ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ห้องเรียนเงินล้าน เวิลด์โปร WorldPro วิถี 2 ครูผู้สอน กิตติพงษ์ อัฐพร - อัจฉรา จุฬาวิริยาภรณ์


เส้นทางสำเร็จ...กับบริษัท เวิลด์โปร (ประเทศไทย) จำกัด2 ครูผู้สั่งสอนและอบรมปุถุชนคนรุ่นใหม่ - เก่า ให้มีจิตใจรักในอาชีพขายตรง ส่งเสริมให้ทุกคนที่อยู่ภายใต้เครือข่ายให้ยึดขายตรงเป็นอาชีพหลัก หรือทำเป็นอาชีพเสริม...เพื่อเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์


กิตติพงษ์ อัฐพรและอัจฉรา จุฬาวิริยาภรณ์ซึ่งบ่อยครั้งที่ รายการ : คลับเงินล้าน ออกอากาศทางสถานี INTV และ TVD จะได้รับเกียรติจากบุคคลทั้ง 2 มาร่วมแชร์ประสบการณ์เครือข่ายขายตรง อาชีพที่มักไม่มีใครเชื่อว่า จะสามารถสร้างความร่ำรวยได้ พลิกชีวิตจากดินสู่ดาว...และเมื่อมีโอกาสได้เปิดอกคุยกับมนุษย์เงินล้านทั้ง 2 ท่านอีกครั้ง ต้องบอกว่า ไม่ผิดหวังเช่นเดิม...เพราะแนวคิดของ 2 ท่านนี้ ได้ปรับอะแด็ปวิธีการทำงาน วิธีการเรียนรู้ แตกต่างจากผู้นำเงินล้านทั่วไป


ถามว่า...แตกต่างกันอย่างไรกิตติพงษ์และอัจฉรามีวิธีการสอนสมาชิกหรือดาวไลน์ ให้ผิดแผกแตกต่างจากวงการที่มีบทบัญญัติ บทเรียน ที่ต้องเข้าห้อง 1 2 3 4 ออกมาแล้วสำเร็จเลย โดยไม่เคยรู้ว่า...สิ่งที่เขาได้รับการถ่ายทอดมานั้น พอมาถึงภาคปฏิบัติทีมงานกลับทำไม่เป็น


กิตติพงษ์และอัจฉราพลิกตำราสอนใหม่ เริ่มสอนด้วยวิธีการของตัวเอง ตั้งแต่การไปหาแหล่งน้ำ เพื่อที่จะตกปลา แล้วสังเกตว่าตรงนั้นมีปลาหรือไม่ จากนั้นค่อยเกี่ยวเบ็ดทิ้งไว้ เมื่อได้ปลามานำมาปรุงเป็นอาหาร แล้วแบ่งปันให้คนอื่นทาน...ฟังดูแล้วอาจจะงง ๆ ง่าย ๆ อาจจะขยายความได้ว่า เมื่อชวนคนมาทำขายตรง เริ่มจากการทำความเข้าใจก่อน แล้วค่อยเฟ้นหาความเชี่ยวชาญ เพราะแต่ละคนจะมีความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน จากนั้นใส่ตำราบันทึกไว้ในสมอง แล้วค่อยลงมือปฏิบัติจริง เรียกว่า เรียนรู้ตั้งแต่ต้นยันจบ โดยไม่ละทิ้งทีมงานแม้แต่ขั้นตอนเดียว แถมยังรวมการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรเข้าไปด้วย


เพราะการทำงานแต่ละครั้ง เราได้สมาชิกที่มาจากต่างระดับ ต่างการศึกษา แต่เมื่อมาอยู่รวมกันก็จะถูกหล่อหลอมให้รักกัน เผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน...นี่จึงเป็นที่มาของชื่อทีมบราเธอร์ & ซิสเตอร์ที่สร้างทุกคนให้อยู่ภายใต้อารมณ์และวัฒนธรรมเดียวกัน ที่นี่ จึงไม่ต่างจากโรงเรียนสอนธุรกิจขายตรง...และเมื่อจบคอร์สทุกคนก็จะมีรายได้หลักหมื่น หลักแสน หลักล้าน เสมือนใบปริญญาการันตีคุณภาพแห่งความสำเร็จ


