ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มิลค์กี้เวย์ เน็ตเวิร์ค(Milky Way Network): สัมภาษณ์เปิดวิสัยทัศน์และแนวคิดใหม่กับท่านประธาน สุมิตร วชโรดมทรัพย์


วันนี้เว็บไซต์ไทยเอ็มแอลเอ็มนิวส์ดอทคอม(www.thaimlmnews.com) ได้มีโอกาสเข้ามาสัมภาษณ์ประธานกรรมการบริษัท ขายตรงน้องใหม่มาแรง มิลย์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค(Milky Way Network)คุณสุมิตร วชโรดมทรัพย์ ที่เพิ่งเปิดตัวก็ทำ Break Event ไปแล้ว ซึ่งทางทีมงาน ไทยเอ็มแอลเอ็มนิวส์ ยืนยันว่าแนวคิดท่านไม่เหมือนใครและมีมุมมองที่กว้างไกลมากๆ ท่าใครอยากรู้อ่านกันได้เลย


ความเป็นมาของทางมิลย์กี้เวย์เน็ทเวิร์คมีความเป็นอย่างไรบ้างครับ


มิลย์กี้เวย์ เน็ทเวิร์ค เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 ที่ผ่านมาและตั้งเป้าที่จะทำเป็นบริษัทตัวอย่างที่ทำธุรกิจเครือข่ายอย่างแท้จริง วัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักของเราก็คือการสร้างแบรนด์ธุรกิจเครือข่ายของคนไทย ให้เป็นศูนย์รวมของสมาชิกคนไทยทั้งหมดเข้ามาใช้บริการเป็นหลักและมองว่าธุรกิจเครือข่ายของเราเป็นเพียงโปรดักส์หนึ่งที่จะส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ เท่านั้น


ทำไมท่านประธานสุมิตรถึงคิดเข้ามาสู่วงการธุรกิจเครือข่ายได้


ทางประธานสุมิตรมีความเห็นว่า "คำถามคำถามนี้ ผมมองว่าท่ามองในมุมบริหารและนักการตลาด จะมองว่าเป็นคำถามที่คนยังไม่เข้าใจในระบบการทำธุรกิจ เพราะว่าจริงๆ แล้วคำว่าธุรกิจเครือข่ายมันก็คือโปรดักส์ ตัวหนึ่งเท่านั้น ท่าหากมองในมุมนักการตลาดจริงๆ แล้ว มันง่ายมากในการทำ แต่ที่สำคัญคุณบริหารธุรกิจเป็นหรือไม่ นี่คือโจทย์ที่จะต้องตอบให้แก่สมาชิกทุกคนที่เคยมีความคิดผิดๆ ว่าคนที่จะมาทำธุรกิจเครือข่ายต้องรู้เรื่องเครือข่ายมันไม่จำเป็นเสมอไป คนที่จะมาทำงานด้านธุรกิจเครือข่ายนั้นต้องนักบริหารที่เป็นและเป็นนักการตลาดที่ถูกต้องกับโปรดักส์ นั้น วันนี้ผมมาทำธุรกิจเครือข่ายผมมองว่าธุรกิจนี้เป็นเพียงโปรดักส์ โปรดักส์หนึ่งเท่านั้น ส่วนวิธีการทำให้โปรดักส์ส่วนนี้ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมนั้น ต้องทำอย่างไรนี่คือหน้าที่ของผู้บริหารอย่างผมที่จะต้องตีโจทย์ตรงนี้ให้แตก และในส่วนประวัติการทำธุรกิจของผมที่ผ่านมานั้น ล้วนประสบความสำเร็จมาตลอด เพราะฉะนั้นจะมองเห็นว่าคนทำธุรกิจเครือข่ายเข้าใจผิดมาเยอะว่าผู้บริหารต้องเคยผ่านงานเครือข่ายมาก่อน แต่ผมมองว่าไม่จำเป็นที่สำคัญคือต้องเข้าใจถึงธุรกิจเครือข่ายมากกว่าแต่ในความรู้ลึกซึ้งในธุรกิจตัวนี้คุณไม่สามารถเข้าใจได้จนหมด แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเรียนรู้กับมันได้มากน้อยขนาดไหนและนำไปปรับใช้ว่าคุณจะทำการตลาดกับโปรดักส์ตัวนี้อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ท่าสำเร็จแสดงว่าคุณมีความใจในหลักของการบริหารธุรกิจ แต่ท่าไม่ประสบความสำเร็จนั้นมีหลายปัจจัยแต่ปัจจัยหลักๆ ที่คนส่วนใหญ่มักพลาดตกม้าตายกันนั้น คือมีความรู้ด้านธุรกิจเครือข่ายจริง แต่กับบริหารธุรกิจไม่เป็นมองกลยุทธ์การตลาดไม่ขาดก็เลยไม่พบความสำเร็จ แต่ในจุดนี้ของบริษัท มิลค์กี้เวย์ บอกได้เลยว่าเราเข้าใจมันทั้งหมด ตรงนี้เรากล้าพูดได้เลยว่า เพราะผมมองว่าธุรกิจตัวนี้เป็นเพรียงแค่โปรดักส์หนึ่งเท่านั้น"


