินเนอร์ ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดประเภทธุรกิจนานาชาติ จากอเมริกัน บิสซิเนส อวอร์ด ที่มีองค์กร ธุรกิจหลากหลายสาขาจากทั่วโลกเข้าร่วม ประกวด จากโครงการสนับสนุนการผ่าตัด หัวใจเด็กภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจในกิจกรรมเพื่อสังคมที่เราทำควบคู่กันมาตั้งแต่ก่อตั้ง นู สกิน ในประเทศไทย โดยการขึ้นรับรางวัลดังกล่าวจะมีขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ ช่วงเดือนตุลาคมนี้ นางภคพรรณ กล่าว

นางวิภาดา ตั้งปกรณ์ รองประธาน ฝ่ายขายและปฏิบัติการ บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับยอดขายในเดือนสิงหาคม นู สกิน โกยรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เอจ-ล็อกและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มต่างๆ เติบโตสูง ถึง 450 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนยอด ขายได้ดังนี้ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอจล็อก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเอจล็อก ทรานฟอร์เมชั่น เซ็ต ผลิตภัณฑ์เอจล็อก กัลวานิค สปา ซิสเต็ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอจ-ล็อก อาร์ สแควร์ มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 80% และผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเสริม รวม กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เพอร์ซันแนลแคร์ อื่นๆ มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 20% และปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ยอดขายเติบโตแบบเท่าตัว นั้น มีผลจากการพรีเซลล์ผลิตภัณฑ์อาหาร เสริมตัวใหม่ เอจล็อก อาร์สแควร์ ให้กับผู้แทนจำหน่ายระดับบริหาร ซึ่งผลิตภัณฑ์ ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแอนตี้เอจ-จิ้งที่ยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และสามารถตอบสนองความต้องการรวมถึงแก้ไขปัญหาและจุดบกพร่องของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยวางแผนเตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2556 นี้

นางวิภาดา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอก จากความสำเร็จด้านผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว บริษัทยังสามารถสนับสนุนผู้แทนจำหน่าย ที่ทำธุรกิจให้มีรายได้สูงขึ้น โดยในเดือนสิงหาคม ผู้แทนจำหน่ายที่ทำธุรกิจมีรายได้ จากเงินปันผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 236% เมื่อเทียบกับรายได้เดือนกรกฎาคม ซึ่งการ ที่เราสามารถสร้างให้ผู้แทนจำหน่ายมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นนั้น เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของนู สกิน ที่ต้องการสร้างให้ผู้แทน จำหน่ายได้รับค่าตอบแทนสูงสุดกว่าขายตรงอื่นๆ ตลอดเวลาเราจึงมุ่งมั่นสร้างกลยุทธ์การขายเพื่อสนับสนุนนโยบายใน เรื่องนี้

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 บริษัทยังคงเน้นใช้กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่านการกระตุ้นการเพิ่มจำนวนสมาชิกและ ปริมาณการบริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มต่อต้านความเสื่อมชราเป็นเรือธงในการสร้างยอดขายเป็นหลัก ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เอจล็อกกัลวานิค บอดี้ ซิสเต็ม III ซึ่งเป็นอุปกรณ์กระชับสัดส่วนที่ใช้เทคโนโลยี กระแสกัลวานิค แบบรูปคลื่นที่ได้รับการ พัฒนาขึ้นจาก วิทยาการเอจล็อก ที่เป็นองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ของ นู สกิน สามารถแยกแยะกลุ่มยีนที่ส่งผลต่อกระบวนการเสื่อมชราของร่างกายและ ตรงเข้าจัดการที่ต้นเหตุของความเสื่อมชราของผิวกายพร้อมกับลดการก่อตัวของ ไขมันและเซลลูไลต์

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเร่ง กระตุ้นยอดขายจากกิจกรรมการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ อาทิ การจัดอบรมสัมมนา การจัดกิจกรรมโรดโชว์ไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์และตราสินค้าตลอดจนขยายฐานธุรกิจให้เกิดการเติบโต เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นางวิภาดา กล่าวสรุป

อย่างไรก็ดี จากการเติบโตของยอด ขายในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ที่บริษัทสามารถ สร้างยอดขายได้ถึง 450 ล้านบาท นับเป็น ยอดขายประจำเดือนที่สูงที่สุดในรอบ 15 ปี ของ นู สกิน ประเทศไทยเลยทีเดียว สำหรับพื้นที่ที่สร้างยอดขายได้สูงสุดคือ กรุงเทพฯ ซึ่งกินสัดส่วนยอดขายได้ถึง 60% อีก 40% เป็นของตลาดต่างจังหวัด

ทั้งนี้ นู สกิน ยังมีแผนในการเพิ่มศูนย์ธุรกิจของบริษัท จากเดิมที่มีอยู่ 9 แห่ง ทั่วประเทศ โดยจะเพิ่มอีก 2 แห่ง แต่ละแห่งของศูนย์ใหม่จะใช้งบลงทุนที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อศูนย์ อีกทั้งบริษัทยังได้เดินหน้าขยายสาขาสู่ต่างประเทศ โดยมีประเทศเวียดนามที่บริษัทได้ขยายออกไปแล้ว


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1343 ประจำวันที่ 13-10-2012 ถึง16-10-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น