ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ปคบ.ลุยโฆษณาทีวีดาวเทียมยื่นอย. 50 เรื่องเข้าข่ายผิดดึง "กสทช.-สคบ." ร่วมตรวจสอบเข้ม


ปคบ.ฟิตจัด! หลังตั้งศูนย์เฝ้าระวังรายการ โทรทัศน์และโฆษณา เพียง 1 เดือน ส่ง 50 โฆษณา ให้อย.ตรวจสอบ แล้ว เผย ไดเรกต์เซลล์ มีมากสุด สินค้าอาหารเสริมยอดนิยมเข้าข่ายผิดเพียบ เตรียมผนึก กสทช. และสคบ.หา มาตรการคุมเข้มอีกชั้นหนึ่ง ยันพร้อมใช้กฎหมายเล่นงานผู้ประกอบการไม่ใช่ให้ลูกน้องมา "เป็นแพะ"

พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผกก. 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เปิดเผย กับสยามธุรกิจ ว่า หลังจากที่ทาง ปคบ. ได้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังรายการ โทรทัศน์ และโฆษณาที่ถ่ายทอดออกอากาศ ผ่านสื่อทีวีดาวเทียมมาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน ขณะนี้ ทางศูนย์สามารถส่งโฆษณา และรายการทีวีที่เข้าข่ายผิดกฎหมายส่งไปยังอย.ได้แล้ว

"จนถึงขณะนี้ ทางหน่วยปคบ. สามารถ บันทึกเทปรายการ และโฆษณาที่ฉายผ่าน ทางทีวีดาวเทียม ซึ่งเข้าข่ายต้องสงสัยว่า กระทำความผิด ส่งต่อไปยังคณะกรรมการ อาหารและยา หรือ อย. แล้วกว่า 50 ชิ้น ที่ทางหน่วยได้บันทึก และส่งไปให้อย. ตรวจสอบต่อไป" ผู้กำกับ ปคบ.กล่าว

จากการเฝ้าระวังติดตามของทาง ปคบ. เกี่ยวกับรายการ และโฆษณาที่ออก อากาศผ่านทางทีวีดาวเทียม ทางปคบ. จะบันทึก และส่งต่อไปยังอย.ในทุกวันวันละ ประมาณ 3-4 เทป ที่เข้าข่ายกระทำความ ผิด แต่อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ส่งเทปรายการไปยังอย. ตอนนี้เรื่องของความคืบหน้า ก็ไม่มีอะไรมาก

โดยจากจำนวนกว่า 50 เรื่องที่ทาง ปคบ.ส่งไปยังอย.ให้มีการตรวจสอบนั้น ส่วนใหญ่เป็นโฆษณา และรายการทีวี ที่มี รูปแบบของตลาดแบบตรง โดยเป็นการโฆษณาสินค้า และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคโทรศัพท์มาสั่งซื้อตามเบอร์ที่ระบุ ซึ่งในส่วน นี้ค่อนข้างที่จะเอาผิดยาก แต่ถือว่าเข้าข่าย การกระทำความผิด

"การโฆษณาของธุรกิจตลาดแบบตรงเข้าข่ายการกระทำความผิดเรื่องของ การอวดอ้างสรรพคุณ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิด ความรู้สึกคล้อยตาม นำไปสู่การโทร.สั่งซื้อ โดยในรายละเอียดของโฆษณาซึ่งเอาผิดยาก เนื่องจากผู้ประกอบการมักใช้คำในโฆษณาบางคำที่เป็นการเปลี่ยนจากผิด เป็นไม่ผิด ทำให้ทางหน่วยงานรัฐเข้าไปดำเนินคดีลำบาก ซึ่งทางปคบ. พยายามที่จะหารือ เพื่อหาข้อแก้ไขในการเอาผิดผู้ประกอบการเหล่านี้อยู่ โดยจะร่วมมือกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ในการหามาตรการ ขึ้นมาควบคุม อีกทั้งหาวิธีการที่จะใช้กฎหมายมาเอาผิดให้ได้ โดยการเอาผิดจะ ต้องเป็นการลงโทษไปยังผู้ประกอบการโดยตรง ไม่ใช่แพะ หรือคนที่มีตำแหน่ง น้อย ซึ่งบริษัทนั้นๆ นำขึ้นมารับโทษแทน" พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ กล่าว

ส่วนในเรื่องของกลุ่มสินค้าโฆษณา ที่เข้าข่ายต้องสงสัยกระทำผิด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งนิยมนำมาโฆษณาผ่านทางทีวีดาวเทียมเป็น อย่างมาก ทำให้เรื่องที่ส่งต่อไปให้อย. ส่วนใหญ่ ก็จะเป็นกลุ่มสินค้าเสริมอาหารเหล่านี้

การทำงานของกองปคบ.ในการตั้งศูนย์จับตาเฝ้าระวังรายการทีวี และโฆษณา โทรทัศน์ผ่านช่องทีวีดาวเทียมที่สุ่มเสี่ยง จะมีรูปแบบการทำงานโดยหน่วยปคบ.จะรับเรื่องว่า ช่องอะไร หรือรายการใดที่เสี่ยง ในการกระทำผิด ทางหน่วยก็จะเฝ้าระวังจับตากัน 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากที่เปิดศูนย์ บัญชาการดังกล่าวขึ้นมา ถือว่าได้ผลเป็น อย่างยิ่ง แต่ก็ยังติดในเรื่องของงบประมาณ ที่ยังน้อย ซึ่งปัจจุบันทางศูนย์ฯ ก็มีโทรทัศน์ เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งดูจะไม่เพียงพอ ที่จะตรวจสอบช่องรายการทีวีดาวเทียมที่มีกว่า 100 ช่อง
โดยการทำงานของปคบ. จะเน้นไป 2 เรื่องหลัก คือ เรื่องโฆษณาที่ไม่ผ่านการ ขออนุญาตจากทางอย. และ 2.เรื่องของการ โฆษณาสินค้าในรูปแบบที่โอ้อวดเกินจริง

พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ได้กล่าวเตือนว่าอยากให้ผู้ประกอบการมีความจริงใจกับ ผู้บริโภค ยึดถือจรรยาบรรณในการทำธุรกิจเป็นสำคัญ ไม่เอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค โดยเฉพาะเรื่องของสินค้าเสริมอาหาร ซึ่งมักจะพบว่า ผู้ประกอบการใส่ยา แผนปัจจุบันลงไปผสม อย่างเช่น ผสมยาพาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการปวด ผู้บริโภคซื้อไปกินก็จะรู้สึกว่าหายจากอาการป่วย ซึ่งจะมีผลกระทบในอนาคต เมื่อรับเข้าไปจำนวนมาก ซึ่งผู้บริโภคต้อง ไตร่ตรองก่อนซื้อสินค้า เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อ ของคนที่กระทำความผิด


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1330 ประจำวันที่ 29-8-2012 ถึง31-8-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น