เพราะเหตุใดจึงไม่นำตลาดแบบ Single และเป็น Mass Product มาใช้ในส่วนของบริษัทนี้


การทำตลาดแบบซิงเกิ้ล กับการทำตลาดแบบเครือข่ายนั้นสุดท้ายจุดหมายสำคัญก็อยู่ที่จุดเดียวกันนั่นก็คือตัวผู้บริโภคนั่นเอง เพียงแต่ว่าจะเข้าหาตัวผู้บริโภคด้วยกลยุทธ์ไหนเพียงเท่านั้นเอง สุดท้ายแบบตลาดซิงเกิ้ลกับตลาดแบบเครือข่ายนั้น ผู้ประบริหารหรือนักการของทั้งสองฝั่งจะทำอย่างไรให้สินค้าของเรานั้นเข้าถึงมือผู้บริโภคให้ได้เร็วที่สุดและมีคุณภาพที่สุดเพียงเท่านั้นเอง และมันคือการสร้างโอกาสทางรายได้ให้คนนั้นตลาดซิงเกิ้ลก็ทำได้น้อยกว่าแต่กลับกันธุรกิจเครือสามารถทำรายได้ให้คนธรรมดาที่มุ่งหวังในรายได้และมอบสิ่งที่ดีให้แก่ผู้อื่น สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำนั่นเอง


ท่านประธานสุมิตรมั่นไม่หวั่น AEC


ตรงนี้ต้องกล่าวก่อนตัวผมนั้นมีประสบการณ์ในการส่งออกสินค้าเป็นอย่างดี เพราะผมทำธุรกิจด้านนี้มาทั้งชีวิตตั้งแต่ทำงานมา แต่ในส่วนนี้จริงอยู่ที่มันยังไม่เกิดแต่ในตัวผมนั้นเคยผ่านประสบการณ์สนามพวกนี้มาเยอะมากแล้วไม่ว่าจะเป็น AFTA หรือ อื่นๆ อีกมากมายผมว่าทางมิลย์กี้ เวย์ คงไม่ต้องทำอะไรมากมายเพราะปัจจุบันทางผมก็ทำอยู่แล้วเป็นชีวิตประจำวันกับการค้าระหว่างประเทศผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก เพราะมีเพรียงเรื่องการขนส่ง เรื่องของภาษี เรื่องของการส่งเสริมเท่านั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถว่าคุณจะไปหาผลประโยชน์จากส่วนนี้ได้มากแค่ไหน ผมขอบอกว่าคนจะทำตลาดส่งออกทำไมจะต้องมานั่งรอเรื่องนี้ เรื่องพวกนี้คุณต้องช่วยตัวเองก่อนต่อให้เขาช่วยคุณจนสุดความสามารถแต่ท่าคุณไม่มีองค์ความรู้ในการทำให้องค์กรคุณพร้อมในการส่งออกไปต่างประเทศและไม่เข้าใจวัฒนธรรมของแต่ละประเทศคุณก็ไม่มีความสามารถในการทำให้มันประสบความสำเร็จได้


