ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ชู ขายตรง (MLM) โมเดลแก้จนประเทศกำลังพัฒนา เทียบชั้น ไมโครไฟแนนซ์ / ยึด เอวอน (AVON) ต้นแบบ


เครดิตธุรกิจขายตรงขยับพรวดขึ้นทันควัน กระแสความน่าสนใจพุ่งภายหลัง มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ของประเทศอังกฤษเปิดเผยผลศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การขายเครื่องสำอางแบรนด์ เอวอน ช่วยให้ผู้หญิงจำนวนมากในประเทศแอฟริกาใต้มีความมั่งคั่งทางการเงินเพิ่มขึ้น หลุดพ้นจากความยากจน พวกเธอสามารถมีอาชีพอิสระที่สร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับครอบครัว อีกทั้งยังข่วยยกระดับสังคมและเศรษฐกิจในชุมชนด้วย


ซึ่งขณะนี้หลายธุรกิจกำลังยึดเอา โมเดลขายตรงเอวอน เป็นต้นแบบขยายธุรกิจ ลดความยากจนในประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก


ผู้หญิงแอฟริกาแห่ขาย เอวอน แก้จน รายได้พุ่งพรวดติดกลุ่มคนชั้นกลาง


ลินดา สก็อตต์ และ แคทธาลีน โดแลน อาจารย์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเจ้าของผลศึกษาข้างต้นบอกว่าพวกเอใช้เวลาถึง 3 ปีตั้งแต่ 2550-2553 เก็บข้อมูลสตรีผิวดำยากจนในแอฟริกาใต้จำนวน 300 คน ที่ทำงานเป็นนักขายของเอวอนพบว่า เกือบ 3 ใน 4 ของรายได้ของพวกเธอมาจากกายขายสินค้าเอวอน บริษัทขายตรงเครื่องสำอางอันดับหนึ่งของโลกซึ่งในปีที่ผ่นมามียอดขายมากกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ผลสำรวจระบุว่า ผู้หญิงผิวดำทั้ง 300 คนขายสินค้าของเอวอนอย่างน้อย 16 เดือนพวกเฑอมีเงินมากพอที่จะจับจ่ายซื้อสินค้าจำเป็นเพื่อใช้ประทังชีวิตของเธอและคนในครอบครัวในแต่ละเดือน หลุดพ้นจากความยากจนภาวะอดอยากที่มีมาตลอดชีวิตได้ อีกทั้งยังมีเงินเหลือเฟือเพื่อใช้จ่ายอย่างอื่นและเก็บออมได้อีก


ด้วยรายได้ของพวกเธอทำให้ เอวอนเลดี้ ในแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับการยกย่องในเอวอนติด 1 ใน 10 สตรีผิวดำที่สร้างงานด้วยตัวเอง ซึ่งจากผลสำรวจในแอฟริกาใต้ค่าเฉลี่ยรายได้ระดับกลางๆ ของพวกเธออยู่ประมาณ 110 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 3,410 บาท) แต่สำหรับที่ขายเอวอนทำรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละประมาณ 171 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,130 บาท) ทำให้พวกเธอมีรายได้ติดกลุ่มคนระดับกลางของประเทศและติดกลุ่มผู้หญิงผิวดำที่มีรายได้สูงสุดจากการสร้างอาชีพอีกด้วย


ขนานนาม ผู้เผยแพร่ลัทธิความงาม ยก ขายตรง (MLM) เหนือ ไมโครไฟแนนซ์


ผลศึกษาเรียกความกระตือรือร้นความมุ่งมั่นในการทำงานของผู้หญิงเอวอนว่า ผู้เผยแพร่ลัทธิลิปสติก หรือ ลัทธิความงาม พวกเธอเล่าประสบการณ์ความยากลำบากในการใช้ชีวิตก่อนที่จะมาเป็นนักขายเอวอนซึ่งทำให้ชีวิตพวกเธอดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น


สิ่งสำคัญคือมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยถ้าพูดถึงลิปสติกหรือเครื่องสำอาง ขายตรงทำหลายๆสิ่งที่ธุรกิจอื่นทำให้ไม่ได้ เปรียบเหมือนสถันปล่อยสินเชื่อเพื่อรายย่อยหรือไมโครไฟแนนซ์ เป็นแหล่งส้างอาชีพของคนในชุมชนที่ไม่ได้จำกัดเพศ วัย ความรู้ หรือเงินทุน อาจารย์สก็อกตต์กล่าว


อาจารย์ สก็อกตต์กล่าวว่า ผล ศึกษาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเงินทุนในการวิจัยจากสภาวิจัยเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์สังคมประเทศอังกฤษ โดยเอวอนไม่ได้เข้ามาร่วมเป็นสปอนเซอร์แต่อย่างใด อีกทั้งเอวอนไม่ได้ให้ความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับผลศึกษานี้เช่นกัน


