ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กองปราบบุกจับ DCHL"ตะเกียงวิเศษ"ลวงโลก "แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่!!!!!"








ในที่สุดบริษัท DCHL ซึ่งทำธุรกิจจัดจำหน่ายตะเกียงและน้ำมันหอมระเหยชื่อดัง ซึ่งอาศัยช่องทางการขายตรงมาบังหน้า ด้วยการชักชวนสมาชิกให้เข้ามาลงทุนด้วยเงินเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งมอบผลประโยชน์ตอบแทนกลับคืนให้อัตราที่สูงกว่ากฏหมายกำหนดหากหาสมาชิกรายใหม่มาร่วมลงทุนได้ เผยในรอบปีที่ผ่านมามีผู้เสียหายร้องเรียนกับ สคบ. มากเป็นประวัติศาสตร์ถึง 900 ราย เลยทีเดียว

เมื่อวัน 12 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยศักดิ์ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองปราบปรามกว่า 50 นายนำกำลังเข้าตรวจค้น บริษัท ดิจิตอล คราวน์ โอลดิ้ง จำกัด หรือ (DCHL) ตั้งอยู่ที่เลขที่ 338 อาคาร ดี ซี เอช แอล จำกัด ถ. พระราม9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพ ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นบริษัทขายตรงน้ำมันหอมระเหย และตะเกียง แต่มีผู้ใช้ร้องเรียนว่าบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่ มีการชักชวนให้ร่วมลงทุน และหาสมาชิกเพิ่มหากหาสมาชิกใหม่มาได้ 5-6 คน ก็จะได้รับเงินปันผลเพิ่ม ถึง 21,000-26,000 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าตรวจค้นภายในบริษัทพบประชาชนซึ่งมานั่งรอสมัครสมาชิกใหม่กับทางบริษัทบริเวณชั้น 1 ไม่ต่ำกว่า 100 คน และพบสมาชิกเก่าเข้ามารับสินค้าและมาอบรมกับบริษัท โดยไม่ตื่นตกใจกับการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ยังคงนั่งรอสมัครสมาชิกและรับสินค้ากันตามปกติ จนเสร็จสิ้นการตรวจค้น


พ.ต.อ. นิรันดร์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 20 คนซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ 3 คนที่วสใสนถจับกุมได้แล้วคือนายฮวงเชียง เชียง ชาวไต้หวัน อายุ 43 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการ น.ส.หว่อง คิน ซึ อายุ 36 ปี ชาวฮ่องกงและน.ส.เฉิน เป่า หยี อายุ 32 ปี ชาวฮ่องกง ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นผู้ชักชวนสมาชิกเข้าร่วมลงทุนด้วยการล่อลวงให้ลงทุนจำหน่ายน้ำมันหอมระเหยและตะเกียงรายละ 190,000 บาทเพื่อให้ได้เงินปันผล 40,000 บาท แต่หากลงทุนเพียง 12,300 บาทจะยังไม่ได้รับเงินปันผลจนกว่าจะสามารถชักจูงสมาชิกมาร่วมลงทุนเพิ่มจึงได้แจ้งข้อหาว่าร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน


พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าวต่อว่า การตรวจค้นบริษัทดังกล่าวดีเอสไอได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายประมาณ 70 รายคิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยประชาชนที่ถูกหลอกมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภายคะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีการตั้งสาขาใหญ่อีก 1 แห่งที่จังหวัดนครราชสีมา โดยวิธีการหลอกลวงจะจัดอบรมตามโรงแรมหรูต่างๆ ซึ่งมีวิทยากรชักชวนให้ร่วมเป็นสมาชิกและเชิญชวนให้ซื้อสินค้าโดยโฆษณาชวนเชื่อว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนสูง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีวิธีการพูดที่น่าเชื่อถือเจาะกลุ่มคนที่มีเงินน้อยซื้อน้อย มีเงินมากซื้อมากรวมถึงมีการโฆษณาชักชวนผ่านเว็บไซต์ และอ้างว่าเงินเป็นผลสามารถนำไปเป็นมรดกตกทอดถึงเครือญาติได้