อัจฉราผู้ซึ่งมองโลกเครือข่าย เป็นธุรกิจที่สวยงามเสมอ และทุกครั้งที่เธอได้ถ่ายทอด เธอก็จะย้ำกับทีมงานทุก ๆ คน ว่าขายตรงเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่ายมาก แค่ทำให้คนข้างล่างประสบความสำเร็จเยอะที่สุด เมื่อเขาประสบความสำเร็จ เราก็ประสบความสำเร็จตาม...แค่นั้นเอง

ยิ่งถ้าถามถึงความสำเร็จกับเราทั้ง 2 คน เราสำเร็จถือว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะเรามีประสบการณ์การทำเครือข่ายมาหลายปีแล้ว แต่วันนี้ความสำเร็จที่แท้จริง มันจะต้องสำเร็จมาจากองค์กรข้างล่าง ซึ่งจะส่งผลให้เรามีรายได้ตาม อย่างที่ คุณน้อง - อัจฉรา กล่าวให้ฟังเมื่อสักครู่นี้กิตติพงษ์กล่าวและเสริมต่อว่า


สิ่งหนึ่งที่ บราเธอร์ & ซิสเตอร์ เราเองได้พิสูจน์มาตลอดจนถึงวันนี้ มันสัมฤทธิ์ผลอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม นั่นก็คือ การทำงานอย่างเป็นระบบ เราใช้ระบบทำงาน หากเทียบกับอดีตคนที่ประสบความสำเร็จมีรายได้หลักแสน หรือหลักล้านต่อเดือนในวงการธุรกิจขายตรงมีไม่กี่คน ต้องบอกว่าซุปเปอร์แมนมีไม่เยอะหรอกครับ อย่างดีก็คนสองคน แต่วันนี้โจทย์ที่สำคัญที่สุดคือ เราจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่มีประสบการณ์ หรือมีประสบการณ์น้อย ให้เขาประสบความสำเร็จมีรายได้หลักหมื่น หลักแสน หรือเป็นล้านในอนาคต ก็ต้องพึ่งระบบเท่านั้นครับ
หลาย ๆ ที่ หลาย ๆ ทีมที่เราไปคุยกันเขา ก็บอกว่าเขามีระบบ การมีระบบอันที่จริงแล้วมันต้องมีประสิทธิภาพ และคนที่ถูกส่งเข้าสู่ระบบ อย่างน้อยที่สุดก็ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้ วันนี้ บราเธอร์ & ซิสเตอร์ ทีมเราทำงานสำเร็จ ซึ่งผมก็ดีใจที่ได้เอาภาพความสำเร็จของน้อง ๆ มาให้ทุกท่านได้สัมผัส และมาร่วมแชร์ประสบการณ์กัน


ชื่นใจค่ะกับความสำเร็จของพวกเขาอัจฉรากล่าวอย่างมาดมั่น...เพราะว่าอย่างน้อย ๆ น้องที่เรียนหนังสืออยู่ก็มีรายได้ 4 - 5 หมื่นบาท/เดือน เขาไม่ต้องไปขอเงินคุณพ่อ - คุณแม่ ไม่เป็นภาระของสังคม น้อง ๆ แทบจะทุกมหาวิทยาลัยที่มาร่วมกับทีมเรา นักศึกษาแพทย์ก็มี


วันนี้ การทำงานของเรา ทำงานรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่ธุรกิจเครือข่ายเดิม ๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ ที่สำคัญเราใช้สื่อเข้ามาช่วย อย่างเช่น อินเตอร์เน็ต เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้น้อง ๆ ประสบความสำเร็จได้ ที่นี่ เราจึงอยู่กันเหมือนพี่ - น้อง เหมือนมหาวิทยาลัย ซึ่งเราเคยบอกทุกครั้งว่า วันนี้ถ้าเราสำเร็จไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าน้อง ๆ ในทีมสำเร็จ ตรงนี้สิแปลก และเราก็ชื่นใจมาก ที่มองเห็นภาพความสำเร็จของน้อง ๆ เดือนหนึ่งรับรายได้หลักหมื่นบาท/เดือนเยอะมาก ส่วนหลักแสนก็ขยับตามมา


