ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อีซี่ ฟาร์แมกซ์ "Easy Pha-max" เปิดม่านบริษัทขึงธงแผนจ่าย ไฮบริด เป้า 12 เดือนพันล.


อีซี่ ฟาร์แมกซ์ ได้ฤกษ์เปิดม่านสาขาไทยอย่างเป็นทางการ หลังซุ่มทำตลาดมา ตั้งแต่ปี 52 ใช้สินค้าสมุนไพรเป็นตัวโกยยอดขาย ปรับแผนเป็น ไฮบริด ชูโรงเรียกสมาชิก ดันโปรโมชั่นเต็มพรืดล่อใจ ขีดเส้นใช้เวลา 12 เดือนต่อจากนี้ เดือนก.ย.ปี 56 รายรับต้องแตะ พันล้านบาท ด้านประธานใหญ่แย้ม ปีหน้าดันบริษัทเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง

ดาโต๊ะ เย่ เส้าเฉวียน ผู้ก่อตั้ง แบรนด์ธุรกิจขายตรงกลุ่ม อีซี่ ฟาร์แมกซ์ เปิดเผยว่า เราตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทแฟรนไชส์สมุนไพรออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีภารกิจสำคัญในการทำให้ ทุกครอบครัวได้ครอบครองบัตรแพ็กเกจสุขภาพ บริษัทได้ผสมผสานธุรกิจ อีคอมเมิร์ซ และกลยุทธ์น่านน้ำสีครามเข้าด้วยกัน โดยนำเอาผลิตภัณฑ์ของอีซี่ ฟาร์แมกซ์ และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพันธมิตร ผ่าน ระบบการตลาดของสาขาทั้ง 13 ประเทศ ที่บริษัทได้ขยายออกไป

โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น ถือว่า เป็นประเทศที่ 3 ของอีซี่ ฟาร์แมกซ์ที่บริษัทได้ขยายออกไป โดยบริษัทได้มีการปรับแผนจากช่วงเริ่มต้นของบริษัทในประเทศไทยให้มีความสอดคล้องกับพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจของคนไทย ซึ่ง บริษัทได้ปรับมาใช้แผนจ่ายแบบ ไฮบริด

ในปี 2012 นี้ อีซี่ ฟาร์แมกซ์ต้องการ ทำให้บริษัทมีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น โดยที่เป้าหมายในเรื่องต่างๆ นั้นบริษัทจะ คงไว้ โดยที่บริษัทต้องการจะทำให้อีซี่ ฟาร์แมกซ์เป็นแหล่งรวมคนเครือข่าย และ สร้างนวัตกรรมด้านสินค้านำเข้ามาจำหน่าย ภายใต้ระบบขายตรง ดาโต๊ะ เผย

อย่างไรก็ดี ในส่วนของเป้าหมายของบริษัทที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สำหรับประเทศไทยนั้น บริษัทได้วางตัวเลขยอดขายไว้ที่ 1 พันล้านบาทในปีหน้า โดยที่จะ มีการส่งสินค้านวัตกรรมเข้ามาจำหน่าย เน้นในส่วนของสินค้าที่มีความเหมาะสมกับพฤติกรรมของคนไทยให้มากที่สุด

อีซี่ ฟาร์แมกซ์ จะใช้กลยุทธ์ที่คล้ายกันในการขยายตลาดในทุกประเทศ คือ การใช้เวลาในการวางรากฐานบริษัทอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่ง เป็นที่รู้จัก หลังจากนั้นจึงจะเริ่มการเปิดตัว บริษัทอย่างเป็นทางการ และทุ่มทุนทำตลาดเต็มอัตราศึก เจ้าของบริษัทขายตรงมาเลเซีย กล่าว

ในส่วนของยอดขายของสาขาต่างๆทั้ง 13 สาขา ขณะนี้มีประเทศจีนที่ทำยอดขายได้ดีที่สุด ซึ่งจีนจะมีการเปิดตัว อย่างเป็นทางการในปีหน้านี้ แต่หากนำจำนวนประชากร มาหารกับตัวเลขยอดขายนั้น จะเป็นไต้หวันที่มียอดขายสูงที่สุด ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าหลังจากที่มีการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ สาขาไทย จะสามารถสร้างยอดขายได้เป็น อย่างดี อีกทั้งยังมีศักยภาพที่ดีพอจะก้าวขึ้นมาในตำแหน่งสาขายอดขายเบอร์หนึ่ง ของบริษัท

นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมา ในปีนี้ บริษัทยังมีความต้องการที่จะทำให้บริษัทแข็งแกร่งพอที่จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกงให้จงได้ ซึ่ง ดาโต๊ะ แสดงถึงความ มั่นใจในเป้าหมายต่างๆ ที่กล่าวมา ด้าน มร.ลีออน หยาง CEO บริษัท อีซี่ ฟาร์แม็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในการเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ อี-เฮิร์บ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมการสร้างตลาดสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งการก้าวขึ้นไปยืนเป็น 1 ใน 500 บริษัทแรกของโลก และ 1 ใน 100 บริษัทชั้นนำของเอเชีย

ในปี 2552 ที่ผ่านมา เราก้าวไป ข้างหน้าเพื่อให้บรรลุภารกิจที่สำคัญด้วยการขยายตลาดสู่ประเทศไทย ซึ่งบริษัทพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรในประเทศไทยมีมูลค่าการตลาดทั้งสิ้นถึง 3 หมื่นล้านบาทต่อปี และยังสามารถเติบโต ได้อีกไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี สิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราต้องเข้ามาทำตลาด ในประเทศไทย มร.ลีออน กล่าว

โดยงานที่บริษัทได้จัดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการ ในประเทศไทย ซึ่งอีซี่ ฟาร์แมกซ์ ได้ใช้เวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้น เนื่องจากการมองเห็น ว่าธุรกิจขายตรงในประเทศไทยมีการแข่งขันที่สูง ทำให้เรื่องของการวางรากฐานเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องทำก่อนเป็นอันดับแรก

ส่วนเป้าหมายของบริษัท คือ สาขา ไทยในปีหน้าจะต้องทำยอดขายให้ได้ 1 พันล้านบาทซึ่งทุกคนในบริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง โดย ที่สินค้าของบริษัทมีด้วยกันทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.วีตกลาส สินค้าที่มีวัตถุดิบจากต้นข้าวสาลี 2.ผลิตภัณฑ์ดีทอกซ์ ตามกรุ๊ป เลือด และ 3.สินค้าดูแลสุขภาพเฉพาะทางซึ่งในอนาคตบริษัทได้เตรียมในเรื่อง ของสินค้าใหม่ในการขนเข้ามาทำตลาดใน ประเทศไทย โดยจะเน้นไปที่ความต้องการ ของหนุ่มสาว โดยบริษัทได้เตรียมงบทำตลาด และเรื่องต่างๆ ที่ 100 ล้านบาท

ในส่วนของ นายศุภชาติ อังคสุวรรณศิริ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท อีซี่ ฟาร์แม็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากที่บริษัทได้เปิดตัวแผนการตลาดใหม่ล่าสุด ที่เรียกว่า ไฮบริด โดยเป็นแผนการ ตลาดแบบใหม่ที่บริษัท อีซี่ฯ เป็นผู้ออกแบบ โดยพัฒนาขึ้นมาจากโครงสร้างของแผนเดิม

แผนการตลาดไฮบริด เป็นแผนผสมผสานระหว่าง ไบนารี่ ระบบบาลานซ์ พีวี 1:1 (บาทต่อบาท) และระบบไซเคิล 1:2 หรือการนำเอาระบบแบบวีกสตรอง ที่ คุ้นเคยมาผสมผสานเข้ากับระบบไซเคิล ซึ่งมีจุดเด่นที่ช่วยให้สมาชิกสามารถสร้าง รายได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทได้ปรับในส่วน ของแผนธุรกิจมาเป็นแบบไฮบริด บริษัท ยังได้ออกกลยุทธ์กระตุ้นนักขายด้วยโปรโมชั่นต่างๆ อาทิ การมอบรถยนต์หรู กับนักธุรกิจที่สร้างผลงานได้ดีที่สุดในแต่ละลำดับ อีกทั้งยังมีการมอบเข็มเกียรติยศ ยกย่องนักธุรกิจของบริษัทอย่างต่อเนื่อง และยังมีทริปท่องเที่ยวประเทศฝรั่งเศสให้กับนักธุรกิจในไทย โดยในส่วนของเป้าหมาย 1 พันล้านบาทนั้น บริษัทได้วางเดือน ก.ย.ปี 56 เป็นเป้าหมายที่ยอดขายพันล้าน จะต้องปรากฏในขุมทรัพย์ของบริษัท

อนึ่ง บริษัท อีซี่ ฟาร์แมกซ์ เป็นบริษัทขายตรงที่มีฐานบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2552 โดยเพิ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2555 โดยเวลาที่ผ่านมา เพื่อเป็นการวางรากฐานให้กับบริษัท โดย อีซี่ ฟาร์แมกซ์มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลก 13 ประเทศ โดยไทยเป็นประเทศที่ 13 ซึ่งในเดือนก.ย.ปี 2556 บริษัทตั้งเป้า ที่จะทำยอดขายสาขาไทยให้ได้ 1 พันล้านบาท


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่1345 ประจำวันที่ 20-10-2012 ถึง23-10-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น