กังวัลไหมครับที่ผู้ลงทุนต่างประเทศจะมาตีตลาดเราได้


ผมอยากจะบอกว่าปัจจุบันนี้ก็มีอยู่แล้ว แล้วถามว่าเขาเข้ามาในรูปแบบไหน คนที่เข้ามาลงทุนจริงสร้างแบรนด์จริงมีเพียงไม่กี่บริษัทนอกนั้นก็มาแบบฉาบฉวยซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตลาดต่างประเทศนั้นจะได้เปรียบอยู่ หนึ่ง คือแบรนด์ อิมเมจ แต่ว่าเขาจะมาหาผลประโยชน์ในเมืองไทยเรานั้นได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการบริหารของแต่ผมมองว่าอย่างไรก็ตามคนไทยก็จะได้สิทธิ์มากกว่า สรุปก็คือต้องต่อสู้ด้วยกำลังและปัจจัยในการต่อสู้กันเพื่อโหมกระแส


เครื่องมือทางการตลาดที่จะใช้เป็นอาวุธแก่ทางสมาชิกของมิลย์กี้ เวย์


เราใช้ปัจจัยทางราคาตามท้องตลาดมาเป็นเครื่องมือช่วยโดยให้สุขภาพที่ในราคาที่เหมาะ โดนไม่อัพราคาเยอะเกินจริงอย่างที่เจ้าอื่นๆ มักจะใช้กัน เรากำหนดราคาที่เหมาะสมและมอบสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้บริโภคโดยประโยชน์จากสินค้าเรานั้นก็ไม่แพ้แบรนด์ดังๆ ที่ขายราคาแพงเลยแม้แต่นิดเดียว ส่วนที่สองคือแผนการจ่ายผลตอบแทนคือของเราจะไม่ทำกลไกลไม่ให้ยากและเข้าใจง่ายทำจริงได้จริงไม่มีหมกเม็ดทั้งสิ้น และทางเราจะไม่ใช้โปรโมชั่นในการลดสินค้าแถมสินค้ามาเป็นตัวกระตุ้นอย่างที่ค่ายอื่นๆ นั้นใช้กันเป็นประจำ ทางเราจะทำทุกวิถีเพื่อให้ทางสมาชิกได้รับสิทธิ์ประโยชน์อย่างเต็มที่เพราะผมมองว่าหากทีมงานอยู่ไม่ได้แล้วบริษัทจะอยู่ได้อย่างไรเราเล็งเห็นถึงจุดนี้เป็นมากที่สุด แ ละเราใช้สื่อทุกสื่ออย่างแน่นอนแต่ขึ้นอยู่แต่โอกาส


ถามท่านประธานถึงความยากง่ายในการบริหารธุรกิจเครือข่ายกับธุรกิจทั่วตรงนี้อยากทราบว่ามีความยากง่ายต่างกันไหมครับ


ทุกธุรกิจที่เราเข้ามาทำเราต้องเข้าใจถึงสินค้าก่อนเป็นอันดับแรก สินค้าก็คือ P ที่ Product พอเราเข้าใจสินค้าของเรา เราก็จะสามารถต่อยอดไปถึงหลัก 5 P ได้คือ 1. Product 2. Potential market 3. Point in Time 4. Plan 5. Promotion ซึ่งวันนี้ผมเข้ามาเพื่อปรับใน P1 และต่อยอดไปถึงขั้นตอนอื่น ซึ่งก็ไม่ยากสำหรับตัวผมเลย และจริงๆ แล้วคอนเซ๊ป ของผมจะต่างจากบริษัทอื่นๆ ค่อนข้างเยอะ เป้าหมายของผมคือการทำให้คนที่เข้ามาร่วมธุรกิจกับผมรู้สึกมีความปลอดภัย ปลอดภัยในที่นี้ไม่ได้หมายถึงพอมีพอใช้ แต่ในความหมายนี้คุณอาจรวยจนรู้สึกปลอดภัยก็ได้ และทางมิลย์กี้ เวย์ ก็จะให้ความปลอดภัยอีกอย่างคือพอคุณประสบความสำเร็จคุณสามารถมีความปลอดภัยอีกอย่างคือมั่นใจได้ว่ามิลย์กี้ เวย์ จะอยู่คู่กับคุณก้าวเดินไปกับคุณอย่างมั่นคง เพราะอย่างงี้ทางมิลย์กี้ เวย์ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้สนใจร่วมธุรกิจเข้ามาร่วมกับเราอย่างมากมาย ซึ่งคอนเซ๊ปของผมไม่ใช่คอนเซ๊ปที่ขายฝันเลย