ที่สำคัญที่สุดคือ ภาพความสำเร็จมันฟ้อง...เพราะเขาเป็นเจ้าของรถป้ายแดง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา ทั้งรถโตโยต้าแคมรี่ ไฮบริดจ์, เชฟโรเลต, ฮอนด้าแจ๊ส, ฮอนด้าแอคคอร์ด วันที่เขาออกรถมีความหมายหมดนะค่ะ เพราะมันคือ วันแม่ หรือ วันพ่อ เปรียบเสมือนเป็นของขวัญวันเกิดและตอบแทนพระคุณท่านให้ท่านมีกำลังใจ อัจฉรา กล่าวอย่างภาคภูมิใจและต่อว่า
น้อง ๆ รุ่นใหม่ที่มาอยู่กับเรา ส่วนใหญ่เขายังไม่มีครอบครัว เราจะสอนให้เขารักคุณพ่อ - คุณแม่ มีความกตัญญูรู้คุณ เพราะอย่างน้อยเชื่อว่าความกตัญญู มันส่งผลให้ชีวิตเขาเจริญรุ่งเรือง เราสอนให้เขาทำแบบนี้ค่ะ พูดให้เขาคิดเลยว่า ชีวิตที่ดีในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และต่อไปต้องทำอะไร ไม่ใช่ชีวิตของเขาเอง แต่เป็นชีวิตของคนที่เขารัก นั่นก็คือ คุณพ่อ คุณแม่ มันปรากฏให้เห็นชัดแล้วค่ะ ว่า ก่อนหน้านั้นเราอาจยังไม่มีภาพความสำเร็จของน้อง ๆ แต่วันนี้เราทำสำเร็จแล้วส่วนหนึ่ง


พวกเขากำลังมีอนาคตที่ก้าวไกล ซึ่งกล้าพูดเลยว่า เครือข่ายในประเทศไทยที่จะเห็นภาพแบบนี้กับเด็กใหม่ ๆ นั้น...มันยากมาก
วันที่น้องหลาย ๆ คนไปออกรถ เขาก็เชิญคุณพ่อ - คุณแม่มาด้วย แถมยังดีใจและมาฝากฝัง จากเดิมที่ปฏิเสธไม่ให้ลูกทำเครือข่าย บอกลูกว่า อย่าไปทำเลย งานอะไรก็ไม่รู้ ให้ทำงานประจำดีกว่าไหม แต่ปัจจุบันนี้โทรหาลูกบ่อย ไปทำงานรึยัง เข้าบริษัทรึยัง เห็นไหมคะ ว่า เขาต้องเปิดใจโดยอัตโนมัติ จ
ากภาพที่ลูกเขาประสบความสำเร็จจริง ๆ

แต่การที่จะเอาเด็กนักเรียนมานั่งทำเครือข่ายนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย คือให้คิดอย่างนี้ ว่า คอนเซ็ปต์ บราเธอร์ & ซิสเตอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาเยอะ ซึ่งอุปนิสัยเดิมเขาจะเป็นคนที่ติดเกมส์ เล่อินเตอร์เน็ตกันทั้งวันทั้งคืน แค่วันนี้เขาติดเกมส์แล้วเปลี่ยนวิถีชีวิตเขาใหม่ให้มารู้จักสร้างชีวิต สร้างอนาคตในวัยหนุ่ม - สาวจะดีกว่าไหม.. นี่คือ คำถามประโยคแรก ที่เราต้องใฝ่หาคำตอบ


ตรงนี้เราไม่ได้ไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเขาเยอะ แค่ปรับการทำงานให้สอดคล้องกับอุปนิสัย ซึ่งเป็นพฤติกรรมในแต่ละวันของเขาที่ใช้อินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แต่จะปรับอย่างไรให้เกิดรายได้ ตรงนี้ก็มีระบบรองรับ นี่คือ การทำงานรูปแบบใหม่จริง ๆ ผมบอกได้เลยว่า น่าจะเป็นที่เดียวในประเทศไทยที่เราวางรูปแบบนี้ เราออกแบบงานให้เหมาะกับคน เราไม่ต้องการคนให้เหมาะกับงาน แค่เราเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ใหม่ ก็ได้ผลลัพธ์กลับมาสมดังตั้งใจ


