ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวกิฟฟารีน (Giffarine) : ดีเดย์ 18 ก.ย. เปิด กิฟฟารีน ลาว (Giffarine Laos) หวั่นกองทัพมดขนสินค้าจากไทยตัดราคา


กิฟฟารีน กาปฏิทิน 18 ก.ย. เปิดศูนย์ธุรกิจประเทศลาว ชี้บริษัทลงทุนเองเต็ม 100% แต่ยังแอบหวั่น กองทัพมดขนสินค้าจากไทยข้ามชายแดนเข้าขาย เพราะภาษีนำเข้าลาวแพง สินค้าของศูนย์ใหม่อาจต้องปรับขึ้นตาม ส่งผล ผู้บริโภคแห่ซื้อของหนีภาษี พร้อมเผยตัวเลข เติบโตครึ่งแรกปี 55 ขยับที่ 7% บ่นตัวเลขยังน้อย เหตุจากน้ำท่วมกระทบ 3 เดือนแรก ผลิตสินค้าไม่เต็ม 100% เดินหน้าครึ่งหลังบุกหนักวางทุน 70 ล้านบาท อัดสินค้าใหม่ ทำสปอตโฆษณายิงทุกช่อง 2 ตัว กระตุ้นยอดขาย หวังไต่เป้าให้ทันสิ้นปี 6 พันล้าน

พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 ก.ย.ที่จะถึงนี้ บริษัทยังได้เตรียมที่จะเปิดศูนย์ธุรกิจของกิฟฟารีน ในประเทศลาว โดยที่ศูนย์ธุรกิจแห่งนี้ จะมีความแตกต่างจากศูนย์ธุรกิจในประเทศ อื่นๆ คือ ศูนย์กิฟฟารีน ลาว จะเป็นของบริษัท 100% ในการเข้าไปเปิดลงทุน

โดยทุนในช่วงแรกจะอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท เนื่องจาก ราคาค่าเช่าสถานที่ ค่อนข้างที่จะแพงเป็นอย่างยิ่ง ส่วนเรื่องของ งานขาย ประเทศลาวจะมีปัญหาเรื่องของภาษีที่แพงในการนำเข้า สินค้า ซึ่งอาจกระทบในส่วนของราคาสินค้าในการจำหน่ายในประเทศ หมอต้อย เผยการเปิดศูนย์ธุรกิจในลาว หมอต้อย ยังแสดงความเป็นห่วง ในเรื่องของสินค้าที่คนลาวอาจหิ้วเข้าไปขายในประเทศ โดยการ นำเข้าจากไทย และขนเข้าทางชายแดน โดยในส่วนของสาขาต่างประเทศของบริษัท ขณะนี้มียอดขายรวมแล้วประมาณ 200-300 ล้านบาท

นอกจากนี้ หมอต้อยยังกล่าวถึงผลประกอบการในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาว่า จากผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในปีที่ผ่านมา ทำให้โรงงานของเราที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครไม่สามารถ ผลิตสินค้าได้นานกว่า 3 เดือน แต่หลังจากที่เราได้กู้โรงงานสำเร็จและกลับมาเดินสายการผลิตใหม่อีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถึงแม้บรรยากาศในช่วงต้นปีการจับจ่ายจะ ยังคงซบเซาสืบเนื่องมาจากผลกระทบน้ำท่วม จึงต้องใช้แผนการตลาดและแคมเปญที่เข้มข้นเข้ามาสนับสนุน ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายในครึ่งปีแรกเติบโตได้อย่างสวยงาม โดยมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก ยังอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อะบาโลน คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และ สกินแคร์

โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี คือ ม.ค.-มี.ค. ถึงแม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง ไปมากแล้ว บริษัทสามารถเดินเครื่องกลับ มาผลิตสินค้าได้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถ ผลิตสินค้าเต็ม 100% เนื่องจากความไม่พร้อมจากสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้บริษัท ทำการผลิตสินค้าได้เพียง 80% แต่ทางกิฟฟารีน ก็ได้ออกเป็น กิฟต์วอเชอร์ ให้กับนักขายแทน เพื่อเป็นการรับผิดชอบ หลังการสั่งซื้อสินค้าของนักขายไม่ได้ดังที่ควรจะเป็น

