ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ขายตรงโลก (MLM World) : ขายตรงอินเดีย โตพรวดคาดปิดหีบพุ่ง 55% ยักษ์สหรัฐฯ เฮลงทุนรับ ศูนย์กลางบูม / ผู้บริโภคมีรายได้เพิ่ม


สมาคมขายตรงอินเดีย (Indian Direct Selling Associatino : IDSA) คาดอุตสาหกรรมขายตรงภายในประเทศจะมียอดขายทะลุ 71,200 ล้านรูปี (ประมาณ 43,310 ล้านบาท) ภายใน ปีงบประมาณ 2555-2556 หรือเติบโตประมาณ 55% เทียบกับปี 2554 ที่มียอดขาย 45,833 ร้านรูปี (ประมาณ 27,958 ล้านบาท) อยู่ดันดับ 9 ของเอเชียและอันดับ 20 ของดลก จำนวนนักขายเกือบ 4 ล้านคน อยู่อันดับ 11 ของโลก

การเติบโตของธุรกิจขายตรง เนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ (จีดีพี) เป็น สำคัญซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อินเดียติด กลมุ่ ประเทศที่มอี ัตราการเติบโตของจีดีพี สูงสุดในโลกเฉลี่ย 7% ต่อปี ขณะที่รายได้ ต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5% ต่อปี รัฐบาลอินเดียคาดการณ์จีดีพีจะมีมูลค่า ถึง 2.18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน ปี 2558 มีขนาดใหญ่อันดับ 11 ของโลก

ขายตรงสดในปัจจัยบวกเยอะบริษัท อินเดีย / ต่างชาติแย่งเค้ก

ด้วยขนาดของผู้บริโภค ที่มีจำนวน มากทำให้ความต้องการอุปโภค บริโภค สินค้ามีมากขึ้นตามไปด้วยซึ่งในช่วง หลายปีที่ผ่านมาความต้องการในตลาด เพิ่มขึ้นตลอด อีกทั้งมีการตระหนัก ถึงการใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น พฤติกรรมในการจับจ่ายซื้อสินค้าเปลี่ยน อย่างชัดเจน เริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่มี คุณภาพและพร้อมที่จะจับจ่ายซื้อหาเป็น เจ้าของ

ขณะที่ฝั่งผู้ผลิตสินค้าคือบริษัท ขายตรงมีการลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อผลิต สินค้าสนองตอบความต้องการของผู้ บริโภค คาดว่าการลงทุนจำนวนมาก ในสินค้าหลากหลายประเภทยังคงมีอยู่ อย่างต่อเนื่อง กอปรกับการเปลี่ยนแปลง ของประชากรกลุ่มคนเมืองมีมากขึ้น เปอร์เซ็นต์คนยากจนลดลง ปัจจัยเหล่า นี้ทำให้ธุรกิจขายตรงเติบโตแข็งแกร่งเป็น ตัวเลข 2 หลักมาตลอดทั้งที่ถือเป็นธุรกิจ ใหม่ในอินเดียเพราะเพิ่งถือกำเนิดมาได้ แค่ 16 ปีเศษแต่เติบโตเหนือกว่าอีกหลาย ธุรกิจดึงดูดทั้งบริษัทขายตรงในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาแย่งชิงเค้กก้อน นี้ทั้งรายเก่าที่กำลังขยายธุรกิจและราย ใหม่ที่เตรียมจะเข้ามา

คำจำกัดความไม่ชัด / ไร้กฏหมายคุมก้างชิ้นใหญ่ขวางทุนนอกขุดทอง
อย่างก็ดี ความไม่ชัดเจนของคำ จำกัดความ ขายตรง ทำให้เกิดความ คลุมเครือในการจัดชั้นประเภทธุรกิจซึ่งจะมีผลต่อการลงทุนโดยตรงของต่าง ชาติ โดยหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาท ในการควบคุมดูแลมีอยู่หลายหน่วย งานแต่ละแห่งจัดชั้นประเภทธุรกิจขาย ตรงไม่เหมือนกัน อย่างกรมส่งเสริมและ กำกับนโยบายด้านอุตสาหรรมจัดขาย ตรงให้อยู่ในกลุ่มธุรกิจค้าส่งอนุญาต ให้การลงทุนโดยตรงของต่างชาติทำได้ 100% จำนวนหนึ่ง ขณะที่หน่วยงานจัด ชั้นอุตสาหกรรมแห่งชาติจัดขายตรงอยู่ ในธุรกิจค้าปลีกซึ่งจำกัดการลงทุนให้แค่ จำนวนหนึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุน ของบริษัทขายตรงจากต่างประเทศ

ยิ่งกว่านั้น การที่ไม่มีกฎหมายขาย ตรงเพื่อกำกับดูแลธุรกิจให้มีมาตรฐาน และเอกภาพเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ เพราะไม่สามารถแยกขายตรง นํ้าดี คือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจถูกกฎหมายกับ พวก นํ้าเน่า คือ ปิระมิด ออกจาก กันได้ ทำลายภาพลักษณ์ของธุรกิจภาพ รวม ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน อีกทั้งระบบคมนาคมขนส่งระหว่างเมือง ไม่สะดวก