ธุรกิจอื่นยึด โมเดลเอวอน ต้นแบบขยายตลาด สร้างงานประเทศยากจน


ธุรกิจอื่นๆ อาทิ บริษัท ลิฟวิ่ง กู๊ด ที่ตั้งอยู่ในเมืองซาน ฟรานซิสโก หยิบบืมโมเดลขายตรงของเอวอนเจาะทะลวงเข้าไปหาผู้หญิงยากจนในประเทศอูกันดาโดยเปลี่ยนจากการขายเครื่องสำอางมาเป็นการจ้างงานสตรี 900 คนสวมวิญญาณนักขายเดินเคาะประตูบ้านขาย อุปกรณ์ฉีดฆ่ายุงป้องกันโรคมาลาเรียและอุปกรณ์ทำความสะอาดเขม่าเตาหุงต้ม ซึ่งได้ผลน่าพอใจมาก


ชุค สลาจ์เธอร์ ผู้ก่อตั้งลิฟวิ่งกู๊ด กล่าวว่า เขาสมัครเป็นนักขายเอวอนในสหรัฐฯ เมื่อปี 25551 ปีเดียวกับที่เปิดบริษํท ลิฟวิ่ง กู๊ดขึ้นมา ในบทบาทของการเป็นนักขายเอวอนเขาจะขายสินค้าเครื่องสำอางต่างๆ ให้กับภรรยา และ เพื่อนๆของเธอ ซึ่งเขาค้นพบว่าโมเดลายตรงสามารถที่จะนำไปปรับใช้กับธุรกิจของเขาได้


ขายตรงไม่ใช่เพียงการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเครือข่ายนักธุรกิจของเราเท่านั้น แต่ยังสามารถให้ชีวิตที่ดีขึ้นกับลูกค้าของเราด้วย ในประเทศเกิดใหม่ต่างๆ โมเดลขายตรงเหมาะที่จะเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับประชาขนมากกว่าในประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปเสียอีก ขายตรงสามารถที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนั้นๆ เปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน


เอวอนค้นพบลู่ทางที่เจาะเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ที่คนอื่นไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่านทางโมเดลขายตรงชั้นเดียวที่ครองอันดับหนึ่งในโลกขายตรงเครื่องสำอางอยู่ในขณะนี้ โดยเอวอนมีการจ้างงานผู้หญิงจำนวนมากเพื่อเป็นเครือข่ายนักขายกระจายสินค้าเครื่องสำอางเข้าไปยังชุมชนต่างๆ ซึ่งสร้างยอดขายจำนวนมากให้กับบริษัท ส่วนใหญ่รายได้ของเอวอน มากจากภูมิภาคละตินอเมริการวมถึงยุโรปตะวันตกและแอฟริกา ซึ่งทำรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น 13.5% ในปีที่ผ่านมา


โมเดลขายตรงส่งเสริมให้เกิดนักธุรกิจใหม่ๆขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มสตรียากจน เป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่ช่วยลดความยากจน อาจจะคล้ายกับ ไมโครไฟแนนซ์ ที่เป็นการปล่อยกู้ให้กับคนรากหญ้าได้เงินทุนที่จะเริ่มสร้างธุรกิจเพื่อยกระดับชีวิตของคนกลุ่มนี้ แต่ขายตรงเป็นช่องทางที่ทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่า ที่สำคัญไม่ได้ก่อให้เกิดภาระหนี้สิน


แอนนี่ ดัฟโล กรรมการบริหาร Innovations for Poverty Action องค์กรที่ไม่แสวงกำไรกล่าวว่า ไมโครไฟแนนซ์ให้ผลด้านบวกกับผู้กู้ ทำให้มีแหล่งเงินกู้ไปใช้ในการทำธุรกิข ลดปัญหาในเรื่องของการขัดสนเงินทุนในระยะสั้น แต่ไม่มีอำนาจมากพอที่จะลดความยากจนของคนหมู่มากได้เมื่อเทียบกับขายตรงส่วนใหญ่ของคนที่มาขอสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์มุรกิจที่อยากกู้อยู่แล้วซึ่งเงินกู้ที่ได้อาจจะทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์กับธุรกิจของเขาได้


เมื่อเทียบกับขายตรง ทางสก็อตต์ กล่าวว่า ขายตรงน่าจะให้ประโยชน์กับผู้หญิงมากกว่านอกจากจะทำให้เธอมีรายได้แล้ว ยังทำให้มีเงินมากพอที่จะปล่อยกู้ สร้างเครือข่ายและพัฒนาทักษะงานด้านอื่นๆได้ด้วย เป็นช่องทางที่จะลดความยากจน โดยเฉพาะในแอฟริกาใต้และประเทศพัฒนาอื่นๆ โมเดลขายตรงน่าจะเป็นรูปแบบที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของชุมชน


สำหรับผลประกอบการของเวอนในไตรมาสที่สองที่ผ่านมา มีรายได้ 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 ดอลลาร์ประมาณ 31 บาท) ลดลง 9% เมื่อคิดเป็นสกุลท้องถิ่นหากคิดเป็นเงินดอลลาร์ลดลง 1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 2,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์ในตลาดหุ้นคาดการณ์กันไว้ที่ประมาณ 2,680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำไรสุทธิลดลงถึง 70% หรือคิดเป็นมูลค่า 61.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐเทียบกับช่วงที่ผ่านมาที่ทำให้ 206.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ธุรกิจเครือข่ายขายตรงฉบับที่ 238 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-31 ตุลาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น