สำหรับกลยุทธ์การตลาดในไตรมาส ที่ 3-4 พิจารณาจากพฤติกรรมของผู้บริโภค ในช่วงครึ่งปีแรก ที่ระมัดระวังในเรื่องการ จับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างมาก และคาดว่าจะส่งผลต่อเนื่องในครึ่งปีหลังด้วย ทางเรา จึงมีแผนรับมือด้วยการทุ่มงบประมาณ 70 ล้านบาท จากงบประมาณทั้งปี 100 ล้านบาท เพื่อทำตลาดในครึ่งปีหลัง โดยตั้งเป้า ยอดขายในปีนี้ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยจะเน้นกลุ่มเป้าหมายเดิมเป็นหลัก พร้อมทั้งขยายเครือข่ายและผู้บริโภคไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ผ่านสื่อออนไลน์ และช่องทางต่างๆ ที่ทันสมัยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็น อย่างดี ซึ่งจะเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งเป็นหลัก เพราะวัยรุ่นสมัยใหม่นอกจากจะสนใจ เรื่องความสวยความงามแล้วเรื่องสุขภาพ ก็เป็นเทรนด์ที่มาควบคู่กันด้วย พ.ญ.นลินี กล่าวเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทาง บริษัทได้ทำการออกสินค้าเสริมอาหารชนิด ดื่มมาอีกหนึ่งตัว โดยจะเป็นสินค้าที่มีสาร กลูต้าไธโอน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาว ทั้งยังจะมีการออก โฆษณาผ่านสื่อทีวี เป็นช่องทางการสร้างการรับรู้หลักอีก 2 ตัว โดยจะเป็นสปอตโฆษณาทีวี 45 วินาที และ 15 วินาที เพื่อ ช่วยกระตุ้นงานขายของสินค้าตัวใหม่

สำหรับสินค้าชนิดดื่มที่ออกมาก่อนหน้านี้ อย่าง อะบาโลน คอลลาเจน นับเป็นสินค้าอีกหนึ่งรายการที่สร้างยอดขายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ โดยตั้งแต่สินค้าตัวนี้ลงสู่ตลาด สามารถสร้างยอดขายถึงปัจจุบันได้ถึง 12 ล้านขวด คิดเป็น แชร์จากยอดขายของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท เลยทีเดียว

ด้านนายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ทางกิฟฟารีนจะรุกหนักในการทำตลาดทุกช่องทางทั้งภาพยนตร์โฆษณา การโฆษณาทางวิทยุ กิจกรรมทางการตลาดและรายการส่งเสริมการขายต่างๆ ตามเทศกาล เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ตลอดจนการพัฒนา อัพเดตข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านกิฟฟารีน แชนแนลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มเครือข่าย และดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 6,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ กิฟฟารีนยังเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาตัวใหม่ล่าสุด ชุด เลิฟ ซีน จ่อคิวออกอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน กลูต้า เคอร์คิวม่า ซี-อี ภายใต้คอนเซปต์ คู่รักโรแมนติก ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกิฟฟารีนได้ออกอากาศภาพยนตร์โฆษณาชุด อะบาโลน ซิตี้ ไปแล้ว และยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชมอีกด้วย อีกทั้งเพลงประจำโฆษณา กลายเป็นเพลงฮิตที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างมากมาย

กิฟฟารีนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภค ตลอดจน กระบวนการเลือกสรรวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน จากทั่วทุกมุมโลก วันนี้กิฟฟารีนจึงเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานสากล และเติบโตเคียงคู่สังคมไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับของประชาชน ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีน ทั้งหมด 112 แห่งทั่วประเทศ โดยเปิดให้บริการ เดลิเวอรี เพื่อบริการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ปัจจุบันกิฟฟารีนมีสมาชิกแล้ว ประมาณ 6.2 ล้านรหัส คิดเป็นกลุ่มนักธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 3-5 แสนรหัส ที่เหลือ ก็จะเป็นกลุ่มสมาชิกผู้บริษัท และจากการ เปิด กิฟฟารีน แชนแนล ขึ้นเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเป็นช่องรายการทีวี ผ่านสัญญาณดาวเทียม ทำให้ ยอดการสมัครเป็นสมาชิกของบริษัทมากขึ้น อีกทั้งแบรนด์ของกิฟฟารีนก็เป็นที่รับรู้มากขึ้น ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในกลยุทธ์ต่างๆ ที่ทำในปีนี้ และเชื่อว่าตัวเลข 6 พันล้านที่วางในสิ้นปี ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอย่างแน่นอน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่1328 ประจำวันที่ 22-8-2012 ถึง24-8-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น