"ในวันนี้จะรวบรวมหลักญานโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่มีรายละเอียดข้อมูลจำนวนลูกค้าและสินค้าเพื่อตรวจสอบยอดผู้เสียหาย รวมถึงดูบัญชีความเคลื่อนไหวทางการเงิน ซึ่งพบว่าเฉพาะวันนี้เพียงวันเดียวมียอดสั่งซื้อ 39 ล้านบาท และเพือนกันยายน 2555 มีกำไรกว่า 198 ล้านท ทั้งนี้จากการตรวจสอบยอดสมาชิกจาก สคบ. ปี 2554 มีสมาชิก 20,000 คน และเชื่อว่าขณะนี้มียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 40,000 คน ซึ่งสคบ.ได้สั่งปรับวันละ 10,000บาทรวมยอดค่าปรับถึงปัจจุบัน 600,000 บาท ส่วนการสั่งให้ยุติกิจการเป็นอำนาจของ สคบ." พ.ต.อ.นิรันดร์ กล่าว


อนึ่ง ก่อนหน้านี้(วีนที่ 4 ก.ค.) ที่กองปราบปราม กลุ่มสมาชิกนักธุรกิจเครือข่ายของบริษัทดิจิตอล คราวน์โฮลดิ้ง ย่านพระรามเก้า กว่า 30 คนเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอให้ช่วยตรวจสอบการดำเนินกิจการของบริษัทนี้ว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ๋หรือไม่เนื่องจากขณะนี้มีผู้ใช้แรงงานจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือบางส่วนตกเป็นเหยี่ต้องกู้หนี้ยืมสิน นำที่ดินของครอบครัวไปจำนองเพื่อนำเงินมาลงทุนในวจรธุรกิจลักษณะนี้รวมค่าเสียหายประมาณ 4,000 ล้านบาท


น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู หนึ่งในสมาชิกธุรกิจเครือข่ายของบริษัทแห่งนี้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่โรงงานบริษัทรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ต่อมาได้มีเพื่อนซึ่งทำธุรกิจเครือข่ายกับบริษัทนี้มาชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจโดยบอกว่าลงทุนเล็กน้อยแต่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนไปตลอดชีวิตจึงเกิดความสนใจเพราะต้องการช่วยเหลือครอบครัวหาเงินมาไถ่ถอนที่ดินกว่า 20 ไร่ที่ติดจำนองอยู่ จากนั้นเพื่อนคนดังกล่าวได้พามาเข้าอบรมที่อาคารสำนักงานย่านพระรามเก้า เสียค่าเข้ารับอบรม 300 บาท เมื่อเข้าอบรมบรัษทก็จะจัดคนที่ประสบความสำเร็จได้รายได้มากๆ มาพูดจูงใจ ซึ่งในการอบรมแต่ละครั้งใช้เวลาไม่เท่ากัน แต่เมื่อฟังบ่อยๆ เข้าจะเหมือนถูกล้างสมอง และเชื่อว่ามีความเป็นไปได้เพราะแต่ละคนที่มาเป็นสมาชิกนั้นก็เป็นคนใช้แรงงานหาเช้าินค่ำที่อยากจะมีฐานะดีขึ้น


น.ส.เอ กล่าวต่อว่าเมื่อหลงเชื่อเพื่อนที่เป็นอัพไลน์หรือพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิดก็จะให้หาเงินมาลงทุน โดยวิธีการระดมทุนนั้นเขาจะแนะนำให้พูดคุยกับคนที่เรารักหรือคนในครอบครัว ซึ่งช่วงนั้นตนหลงเชื่อจึงนำที่ดินติดจำนองธนาคารไปจำนองกับนายทุนเงินกู้ได้เงินมา 4.4 แสน บาทแต่เสียดอกเบี้ยร้อยละ 5 เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งก็นำไปใช้หนี้ธนาคารที่ก่อนหน้านี้จำนองที่ไว้ส่วนที่เหลือก็นำมาลงทุนในธุรกิจใช้เงินไป 212,300 บาทได้สินค้าเป็นตะเกียงมาหลายชุดดแต่สินค้าเหล่านี้ไม่ได้นำไปขายแต่ก็จะถูกแนะนำให้เก็บสินค้าไว้เพื่อนำไปขายให้คนที่เราชักชวนมาเป็นดาวน์ไลน์ในเครือข่ายเราตนทำงานนี้มาเกือบ 7 เดือน ต้องไปที่อาคารสำนักงานบริษัทที่พระรามเก้าและพระรามสองทุกวัน หยุดวันอาทิตย์วันเดียว และหาเครือข่ายได้เพียงรายเดียวเท่านั้นได้เงินกลับคืนมา 4 หมื่นกว่าบาท


