ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวขายตรง (MLM) : ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economics Community) ตอนที่ 1


ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economics Community AEC) คือการรวมตัวของชาติใน ASEAN 10 ประเทศ โดยมี ไทย, พม่า, ลาว, เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, บรูไน เพื่อที่จะให้มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน จะมีรูปแบบ คล้ายๆ กลุ่ม Euro Zone นั่นเอง จะทำให้มี ผลประโยชน์, อำนาจต่อรองต่างๆ กับคู่ค้า ได้มากขึ้น และการนำเข้า ส่งออกของชาติ ในอาเซียนก็จะเสรี ยกเว้นสินค้าบางชนิดที่ แต่ละประเทศอาจจะขอไว้ไม่ลดภาษีนำเข้า(เรียกว่าสินค้าอ่อนไหว)


Aseanจะรวมตัวเป็น ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนและมีผลจริงๆ จังๆ ณ วันที่ 1 มกราคม 2558 ณ วันนั้นจะทำให้ ภูมิภาคนี้เปลี่ยนไปอย่างมากอย่างที่คุณคิด ไม่ถึงทีเดียว
AEC Blueprint (แบบพิมพ์เขียว) หรือแนวทางที่จะให้AEC เป็นไปคือ
1. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน
2.การเป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถใน การแข่งขันสูง
3. การเป็นภูมิภาคที่มีการพัฒนาทาง เศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน
4. การเป็นภูมิภาคที่มีการบูรณาการเข้า กับเศรษฐกิจโลก
โดยให้แต่ละประเทศใน AEC ให้ มีจุดเด่นต่างๆ ดังนี้
พม่า : สาขาเกษตรและประมง
มาเลเซีย : สาขาผลิตภัณฑ์ยาง และสาขาสิ่งทอ
อินโดนีเซีย : สาขาภาพยนตร์และ สาขาผลิตภัณฑ์ไม้
ฟิลิปปินส์ : สาขาอิเล็กทรอนิกส์
สิงคโปร์ : สาขาเทคโนโลยี สารสนเทศ และสาขาสุขภาพ
ไทย : สาขาการท่องเที่ยว และ สาขาการบิน (ประเทศไทยอยู่ตรงกลาง ASEAN)
การเปลี่ยนแปลงที่จะเห็นได้ชัดๆ ใน AEC โดยอธิบายให้เห็นภาพเข้าใจง่ายๆ เช่น
- การลงทุนจะเสรีมากๆ คือ ใครจะลงทุนที่ไหนก็ได้ ประเทศที่การศึกษาระบบ ดีๆ ก็จะมาเปิดโรงเรียนในบ้านเรา อาจทำให้ โรงเรียนแพงๆแต่คุณภาพไม่ดีลำบาก


ไทยจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการบินอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะว่าอยู่ กลาง Aseanและไทยอาจจะเด่นในเรื่อง การ จัดการประชุมต่างๆ, การแสดงนิทรรศการ, ศูนย์กระจายสินค้า และยังเด่นเรื่องการ คมนาคมอีกด้วยเนื่องจากอยู่ตรงกลาง อาเซียน และการบริการด้านการแพทย์และสุขภาพจะเติบโตอย่างมากเช่นกันเพราะ จะ ผสมผสานส่งเสริมกันกับอุตสาหกรรรมการ ท่องเที่ยว (ค่าบริการทางการแพทย์ต่างชาติ จะมีราคาสูงมาก)


- การค้าขายจะขยายตัวอย่างน้อย 25% ในส่วนของอุตสาหกรรมบางอย่าง เช่น รถยนต์, การท่องเที่ยว, การคมนาคม, แต่อุตสาหกรรมที่น่าห่วงของไทยคือ ที่ ใช้แรงงานเป็นหลักเช่น ภาคการเกษตร, ก่อสร้าง, อุตสาหกรรรมสิ่งทอจะได้รับ ผลกระทบ เนื่องจากฐานการผลิตอาจย้ายไปประเทศที่ผลิตสินค้าทดแทนได้เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ โดยผู้ลงทุนอาจย้ายฐาน การผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศที่มี ค่าแรงถูกกว่า เนื่องด้วยบางธุรกิจไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะมากนัก ค่าแรงจึงถูก


- เรื่องภาษาอังกฤษจะเป็นสิ่งที่ สำคัญอย่างมาก เนื่องจากจะมีคนอาเซียน เข้ามาอยู่ในไทยมากมายไปหมด และมัก จะพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ แต่จะใช้ภาษา อังกฤษ (AEC มีมาตรฐานแจ้งว่าจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางใน AEC) บางทีเรานึกว่าคนไทยไปทักพูดคุยด้วย แต่เค้าพูดภาษาอังกฤษกลับมา เราอาจ เสียความมั่นใจได้ ส่วนสิ่งแวดล้อมนั้น ป้ายต่างๆ หนังสือพิมพ์, สื่อต่างๆ จะมี ภาษาอังกฤษมากขึ้น (ให้ดูป้ายที่สนามบิน สุวรรณภูมิเป็นตัวอย่าง) และจะมีโรงเรียน สอนภาษามากมาย หลากหลายหลักสูตร


