ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ขายตรงโลกฉลุย! ผ่านหลัก 1.5 แสนล้าน นักขายเฉียด 100 ล้านคน / เอเชีย มาร์เก็ตแขร์เพิ่ม


สมาพันธ์สมาคมการขายตรงโลก (World Federation of Direct Selling Association : WFDSA) เปิดผลงานอุตสาหกรรมขายตรงโลก ค.ศ. 2011 หรือปี 2554 มียอดขายทั้งสิ้น 153,727 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 ดอลลาร์สหรัฐประมาณ 31 บาท) เพิ่มขึ้น 16.26% เทียบกับปี 2553 ที่มียอดขาย 132,222 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักธุรกิจอิสระหรือนักขายมีจำนวนถึง 91,533,825 คน เพิ่มขึ้น เกือบ 4 ล้านคน


เอเชีย ตอดส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขยับเป็น 44% ยอดขายกว่า 6 หมื่นล้าน


เอเชีย แปซิฟิกยังคงรักษาความเป็นผู้นำ ครองดันดับหนึ่งภูมิภาคที่มีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) มากที่สุดในตลาดโลกด้วยส่วนแบ่งตลาด 44% เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับปี 2553 โดยมียอดขายรวม 66,871 ล้านดอลลาร์สหรัฐนักขาย 52,007,014 คน
รองลงมาคืออเมริกา (รวมสหรัฐอเมริกา) มียอดขาย 60,429 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแบ่งตลาด 39% นักขาย 26,774,908 คน
อันดับสามยุโรป ประกอบด้วยยุโรปตะวันตก , ตะวันออก และตอนกลาง มียอดขาย 32,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแบ่งตลาด 21.31% นักขาย 20,118,985 คน
อันดับสี่ละตินอเมริกาประกอบด้วยอเมริกากลางและอเมริกาใต้ มียอดขาย 28,336 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแบ่งตลาด 18.43% นักขาย 10,439,086 คนและภูมิภาคสุดท้ายคือแอฟริกาและตะวันออกกลางมียอดขาย 1,431 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนแบ่งตลาด 1% ไม่มีข้อมูลจำนวนนักขาย


ท็อปเทน ยอดขายเพิ่ม 13% เกาหลี ขึ้นที่ 4 แซงบราซิล


สำหรับผลงานในกลุ่มประเทศที่มียอดขายสูงสุด 10 อันดับ TOP TEN มียอดขายรวมกัน 117,031 ล้านบาทส่วนแบ่งตลาด 76% โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 13% เทียบกับปี 2553 ที่มียอดขาย 103,877 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็จริงแต่ส่วนแบ่งตลาดในปี 2554 น้อยกว่า ปี 2553 ที่มีสัดส่วนถึง 79% อจจะเนื่องจากตลาดขายตรงมีขนาดใหญ่ขึ้นและประเทศลำดับรองลงไปสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ ซึ่งทั้ง 10 ประเทศมาจาก เอเชีย 3 ประเทศ ยุโรป 4 ประเทศ ละตินอเมริกา 2 ประเทศ และ อเมริกา 1 ประเทศ


ที่น่าสนใจในกลุ่มประเทศผู้นำ 10 อันดับเกือบทุกประเทศมียอดขายเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น แต่อีกหลายประเทศมีมาร์เก็ตแชร์ลดลงทั้งที่ยอดขายเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการสลับตำแหน่งกันอยู่หลายดันดับทีเดียวโดย
อันดับหนึ่งยังคงเป็นสหรัฐอเมริกามียอดขาย 29,870 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 4.6% ส่วนแบ่งตลาด 20% ลดลง 2% เทียบกับปี 2553 จำนวนนักขาย 15,600,000 คน
อันดับสองญี่ปุ่น มียอดขาย 23,857 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.25% ส่วนแบ่งตลาด 16% ลดลง 1% จากปี 2553 จำนวนนักขาย 3,380,000 คน
อันดับสามจีน มียอดขาย 16,254 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.81% ส่วนแบ่งตลาด 11% เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับปี 2553 จำนวนนักขายยังคงไม่มีข้อมูล
สำหรับอันดับสี่และห้า เป็นการสลับตำแหน่งกันระหว่างเกาหลีใต้และบราซิล โดยเกาหลีได้สร้างผลงานได้โดดเด่นจนแซงบราซิลขยับขึ้นมาอยู่อันดับสี่ได้สำเร็จด้วยยอดขาย 12,935 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 45.63% ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 8% นักขาย 4,200,853 คน ขณะที่บราซิลตกจากอันดับสี่ไปอยู่ดันหับห้าแทนด้วยยอดขาย 11,972 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.57% ส่วนแบ่งตลาด 8% เท่าเดิม นักขาย 2,832,654 คน