"ตลอดเวลาที่ทำงานเครือข่ายนั้นก็จะถูกพูดกรอกหูให้หาทุนหาเครือข่ายอยู่ตลอดเวลา และได้ทราบจากคนอื่นที่หลงเชื่อมาเป็นเครือข่ายว่าต้องกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนคนละ 200,000 บาท เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในระบบธุรกิจนี้ ซึ่งส่วนใหญ่สมาชิกกว่าสองหมื่นคนเป็นผู้ใช้แรงงานจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี และนครราชสีมา ที่ขณะนี้กำลังเดือดร้อนพราะหนี้สินที่ไปกู้ยืมมาลงทุนโดยเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลตอบแทนจริงตามที่บริษัทมีการกล่าวอ้างจึงไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่ออีกจึงมาร้องทุกข์ดังกล่าว" นางสาวเอกล่าว


สำหรับการร้องเรียนถึงพฤติกรรมการทำธุรกิจของบริษัท DCHL ที่เข้าข่ายการหลอกลวงประชาชนนั้นตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีการร้องเรียนเพื่อให้ตรรวจสอบบริษัทนี้ถึง 900 คน เลยทีเดียวแต่ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าจากคำแถลงของ พ.ต.อ.นิรันดร์ ที่รุบุว่า สคบ. มีคำสั่งปรับบริษัท DCHL ถึงวันละ 10,000 บาท และในขณะนี้มียอดการปรับสูงถึง 600,000 บาทคิดเฉลี่ยแล้วบริษัท DCHL ถูก สคบ.ปรับมาเป็นระยะเวลา 2 เดือนแล้ว ซึ่งจากจุดนี้เองประชาชนหลายรายที่ได้เห็นข่าวตามหน้าจอทีวีและหนังสือพิมพ์รายวันที่นำเสนอข่าวการจับกุมในครั้งนี้ได้สอบถามกันมาที่กองบรรณาธิการข่าว "หนังสือพิมพ์ LEADER TIME รายปักษ์" ว่า สคบ. สั่งปรับเงินบริษํทนี้ในข้อหาอะไรซึ่งถ้าเป็นข้อหาทำธุรกิจไม่ตรงตามที่ได้ยื่นแจ้งไว้กับสคบ. ทำไม สคบ.ถึงไม่ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบล่วงหน้าและจะได้ระมัดระวังตัวเพื่อไม่ให้เข้าไปทำธุรกิจกับบริษํทนี้อีกแถมยังปล่อยให้บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจต่อไปถึง 2 เดือนจนกระทั่งมาถูกจับกุมในวันนี้


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวหนังสือพิมพ์ Leader Time ปีที่ 9 ฉบับที่ 200 ปักษ์หลังประจำวันที่ 16-31 ตุลาคม 2555

21 ความคิดเห็น:

  1. สมน้ำน่า..สุดท้ายบริษัทนี้ก้โดนจับ..คนไทยถึงไม่ค่อยมีเงินกันก็เพราะบริษัทนี้หรอกคนไทยด้วยกันให้มาลงทุน..ดีใจด้วยน๊ในที่สุดพวกเเกก็โดนจับจนได้

    ตอบลบ
  2. เสียใจครับที่บริษัทดีๆ อย่างนี้โดนใส่ร้ายจากการโจมตีของสื่อพูดง่ายๆ คือตกเป็นจำเลยของสังคม ทำไมไม่พูดถึงการทำงานที่ถูกต้องของทาง DCHL แทนหล่ะครับทำอย่างนี้มันหน้าเกลียด

    ตอบลบ
  3. ไอ้ sad มึงยังโง่ดักดานอยู่อีกเหรอเขาจับกันแบบนี้แล้ว

    ตอบลบ
  4. ดีตายล่ะมึง...dchl ขอให้จมลงดินแบบไม่ต้องผุดไม่ต้องเกิดมาอีกเลย บริษัทหลอกลวง คนที่ชักนำก็เลวโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ไปตายชะ

    ตอบลบ
  5. ส่วนใหญ่ที่เข้ามาอวยกันก็ทำค่ายอื่นทั้งนั้นดีแต่จู่โจมบริษัทที่โตเร็วๆ