- การค้าขายบริเวณชายแดนจะ คึกคักอย่างมากมาย เนื่องจาก ด่านศุลกากร ชายแดนอาจมีบทบาทน้อยลงมาก แต่จะมีปัญหาเรื่องยาเสพติด และปัญหาสังคมตาม มาด้วย


- เมืองไทยจะไม่ขาดแรงงานที่ไร้ ฝีมืออีกต่อไปเพราะแรงงานจะเคลื่อนย้าย เสรี จะมี ชาวพม่า, ลาว, กัมพูชา เข้ามา ทำงานในไทยมากขึ้น แต่คนเหล่านี้ก็จะมา แย่งงานคนไทยบางส่วนด้วยเช่นกัน และยัง มีปัญหาสังคม, อาชญากรรม จะเพิ่มขึ้นอีก ด้วย อันนี้รัฐบาลควรระวัง


- คนไทยที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ บาง ส่วนจะสมองไหลไปทำงานเมืองนอก โดย เฉพาะอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (ที่จะให้ สิงคโปร์เป็นหัวหอกหลัก) เพราะชาวไทย เก่ง แต่ปัจจุบันได้ค่าแรงถูกมาก อันนี้สมอง จะไหลไปสิงคโปร์เยอะมาก แต่พวกชาวต่าง ชาติก็จะมาทำงานในไทยมากขึ้นเช่นกัน อาจมีชาว พม่า, กัมพูชา เก่งๆ มาทำงาน กับเราก็ได้ โดยจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อ กลาง บริษัท software ในไทยอาจต้องปรับ ค่าจ้างให้สู้กับ บริษัทต่างชาติให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดภาวะสมองไหล


- อุตสาหกรรมโรงแรม, การท่อง เที่ยว, ร้านอาหาร, รถเช่า บริเวณชายแดน จะคึกคักมากขึ้น เนื่องจากจะมีการสัญจร มากขึ้น และเมืองตามชายแดนจะพัฒนา มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นจุดขนส่ง


- สาธารณูปโภคในประเทศไทย หากเตรียมพร้อมไม่ดีอาจขาดแคลนได้ เช่น ชาวพม่า มาคลอดลูกในไทย ก็ต้อง ใช้โรงพยาบาลในไทยเป็นต้น


- กรุงเทพฯ จะแออัดอย่างหนัก เนื่องจากมีตำแหน่งเป็นตรงกลาง ของอาเซียนและเป็นเมืองหลวง ของไทย โดยเมืองหลวงอาจมี สำนักงานของต่างชาติมาตั้งมาก ขึ้น รถจะติดอย่างมาก สนาม บินสุวรรณภูมิจะแออัดมากขึ้น (ปัจจุบันมีโครงการที่จะขยาย สนามบินแล้ว)


- ไทยจะเป็นศูนย์กลางอาหารโลก ในการผลิตอาหาร เพราะ knowhow ใน ไทยมีเยอะประสบการณ์สูง และบริษัท อาหารในไทยก็แข็งแกร่ง ประกอบทำเล ที่ตั้งเหมาะสมอย่างมาก แม้จะให้พม่าเน้น การเกษตร แต่ทางประเทศไทยเองคงไป ลงทุนในพม่าเรื่องการเกษตรแล้วส่งออก ซึ่งก็ถือเป็นธุรกิจของคนไทยที่ชำนาญ อยู่แล้ว


ปัญหาสังคมจะรุนแรงถ้าไม่ได้ รับการวางแผนที่ดี เนื่องจาก จะมีขยะ จำนวนมากมากขึ้น, ปัญหาการแบ่ง ชนชั้น ถ้าคนไทยทำงานกับคนต่างชาติที่ ด้อยกว่า อาจมีการแบ่งชนชั้นกันได้, จะมี ชุมชนสลัมเกิดขึ้น และอาจมี พม่าทาวน์, ลาวทาวน์, กัมพูชาทาวน์, ปัญหาอาจญา กรรมจะรุนแรง สถิติการก่ออาชญากรรม จะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากชนนั้นที่มีปัญหา, คนจะทำผิดกฎหมายมากขึ้นเนื่องจากไม่รู้ กฎหมาย ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ธุรกิจเครือข่าย ฉบับที่ 233 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 1-16 สิงหาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น