ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวซินเนอร์จี้ เวิล์ดไวด์ (Synergy Worldwide) : บทสัมภาษณ์ เจาะลึกกับ คุณ ศุภพงศ์ จันทรวีระกุล


ตลาดน่าจะคึกคักมากขึ้น เพราะมีบริษัทใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายบริษัททำให้การ แข่งขันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี แต่ทั้งนี้ต้องฝากให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบบริษัทเหล่านี้เพราะบางทีมีหลายบริษัทที่เปิดดำเนิน ธุรกิจแบบไม่ถูกต้อง และก็ทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงเสียไปด้วย

เป็นอีกหนึ่งบริษัทขายตรงจากแดนมะกัน ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยแล้ว หลายปี แม้ว่าที่ผ่านมาจะเจอมรสุมจนแทบตั้งรับไม่ทัน แต่มาวันนี้ ซินเนอร์จี้ ภายใต้การนำ ของ ศุภพงศ์ จันทรวีระกุล ที่เริ่มอยู่ตัวและเป็นไปในทิศทางที่ดีแม้ว่าธุรกิจจะค่อยเป็น ค่อยไป และไม่หวือหวาเหมือนบริษัทอื่นๆ แต่ก็ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งวันนี้หัวเรือใหญ่ได้มา ประกาศแผนว่าจากนี้ไปจะขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางใด

ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง
ครึ่งแรกของปีธุรกิจเป็นที่น่าพอใจ เพราะบริษัทสามารถทำยอดขายได้เกินเป้า 5% จากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 180 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทไปถึงเป้าหมายได้นั้นมา จากการสั่งซื้อสินค้าของกลุ่มผู้บริโภคที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปกติที่มียอด สั่งซื้อเฉลี่ย 4,000-5,000 บาทต่อรหัส ปัจจุบันเพิ่มเป็น 6,000 บาท

ที่ผ่านมาบริษัทได้จัดโปรโมชั่นให้แก่สมาชิกที่ต้องการรักษายอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง โปรโมชั่นนี้จะเป็นโปรโมชั่น 6 เดือนและ 12 เดือน กล่าวคือ ถ้าสมาชิกรักษายอดติดต่อกัน จนครบ 6 เดือน จะได้รับสินค้าพิเศษเพิ่ม และเมื่อรักษาครบ 12 เดือน จะได้รับโบนัสเพิ่ม 1-3% โดยโปรโมชั่นนี้การสั่งซื้อแต่ละครั้งต้องมีคะแนน 80 คะแนนขึ้นไป อีกหนึ่งสาเหตุ คือ คุณภาพของสินค้าที่ผู้บริโภคหรือสมาชิกได้ซื้อไปใช้แล้วเห็นผล ทำให้ เกิดการซื้อซ้ำ โดยสินค้าที่มียอดขายสูงสุดในขณะนี้ คือ Pro Agi-9 ซึ่งเป็นสินค้าที่สามารถ ทำยอดขายได้ถึง 40% จากสินค้าทั้งหมด และมีสินค้า อีกหนึ่งตัวที่กำลังได้รับความนิยมคือ Noni Blend (น้ำลูกยอ) ที่บริษัทเพิ่งปรับสูตรใหม่ เป็นสินค้า ที่ติดอันดับ Top 5 สินค้าขายดีอีกด้วย

ปีนี้จะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่ม หรือไม่
ในเร็วๆ นี้บริษัทจะมีสินค้าออก ใหม่อีก 1 ตัว เป็นโอเมก้า 3 สินค้าตัวนี้ เป็นการพัฒนามาจากน้ำมันปลาตัวเดิมของ บริษัทที่มีฐานลูกค้าอยู่พอสมควร และได้รับ การยอมรับจากสมาชิกเป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้ โอเมก้า 3 ตัวนี้ ได้รับการตรวจสอบจากสำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นที่ เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังมี แผนที่จะทำตลาดสินค้า ในกลุ่ม เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก แต่ทั้งนี้ต้องใช้เวลา เนื่องจากเป็นสินค้าที่มี สูตรเฉพาะของ ซินเนอร์จี้ต้องผ่านกระบวนการการตรวจสอบหลายขั้นตอนจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง

ครึ่งหลังบริษัทได้วางแผนการตลาดไว้อย่างไรบ้าง
ครึ่งหลังบริษัทได้วางแผนที่จะประชาสัมพันธ์มากขึ้น ล่าสุดบริษัทได้ทำรายการทีวี เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ผ่านทรูวิชั่น ช่อง TNN ซึ่งบริษัทใช้งบประมาณกว่า 1 ล้านบาท ในการทำรายการดังกล่าว ขณะนี้รายการได้เริ่มออกอากาศไปแล้วประมาณเดือน กว่าๆ นอกจากบริษัทยังได้จัดตั้งแผนกขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งแผนก เพื่อเป็นการฟอร์มทีมงาน ขึ้นมาใหม่ โดยทีมงานนี้จะเป็นทีมงานของคนที่รักสุขภาพและต้องการที่จะมีรายได้เสริม แต่ทั้งนี้ต้องเป็นบุคคลที่ไม่เคยผ่านธุรกิจเครือข่ายมาก่อน ทั้งนี้ บริษัทไม่ต้องการที่จะไป รีครูตบุคคลจากที่อื่นเข้ามา

คาดว่าแผนกใหม่นี้จะช่วยบริษัทได้อย่างไรบ้าง
คาดว่าเมื่อแผนกนี้จัดตั้งขึ้นอย่างสมบูรณ์ บริษัทจะสามารถขยายฐานของสมาชิก กลุ่มใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น และเพื่อเป็นการป้องกันบุคคลที่แอบแฝงเข้ามาในวงการ เพราะถ้า เป็นคนในวงการเครือข่ายก็จะเวียนวนไปตามบริษัทต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ทำให้เป็นเรื่องยุ่งยาก ในการดูแล แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่เคยทำมาก่อนจะดูแลง่ายกว่า โดยบริษัทได้วางเป้าหมายภายใน 3 ปี จะต้องมีสมาชิกกลุ่มคนรักสุขภาพที่ไม่เคยทำธุรกิจเครือข่ายมาก่อนไม่น้อยกว่า 30% ของสมาชิกทั้งหมด

เป้าหมายในปีนี้วางไว้อย่างไร
ถ้าในส่วนของยอดขายบริษัทได้วางเป้าไว้ที่ 500 ล้านบาท ส่วนของรายได้บริษัท มีความตั้งใจที่จะมีสมาชิกที่รับรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน 50 คน และเป้าหมายที่จะมี สมาชิกใหม่ 20,000 รหัส

ตอนนี้มีการจัดโปรโมชั่นท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง
ขณะนี้บริษัทได้จัดโปรโมชั่นท่องเที่ยวต่างประเทศ 2 โปรโมชั่น ได้แก่ โปรโมชั่น ราย 3 เดือน จะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศสิงคโปร์ และรายปี ไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และฝรั่งเศส

มองภาพรวมของตลาดธุรกิจเครือข่ายอย่างไร
ตลาดน่าจะคึกคักมากขึ้น เพราะมีบริษัทใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายบริษัททำให้การแข่งขัน เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี แต่ทั้งนี้ต้องฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ บริษัทเหล่านี้ เพราะบางทีมีหลายบริษัทที่เปิดดำเนินธุรกิจแบบไม่ถูกต้อง และก็ทำให้ ภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงเสียไปด้วย

มีความคิดเห็นอย่างไรกับการที่ สคบ. ต้องการให้บริษัทขายตรง มีตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภค
นโยบายการใช้ตราสัญลักษณ์นับว่าเป็นความคิดที่ดี และเป็นการแสดงออกถึงการ ใส่ใจต่อผู้บริโภค แต่เหมือนเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อนกับ อย. แต่ถ้าจะให้ดี สคบ. และ อย. ควรทำงานร่วมกันและเข้มงวดตั้งแต่ทีแรก ควรดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่ใช่มาดูแลที่ปลายน้ำ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.เดอะ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค ฉบับที่ 205 วันที่ 16 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น