ในมุมมองของท่านประธานคิดว่าขายตรงถึงขั้น Red Ocean แล้วหรือยังครับ


ตรงนี้ผมมองว่าบางคนอาจคิดวิตกกังวลว่าขายตรงบ้านเราเข้าไปสู่จุดนั้นแล้วแต่ในความคิดผมไม่เลยแม้แต่น้อย ซึ่งตอนนี้คนลงมาทำตลาดบ้านเราเยอะมาก แต่ผมกับมองกลับกันว่าผมอยู่อย่างโดดเดี่ยวใน White Ocean ซึ่งไม่ได้มีใครมาแข่งอะไรกับผมเลย คือผมแข่งกับตัวผมเองคนเดียวคู่แข่งอยากทำอะไรทำไปเพราะอะไรถึงผมคิดแบบนี้ ต่อให้คู่แข่งประสบความสำเร็จแบบสุดยอด หรือจะล้มเหลวไม่เป็นท่ามันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจของผมทั้งนั้น แต่เวลามิลย์กี้ เวย์ ก้าวเดินไปในตลาดเครือข่ายนั้นใช่ว่าจะเดินเพียงลำพังเพียงคนเดียวแต่มิลย์กี้ เวย์ พยายามร่วมเดินไปกับค่ายอื่นๆ ที่มีอุดมการณ์เดียวกันมากกว่า และที่นี่ให้ความสำคัญกับวัตณธรรมองค์กรมากเหมือนกับการบริหารธุรกิจท่าหากคุณติดกระดุมเม็ดแรกผิดเม็ดต่อๆ ไปคุณก็จะผิดตลอดและจะต้องกับมาแก้ที่จุดเริ่มต้นใหม่ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มุ่งนำผลประโยชน์มาเป็นที่ตั้งแต่เราจะมุ่งมั่นกับคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันก่อนเพราะท่านำคนเข้าต่างอุดมการณ์เข้ามาร่วมท่าเยอะๆ เข้าในไม่ช้าก็จะทำให้องค์กรไปไม่รอด และคำพูดผมไม่ใช่คำพูดที่ฟังดูสวยหรูแต่ทำจริง คุณเคยเห็นบริษัทขายตรงร่วมจับมือกันแล้วหรือยัง เชื่อไม่เชื่อเราทำ Opp ร่วมกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งไม่มีใครเขาทำกันซึ่งทำมาได้ 3 เดือนแล้ว เราอย่ามองว่าขายตรงเจ้าอื่นๆ คือคู่แข่งของคุณแต่คุณต้องมองให้เป็นพันธมิตรที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน อย่างเช่นตอนผมทำงานส่งออกผ้าไหมผมไม่เคยมองว่าผู้ส่งออกรายอื่นคือคู่แข่งแม้แต่น้อยอย่างน้อยใหม่เข้ามาในตลาดเราก็จะร่วมจับมือช่วยเหลือเกื้อหนุน จับมือกันให้แน่นเข้าไว้ทุกสิ่งทุกอย่างจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนผมอยากขอเล่าย้อนกับไปถึงสมัยพึ่งมี พรบ. ขายตรงออกมาส่วนแบ่งทางการตลาดนั้นอยู่ราว 65,000 ล้าน 75,000 ล้านบาท และวันนี้ผมมั่นใจว่าสถิติขายตรงมากกว่า แสนล้านไปแล้ว อัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ 10-15% ต่อปีขนาดปีที่น้ำท่วมก็ยังโตแต่อาจไม่โตแรงเท่าปีอื่นๆ เพราะฉะนั้นจะเกี่ยวโยงถึงกรณี Red Ocean ก็ต่อเมื่อผ่านพ้นไปซัก 20 ปี เพราะว่าการเติบโตของตลาดได้หยุดลง จะยกตัวอย่างที่เป็น Red Ocean คือประเทศญี่ปุ่นที่คน คนหนึ่งถือกรมธรรม 1-3 ฉบับ อย่างงี้ถือว่าเข้าขั้นวิกฤษอย่างแท้จริง ซึ่งประเทศไทยยังห่างไกลกับจุดนี้ค่อนข้างมากแต่ตรงนี้ขึ้นอยู่กับการให้องค์ความรู้คนด้วย