ท้ายกลุ่มแย่งอันดับอุตลุต ฝรั่งเศส โตสูงสุดเกิน 100%


อันอับหกยังคงเป็นเจ้าเดิมคือ เม็กซิโก มียอดขาย 6,311 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.09% ส่วนแบ่งตลาด 4% เท่าเดิม นักขาย 2,200,000 ล้านคน
อันดับเจ็ดฝรั่งเศส กระโดดขึ้นมาจากอันดับสิบ ด้วยยอดขาย 5,139 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 114.39% หรือ กว่าเท่าตัวส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 3% นักขาย 480,000 คน
อันดับแปด เยอรมัน หล่นลงไปจากอันดับเจ็ดมียอดขาย 3,743 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1% ส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 3% เหลือ 2% นักขาย 284,906 คน
อันดับเก้า รัสเซีย หล่นจากอันดับ เจ็ดมียอดขาย 3,589 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.06% ส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 3% เหลือ 2% นักขาย 4,077,181 คน
อันดับสิบ อิตาลี หล่นจากอันดับเก้ามียอดขาย 3,364 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.89% ส่วนแบ่งตลาด 2% เท่าเดิม นักขาย 405,894 คน


เครื่องสำอาง / เพอร์ซันนัลแคร์ แรงสุด ลดน้ำหนักจี้ติดส่วนแบ่งตลาดเพิ่มอีก


ผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายมากที่สุดยังคงเป็นกลุ่มเดิมคือกลุ่มเครื่องสำอางและเพอร์ซันนัล แคร์ มีส่วนแบ่งตลาด 30% ลดลงจากปี 2553 ที่มีสัดส่วน 36% ขณะที่ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการลดน้ำหนักที่มีส่วนแบ่งตลาดตามมาเป็นอันดับสองที่ 25% เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่มีสัดส่วน 22% ตามมาด้วยเครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าคงทน 17% ลดลง 1% เสื้อผ้าและเครื่องอันดับ 9% เพิ่มขึ้น 1% หนังสือ ของเล่น เครื่องเขียน อาหาร เครื่องดื่ม บริการทางการเงินอย่างละ 3% อย่างไรก็ดี หากเจาะเป็นภูมิภาคจะแตกต่างกันไปหากเป็นเอเชีย แปซิฟิก ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนแล่งตลาดมากที่สุดคือลดน้ำหนัก 34% รองลงมาคือเครื่องสำอางและเพอร์ซันนัล แคร์ 28% เครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าคงทน 16% ส่วนเสื้อผ้าและเครื่องประดับ หนังสือประเภทละ 4% ส่วนอเมริกา เครื่องสำอาง และ เพอร์ซันนัล แคร์ ครองอันดับหนึ่งส่วนแบ่งตลาด 29% ลดน้ำหนัก 21% เสื้อผ้าและเครื่องประดับ สินค้าภายในบ้าน 17%


ยุโรปตะวันตก เครื่องสำอางและ เพอร์ซันนัล แคร์ ครองอันดับหนึ่งเช่นกัน ส่วนแบ่งตลาด 36% รองลงมาเครื่องใช้ภายในบ้าน 16% และลดน้ำหนัก 14% ขณะที่ยุโรปตะวันออก สินค้าขายดียังคงเป็นเครื่องสำอางและเพอร์ซันนัลที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงมากถึง 79% รองลงมาคือลดน้ำหนัก 11% เครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้าคงทน 6% ละตินอเมริกา เครื่องสำอาง และเพอร์ซันนัล แคร์ครองอันดับส่วนแบ่งตลาด 49% รองลงมาคือเสื้อผ้าและเครื่องประดับ 24% และลดน้ำหนัก 15%


ผู้หญิง-โมเดล MLM 2 หัวหอกกุมอนาคตขายตรงโลก


ส่วนนักขาย แกนหลักยังคงเป็นผู้หญิงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีก 1% เป็น 75% ของนักขายทั้งหมด ที่เหลือเป็นผู้ชายแผนการตลาดที่ได้รับความนิยามมากที่สุดในธุรกิจขายตรงทั่วดลกยังคงเป็นระบบเครือข่ายหลายชั้น (MLM) กุมส่วนแบ่งตลาด 56% ของยอดขายทั้งหมด ลดลง 1% เทียบกับปี 2553 ขณะที่ขายตรงชั้นเดียว (SLM) มีส่วนแบ่งตลาด 42% เพิ่มขึ้น 2% อีก 2% เป็นรูปแบบอื่นๆ ส่วนวิธีการเสนอขายเป็นแบบบุคคลต่อบุคคล 77% อีก 29% เป็นแบบปาร์ตี้ ที่เหลือเป็นรูปแบบอื่นๆ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:นสพ.ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ฉบับที่ 234 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-31 สิงหาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น