    ตอบลบ
  6. จริงๆแล้วคุณไม่ได้โง่หรอกค่ะ แต่แค่ใจบอด ตาบอด มืดมีความโลภอยู่ในสัน..... ก็เลยคิดยังไม่ได้เท่านั้นเอง

    ตอบลบ
  7. ดีๆๆๆสมน้ำหน้า พวกทำนาบนหลังคน ต้องโดนซะบ้าง

    ตอบลบ
  8. ถ้าคุณบอกว่า DCHL หลอกลวง
    บริษัทขายตรงอื่นๆ ก็คงหลอกลวงเช่นเดียวกันแหละ

    ตอบลบ
  9. หนึ่งในนั้นน้องเมียผมเองที่ลงเงินไป หมดตูดเลย

    ตอบลบ
  10. เขาหลอกลวงยังตาบอดอยู่ได้มีจิตสำนึกบ้างสิพวกทำนาบนหลังคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน

    ตอบลบ
  11. อยากทราบความคืบหน้าของคดีว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว

    ตอบลบ
  12. ต้องขอขอบคุณสายล่อรหัส วรินทร ที่ช่วยให้ทางการเขาทำงานง่ายขึ้น

    ตอบลบ
  13. โดนซะ เวรกรรมติดจรวดจริงๆครับ

    ตอบลบ
  14. เราก้อโดนเพื่อนชวนเหมือนกัน มันบอกว่า..ให้เอาที่ดิน เข้า bank ให้เราเป็นหนี้มหาศาล เพื่อนที่คบกันมาเป็น 10 ๆ ปีบอกว่า ไม่รักไม่ชวนมาหรอก ดีนะที่ไม่โง่ลงทุนไป เงินเป็น หมื่นๆ แสนๆ มีเพื่อนไปอีก 4 คน มันตัดสินใจลงทุนวันที่ไปอบรมเลย แต่เราปฏิเสธ เพื่อนทั้ง 4 แม้งรุมด่า หาว่า เราโง่ อยากลำบาก และมันก็จะตัด เพื่อนเลย ประมาณนี้ ...จากเรื่องจริง เดือน..มิถุนายน 2555...

    ตอบลบ
  15. อยากทราบค่ะว่า Dsi ดำเนินคดีกับบริษัทDCHL อย่างไรบ้างแล้วค่ะ

    ตอบลบ
  16. ว่าแล้วว่าวันนี้ต้องมาถึงจะช้าจะเร็วเท่านั้นเองแต่สุดท้ายตอนจบก็ตายทั้งองค์กร ไม่อยากจะซ้ำเติมหรอกนะแต่มันสะใจชะมัดเลยว่ะ

    ตอบลบ
  17. แฟนผมชวนไปทำ ผมก็เกือบจะหลงเชื่อเหมือนกันครับ แต่ดีที่ผมไม่มีเงินพอจะลงทุน ไม่งั้นคงซวย

    ตอบลบ
  18. หลอกยังไง หรือเต็มใจควักเงินให้เขา บุญบาปอยู่ในใจเรานะ ถ้าฉลาดคงไม่ยอมให้ใครหลอกง่ายๆ แต่ที่ยอมควักเงินให้เขาเยอะขณะนั้นเพราะต้องการได้เยอะกว่าเป็นสิบเท่า มนุษย์เราสาเหตุที่โดนหลอกก็เพราะไม่รู้จักพอและโลภก็เลยโนหลอดไม่ใช่เหรอ จงยอมรับความจริง และอยู่อย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของพระองค์ท่านชีวิตจะได้ไม่มีทุกข์

    ตอบลบ
  19. ผมโดนเพื่อนที่ไว้ใจหลอกเอาเงินลงทุน 12300 บาท ครับ ค่าโทรศัพท์ ไอโฟน 5 s 2300 บาท ครับ ยังไม่ได้เงินคืนเลยครับ ขอให้เพื่อนคนนั้นตกนรกหมกไหม้ครับ ไม่คบแล้ว เจอกันเมื่อไหร่จะทวงเงินคืนเมื่อนั้นครับ ทราบว่าล่าสุดยังไม่ตาย แต่ใช้ชีวิตลำบากครับ บ้านและที่ดินดดนยึดหมดครับ พ่อแม่ตามใช้หนี้ให้สูกสาวชั่วๆๆๆเลวๆๆๆคนนี้ครับ

    ตอบลบ