มิลย์กี้ เวย์ ในตลาดซิงเกิ้ล


สินค้าที่มีตลาดซิงเกิ้ลนั้น วันนี้เราขายสินที่ถูกมากๆ ถูกกว่าตามท้องตลาดทั่วไปค่อนข้างเยอะ ซึ่งโอกาสที่เราจะเจอการตัดราคานั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่เรายุทธวิธีในการใช้ตลาดเครือข่ายซ้อนซิงเกิ้ลซึ่งสามารถนำสินค้านี้ไปวางไว้ตามที่จำหน่ายได้โดยมีส่วนต่างที่จะได้รับเข้ามาอีกครั้งหนึ่งซึ่งเหมาะสำหรับคนขายมากๆ


แผนเรื่องการขยายฐานการตลาดเป็นเช่นไรบ้างครับ


เรามีแผนอีกสามปีข้างหน้าจะขยายไปต่างประเทศ ส่วนในประเทศท่าส่วนไหนพร้อมแล้วก็จะขยายตลาดไปทันทีเพื่อกระจายความสะดวกสบายให้ได้มากที่สุด และอีกจุดหนึ่งผ่านมาสามเดือนเราเซ๊ทไปหลายที่แล้วทางภาคเหนือก็จะมีเชียงใหม่กับพิษณุโลก ส่วนภาคใต้ก็จะมีทาง หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ภูเก็ต และพังงา ตอนนี้กำลังเล็งที่จะกะจายไปยังภาคอีสาน ส่วนตลาดต่างประเทศตอนนี้ก็กำลังจะขยายเซ็นเตอร์ไปยังประเทศลาว เขมร และเวียดนามแล้ว


ถามถึงจุดเด่น มิลย์กี้ เวย์ ทำไมถึงตอบโจทย์สำหรับผู้นำ ทำไมถึงตอบโจทย์กับผู้หาโอกาส และทำไมถึงตอบโจทย์แก่ผู้บริโภคครับ


ทุกสิ่งทุกอย่าง ทางทีมผู้บริหารมีความเข้าใจอย่างแท้จริงและมองโปรดักส์ของเราอย่างชัดเจนว่ามันคือสินค้าชนิดหนึ่งที่จะจัดการตลาดอย่างไรให้เหมาะสมที่สุดแค่นั้นยังไม่พอองค์กรของเรายังแสดงถึงความจริงใจให้เห็นว่าเรามีเป้าหมายหลักอย่างไรจะทำเพื่ออะไรบ้าง ซึ่งผมเป็นคนพูดอย่างไรทำอย่างนั้นท่าหากคุณไม่เชื่อทุกสิ่งทุกอย่างสามารถชี้วัดกันได้ด้วยเวลาและเวลาจะเป็นตัวตอบโจทย์ทั้งหมดเอง


จัดทำและเรียบเรียงโดยทีมงาน www.Thaimlmnews.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น