ยักษ์สหรัฐฯ ไม่สนขนเงินลงทุนเพิ่ม เอวอน ผุงโรงงานใหม่ / แมรี่ เคย์ เท 20ล้าน
อย่างไรก็ดี แม้จะปัญหาต่างๆ แต่ ด้วยศักยภาพการเติบโจที่สดใส กระตุ้น บริษัทขายตรงจากต่างประเทศขยาย ธุรกิจต่อเนื่อง โดยค่ายขายตรงที่มีความ เคลื่อนไหวจะทุ่มลงทุนก้อนใหม่อีกคือ บริษัท เอวอนและแมรี่ เคย์ 2 ผู้ผลิตสินค้า ขายตรงความงามชั้นนำของสหรัฐฯ และ ของโลก โดยเอวอนเตรียมจะลงทุนอีก 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 31 บาท)สร้างโรงงานผลิตแห่ง ที่สองขึ้นตามแผนการจะก่อสร้างภายใน 3 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มกำลังผลิตสินค้านอก เหนือจากโรงงานปัจจุบันที่มีกำลังการ ผลิต 50 ยูนิตต่อปี

เฮมานต์ ซิงห์ กรรรมการ ผู้จัดการเอวอนสาขาอินเดียกล่าวว่า การประกอบธุรกิจในอินเดียไม่ใช่เรื่อง ยากเหมือนที่ผู้ประกอบการหลายๆราย กังวล เพียงแต่ต้องศึกษาข้อกฎหมายที่ เกี่ยวข้องต่างๆ ให้ดีที่สำคัญต้องได้รับ อนุญาตจากคณะกรรมการการลงทุน โดยตรงต่างประเทศก่อนถึงจะเปิดธุรกิจ ในอินเดียได้

เศรษฐกิจคือภาวะแวดล้อมที่ ดีเยี่ยมกับธุรกิจขายตรงในประเทศนี้ อินเดียคือตำแหน่งสำคัญ คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ที่นี่ยังมีช่องให้เติบโตได้ อีกเยอะมาก กรรมการผู้จัดการเอวอน สาขาอินเดียกล่าว

ในปีที่ผ่านมา เอวอนมีอัตรา เติบโตประมาณ 55% และปีนี้ตั้งเป้า หมายจะเติบโตมากกว่า 60%

ส่วนแมรี่ เคย์มีแผนการที่จะเพิ่ม บทบาทในอินเดียด้วยการขยายธุรกิจให้ ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 2 ปีข้างหน้าซึ่งขณะนี้ได้เปิดสำนักงานแห่งใหม่ ขึ้นในเมืองลัดเฮียน่าและภายใน 5 ปีข้าง หน้าจะลงทุนในอินเดียเพิ่มอีก 20 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐรองรับการขยายธุรกิจ

พันธกิจของเราคือการทำให้ ผู้หญิงมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยการ เสนอโอกาสทางธุรกิจที่จะทำให้พวก เธอสามารถที่จะสร้างรายได้อย่าง ไม่มีขีดจำกัดควบคู่ไปกับการมีเวลาดูแลครอบครัวและทำ งานประจำ พันธกิจและวัฒนธรรมของเราได้รับ การต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสตรีชาว อินเดีย รีนูกา ดูเดจา ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัทแมรี่ เคย์ กล่าว

ด้านออริเฟลม ยักษ์ขายตรงจาก สวีเดน ซึ่งเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ประสบ สำเร็จสูงมากกับธุรกิจขายตรงในอินเดีย โดย เฟร็ดริค ไวเดลล์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ออริเฟลมอินเดียกล่าวว่า อินเดีย คือหนึ่งในตลาดขายตรงสำคัญที่สุด สำหรับออริเฟลม ตั้งเป้าหมายยอดขาย ในอินเดียเติบโตเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้านี้

สำหรับแอมเวย์ ค่ายขายตรง ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพเบอร์ หนึ่งของอินเดียเพิ่งปรับแผนธุรกิจใหม่ มุ่งขยายผลิตภัณฑ์ความงามมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของอินเดีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สินค้ากลุ่มนี้ทำ ผลงานได้ดีมากเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด สินค้ากลุ่มนี้จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท เทียบกับสินค้าสุขภาพ เสริมอาหารที่มี สัดส่วนถึง 50%

ในปี 2555 นี้ แอมเวย์ตั้งเป้า หมายยอดขายในอินเดีย 25,000 ล้าน รูปี (ประมาณ 17,500 ล้านบาท) เติบโต ประมาณ 17% เทียบกับปี2554 ที่ทำได้ 21,300 ล้านรูปี (ประมาณ 14,910 ล้าน บาท)ในไตรมาสสองที่ผ่านมามีอัตรา เติบโตถึง 27% เทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีที่ผ่านมาโดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่ที่มีอัตราเติบโตสูงสุดเทียบกับ โซนอื่น


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ธุรกิจเครือข่ายขายตรงฉบับที่ 237 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 1-15 ตุลาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น