ทีม บราเธอร์ & ซิสเตอร์ เราแน่นปึกทางด้านความรู้ เพราะเราเป็นนักธุรกิจเครือข่ายมืออาชีพในทุกเรื่อง ถามว่าระบบเทรนนิ่งมีการเทรนด์คล้ายกับประกันหรือไม่ ต้องบอกว่า...น่าจะมากกว่านี้ค่ะ อัจฉรากล่าวสั้น ๆ แบบได้ใจความ กิตติพงษ์ เสริมต่อว่า ประกันชีวิตเป็นสิ่งที่ดีเราสามารถเอามาต่อยอดธุรกิจได้ เพราะต้นกำเนิดเครือข่ายอาจจะมาจากที่เดียวกัน ก็นำมาประยุกต์ให้เข้ากับองค์กร เข้ากับบุคลิกของแต่ละคน ที่เข้ามาทำธุรกิจ มันก็เลยส่งผลให้น้อง ๆ ประสบความสำเร็จกันอย่างรวดเร็ว ในมุมมองของเราที่เป็นผู้ดู ผมถือว่า บราเธอร์ & ซิสเตอร์ เราประสบความสำเร็จมาก


เราสามารถกำหนดอนาคตเด็ก ๆ ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว 20 ต้น ๆ ที่สามารถทำธุรกิจแล้วสำเร็จด้วยตัวเอง นี่คือ คอนเซ็ปต์ของเรา เพราะอย่างน้อยที่สุดเบื้องต้นคุณดูแลตัวเองได้ แบ่งเบาภาระคุณพ่อ - คุณแม่ หลังจากที่เราขอเงินทุกเดือน แต่ปัจจุบันเรามีรายได้ 4 - 5 พันบาท/เดือน หรือมีรายได้หลักหมื่น หลักแสนต่อเดือน แต่เราต้องก้าวทีละสเต็ป ทีละขั้นตอน และจะไม่มาโมติเวทกันว่า ตรงนี้ทำรายได้เป็นแสน เป็นล้าน นั่นมันเรื่องของอนาคตค่อยว่ากัน


ถามว่า...ระหว่างสินค้า บริษัท ระบบ ประธาน คุณเฉลี่ยความสำคัญอย่างไร... ในการตัดสินใจเดินเข้าร่วมธุรกิจ ผมว่าคำตอบง่ายนิดเดียว เพราะเรื่องสินค้าทุกบริษัทก็เคลมว่าต่างคนต่างดีอยู่แล้ว หากสินค้าสามารถสู้กันในท้องตลาดได้ ดังนั้น จุดเด่นจึงอยู่ที่การออกแบบงานให้เหมาะกับกลุ่มคน เพราะสถานการณ์ขายตรงมันเปลี่ยนไป เราจะไปจับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา แล้วให้ไปลิสต์รายชื่อมา หรือไปขอสปอนเซอร์มา คงทำไม่ได้ แต่จะคิดค้นสูตรสำเร็จแนวใหม่ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดเวลา


ฉะนั้น การทำงานภายใต้ทีม บราเธอร์ & ซิสเตอร์ เราได้ออกแบบความสำเร็จ หรือระบบให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่คุณพาตัวเองเข้ามาสู่ระบบ ผมอยากยกตัวอย่างให้ฟังง่าย ๆ แล้วลองคิดและจินตนาการตามนะครับว่า ถ้าเราทำเครือข่ายขายตรงในอดีต เราต้องทำอะไรบ้าง และแน่นอนครับ 1. ต้องมีรายชื่อ 2. ต้องมีกลุ่มผู้มุ่งหวัง 3. ต้องโทรนัด และ 4. ต้องออกไปคุย ไปอธิบาย ไปสาธิต ก็อย่างที่ได้บอกตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า ถ้าทำอย่างนี้ขายตรงจะมีซูเปอร์แมนสักกี่คนที่สำเร็จ มันยากมาก นั่นคือ สิ่งที่ทำให้คนที่อยู่ในธุรกิจเครือข่ายขายตรงไม่ค่อยประสบความสำเร็จกันสักเท่าไหร่


