ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

"ทีวี ไดเร็ค (TV Direct)" รับมือแข่งขันอาเซียน (AEC) วางเป้า 5 ปี สร้างยอดขายปีละ 20%


ทีวี ไดเร็ค ดึงจุดแข็งการเป็นบริษัทมหาชนรุกตลาดเชิงลึก เตรียมตัว รับการแข่งขันตลาดอาเซียนเต็มสูบ โชว์ ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ทำกำไรสุทธิ 29.9 ล้านบาท โตขึ้น 47% จาก ปี 54 ขณะที่ยอดขายครึ่งปีแรกปิดที่ 1,152 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 39% คาดด้วยจุดแข็งหลายด้าน บริษัทจะเติบโต 20% ทุกปี

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichannel Marketing) เปิดเผยว่า ปีที่แล้วบริษัทปิดยอดขาย 1,905 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขกำไรสุทธิดังกล่าวถือว่ายังอยู่ในสัดส่วนที่ต่ำ แต่อย่างไร ก็ดี ภาพรวมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่าบริษัทมียอดขาย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้อัตราการเติบโตยิ่งชัดเจนมากขึ้น

พบว่าผลประกอบการครึ่งปีแรกของปีนี้ บริษัทสามารถ ปิดยอดขายได้ประมาณ 1,152 ล้านบาท เติบโตประมาณ 39% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 29.9 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 47% ถือว่าผลประกอบการในตอนนี้โตเกือบเท่าปีที่แล้วทั้งปี ฉะนั้นกลยุทธ์หลายอย่างที่เราได้วางไว้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ประสบผลสำเร็จด้วยดี

สำหรับกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทเตรียม วางแผนดำเนินการต่อไป คือ การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับบริษัทต่างชาติ ที่เริ่มเข้ามารุกตลาดเอเชียอย่างจริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจากแอฟริกาใต้ หรืออเมริกา โดยเหตุผลง่ายๆ ที่บริษัทต่างชาติเหล่านั้นเริ่มหันมามองตลาดในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น นายทรงพล ให้ความเห็นว่า เพราะตลาดเหล่า นั้นเริ่มจะอิ่มตัว หรือแข่งขันได้ยากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของประเทศไทยก็คือ เราอยู่ในภูมิศาสตร์ที่เป็น ศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์กลางของอาเซียน ตนจึงคิดว่าบริบท ในการกำหนดยุทธศาสตร์ของบริษัทข้ามชาติเหล่านี้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับบริษัททีวีไดเร็ค ที่เราต้องเร่งสร้างแผนรับมือ

อย่างไรก็ดี ทีวี ไดเร็คจะไม่เร่ง ขยายงานเพราะกระแสความสนใจตลาด AEC แต่บริษัทคำนวณจากปริมาณประชากรที่จะทำให้บริษัทเติบโตขึ้น ซึ่งตลาด 200 ล้านคน เป็นเป้าหมายที่เรามอง แต่ก็ไม่ใช่วันนี้ นี่คือการเตรียมตัวไว้ในอนาคต และปัจจัยที่สำคัญสำหรับ การเตรียมความพร้อมในขณะนี้ คือบริษัท ต้องมีกำลังคนที่พร้อม ส่วนประเทศที่เรามีการขยายไปแล้วในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และปัจจุบันกำลัง จดทะเบียนที่ประเทศเวียดนาม คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ บริษัทจะเริ่มวางกลยุทธ์โดยละเอียดว่า เราจะเข้าไปดำเนินงานใน แต่ละประเทศอย่างไร

ตนดีใจที่กระแสการรุกคืบของบริษัท ข้ามชาติเริ่มเข้ามาในตอนนี้ เพราะทีวี ไดเร็คเองยังไม่ได้เติบโตมากนัก ซึ่งจุดนี้จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันหรือเลือดนักสู้ของเรายังเต็มที่ และที่สำคัญกระแสบริษัทข้ามชาติยังเข้ามาในช่วงที่บริษัทเริ่มเข้าตลาดหลักทรัพย์

โดยการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ดังกล่าว จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทจัดเตรียมไว้เพื่อรองรับการแข่งขันในอนาคตโดยจุดแข็งของการเข้าเป็นบริษัทมหาชน ทำให้ระบบการดำเนินงานของบริษัทมีความโปร่งใสมากขึ้น ได้เปรียบ ในเรื่องภาพลักษณ์ที่มีความชัดเจนและ ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีโอกาสในการแก้ปัญหากับผู้บริโภคมากขึ้นเช่นกัน ส่วนจุดอ่อน คือ คู่แข่งอาจตรวจสอบได้ง่ายขึ้น เพราะบริษัท กลายเป็นมหาชนที่สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะตัวเลขผลประกอบการที่อาจโยงไปถึงกลยุทธ์การดำเนินงานต่างๆ ได้

ทีวี ไดเร็ค วางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ไว้ว่าจากนี้ไป บริษัทต้องเติบโต 20% ทุกปี และปัจจัยสนับสนุนการเติบโต นอกจาก บริษัทจะมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจผ่านมัลติแชนเนล อย่างช่องทีวี คอลเซ็นเตอร์ ที่จะขยายเพิ่มขึ้น สื่อดิจิตอล และเว็บไซต์ ต่างๆ แล้ว สิ่งที่เรามีอีกอย่างหนึ่ง และถือเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตก็คือ แรงจูงใจจากภายในของนักธุรกิจ ที่ทุกคน เชื่อมั่นและรักบริษัทอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ดี นายทรงพลยังได้กล่าวถึงปัญหา หรืออุปสรรคที่สำคัญสำหรับการทำธุรกิจ นั่นคือความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาล ที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บางครั้งสนับสนุนการดำเนินงานอย่างหนึ่ง แต่บางครั้ง ไม่สนับสนุนและนโยบายรัฐบาลนี้เองที่ทีวี ไดเร็ค นำไประบุไว้ว่าเป็นปัจจัยเสี่ยง 1 ใน 9 ข้อของบริษัท เมื่อตอนยื่นเรื่อง เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1341 ประจำวันที่ 6-10-2012 ถึง9-10-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น