ผมเลยมองว่า งานในเครือข่ายมันมีอะไรบ้าง การออกไปพบลูกค้าแน่นอนว่า ปฏิเสธไม่ได้ เพราะธุรกิจนี้เราต้องออกไปหาลูกค้า ไปพบลูกค้า แต่บังเอิญว่าบางคนอาจไม่ถนัด ไม่ชอบที่จะคุยหรือพูดไม่เก่ง ไม่มีเวลาบ้าง แสดงว่าคนเหล่านี้จะทำเครือข่ายไม่ได้เลยหรือ มันก็ไม่ใช่คำตอบครับ
แต่ทีม บราเธอร์ & ซิสเตอร์ มีคำตอบ เพราะตรงนี้เรามีทีมงานที่เป็นมืออาชีพไปพรีเซ็นต์ ไปพูดแทน ใครถนัดเรื่องไหน เราจะให้ทำในสิ่งที่เขาถนัด เพราะความหมายของคำว่า ทีม ทีมไม่ใช่องค์กรนะครับ คนที่อยู่ใต้ล่าง นั่นก็คือ ทีม เพราะทุกคนมีความสามารถโดดเด่นไม่เหมือนกัน การทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง เพื่อความสำเร็จของแต่ละคน ผมเลยมองว่า ใครถนัดเรื่องอะไรให้ทำเรื่องนั้น


นี่คือระบบของ บราเธอร์ & ซิสเตอร์ เราแบ่งงานกันทำ ใครถนัดด้านไหนทำด้านนั้น และเราก็โชคดีที่ได้คุณน้อง - อัจฉราเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ภายในครอบครัวของเรา
เหตุผลที่ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ เพราะว่าน้อง ๆ เขายังอ่อนวัย อารมณ์ไม่นิ่ง บางคนอกหัก ทะเลาะกับแฟน เราก็ต้องเข้าใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพราะน้องคิดอย่างเดียวว่า ธุรกิจเครือข่ายง่ายมาก ง่ายตรงที่ว่าธุรกิจเครือข่ายมันไม่ใช่งานประจำ มันไม่มีกฎระเบียบข้อบังคับ แต่ถ้าได้ใจใครมาอะไรก็ได้หมด คือใช้เงินซื้อใจไม่ได้ หากเรารักเขา เขาก็รักเรา เราห่วงเขา เขาก็ห่วงเรา แค่นี้เองคะสำหรับกฎการอยู่ร่วมกัน


ถามว่ายากไหม.. เพราะเราอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ก็ไม่หรอกค่ะ เพราะเราจะทำเป็นวัฒนธรรม คือจะสอนให้แต่ละคนดูแลกันต่อลงไปเรื่อย ๆ สมมติ ถ้าวันหนึ่งเราสองคนไม่อยู่ สถาบันของเราก็ยังอยู่ ซึ่งถ้าเราทำเองคนเดียว คงทำไม่ได้ เพราะว่ามีองค์กรหลายหมื่นคน ฉะนั้น รุ่นพี่ที่มาแรก ๆ คุณจะต้องทำแบบนี้ และท้ายสุดเราก็ดูแลอยู่ในภาพรวม


การทำธุรกิจโดยเฉพาะกับ บราเธอร์ & ซิสเตอร์ เราไม่ทำแบบไร่เลื่อนลอย เราต้องการให้มันหยุดได้จริง ๆ เหมือนที่เขาบอกว่าธุรกิจเครือข่าย คุณต้องหยุดได้แล้วรายได้ไม่หยุด ดังนั้น องค์กรของคุณต้องแน่นหนา ต้องเป็นปึกแผ่น คุณถึงจะตลอดรอดฝั่ง เพราะการทำไร่เลื่อนลอย มันจะเหนื่อยไม่สิ้นสุด แต่วันนี้น้องสามารถที่จะหยุดมันได้ นั่นหมายความว่า น้องไม่จำเป็นต้องอยู่ออฟฟิศตลอดเวลา สามารถไปโน่นไปนี่ได้ ซึ่งเรามีผู้นำที่สร้างขึ้นมา แต่เราจะไม่เน้นหา
นี่เป็นจุดเด่นของทีม บราเธอร์ & ซิสเตอร์ ทุกคนเป็นหมด หากคนไหนมีความสามารถเราส่งขึ้นเวที บริษัทให้คุณเป็นวิทยากร เราก็จะส่งเสริมทุกด้าน ไม่ต้องไปกดเขา วันนี้ น้องเชื่อว่าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ เพราะว่าทุกคนก็ต้องการฝึกฝน ฉะนั้น การเป็นผู้นำที่ดีจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของทุกเรื่องด้วย อัจฉรา กล่าวปิดท้าย


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ. ตลาดวิเคราะห์ ประจำวันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2555 ฉบับ 331

1 ความคิดเห็น: