ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวกิฟฟารีน (Giffarine Thailand) : ปักธงลุยตลาด AEC "หมอต้อย (พญ.นลินี ไพบูลย์)" วอนรัฐดูภาษี-6ด.โต7%

หมอต้อย โดดขึ้นเวทีเสวนา Innovation : A New Era of AEC ร่วม แบงก์ กรุงไทย แชร์ประสบการณ์สร้าง กิฟฟารีน



ด้วยใจถึงใจดูแลกว่า 300,000 คน บนพันธกิจบริหารความคาดหวัง พนง.-นักขาย-ผู้บริโภค เผยเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนพร้อมรับมือลุยล่วงหน้านำรองแล้ว 4 ประเทศ เล็ง เวียดนาม-อินโดฯ ต่อวอน รัฐ สร้างความเป็นธรรมมาตรการภาษีสินค้าแข่งเพื่อนบ้าน แจง 6 เดือนไปโลดโต 7% คาดสิ้นปีแตะ 6,000 ล้านบาท

พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัทกิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยภายในงานเสวนาหัวข้อ Innovation : A New Era of AEC นวัตกรรมนำไทยกล้า...ท้า เออีซี เพื่อเผยแพร่แนวคิดและเส้นทางพุ่งทะยานสู่ความเป็น 1 ใน AEC ที่ธนาคารกรุงไทยจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันดูแลคนอยู่ 2 กลุ่ม 1 คือฝ่ายผลิตในโรงงานกิฟฟารีนประมาณ 1,000 คน และกลุ่มพนักงานประจำ 600 คน กับนักธุรกิจอิสระกิฟฟารีนอีกประมาณ 300,000 คน


ที่โรงงานก็จะประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์และเภสัชกร ประมาณ 100 คน ที่เหลือฝ่ายผลิตทั้งหมด ในส่วนของการตลาดก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วน เช่นกัน พนักงานประจำ 600 คน อีกส่วนหนึ่ง คือ นักธุรกิจอิสระ ประมาณ 300,000 คน ที่คอยกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ประมาณ 5 ล้านคน ทุกวันนี้หมอคิดว่าหมอไม่ได้เป็นนักธุรกิจ แต่หมอคิดว่าหมอเป็นครูที่มีหน้าที่คอยบริหารความคาดหวังของพนักงาน และคอยบริหารความมั่นคงกับนักธุรกิจอิสระ และก็บริหารความคาดหวังของผู้บริโภค พญ.นลินีกล่าว และว่า

ทั้งหมดนี้มาจากกลไกที่ต้องทำงานทั้งหมดอยู่ 3 อย่างคือ 1.ต้องสร้างแรงบัลดาลใจตลอดเวลา 2.ต้องทำให้คนของกิฟฟารีนทั้งหมาดมีวิธีคิด 3.ต้องมีวิธีการ โดยเฉพาะเรื่องราวของการดูแลจิตใจคนเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดที่ผู้บริหารสูงสุดซึ่งทำตัวเป็นเหมือนครูต้องคอยเล่าประสบการณ์ให้ทีมงานฟัง เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยประสบการณ์และต้องเรียนรู้อยู่ตลอด

สำหรับการเตรียมตัวกับการเปิดประชาเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC (Asean Economic Community) นั้น พญ.นลินีกล่าวย้ำว่า หลังเปิด AEC จะมีบริษัทขายตรงจากต่างประเทศแห่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทขายตรงคนไทยก็จะรุกเข้าไปในต่างประเทศมากขึ้นเช่นกัน โดยแต่ละบริษัทจะชูจุดเด่นของตัวเองเป็นกลยุทธ์สำคัญ

เราจะต้องเรียนรู้ประเทศที่เราจะไปให้มากที่สุดก่อนการตัดสินใจออกไป สำหรับภาครัฐอยากจะขอความเป็นธรรมว่า เวลาที่เราเปิดประเทศการที่เรามีคู่ค้าในประเทศอาเซียนทั้งหมด บางรายการบางสินค้ามันขาดความยุติธรรม เช่นสินค้าแบบเดียวกันของเขาเข้ามาหาเราภาษี 0% แต่เราไปในประเทศเขายังไม่ 0% ปรากฏแต่ละประเทศนี่ยังไม่ใช่เพราะว่าประเทศเขายังจนอยู่เขายังรับระเบียบทั้งหมดไม่ได้ สุดท้ายก็อย่าคิดไปพึ่งใครพึ่งตัวเองดีที่สุด คนไทยจะต้องไม่แพ้ใครทั้งนั้นแต่ถ้าจะแพ้ก็คือแพ้ใจตัวเอง

ทั้งนี้ พญ.นลินี ยังเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ธุรกิจเครือข่ายถึงการรับมือกับประชาเศรษฐกิจคมอาเซียนของบริษัทกิฟฟารีนว่า บริษัทมีนโยบายเตรียมรองรับไว้แล้ว และกำลังขยายธุรกิจไปสู่ทุกๆประเทศในอาเซียน ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรกโตของปีนี้ก็โตประมาณ 7 เปอร์เซ็น และคาดว่าสิ้นปีหากไม่มีน้ำท่วมหรืออะไรที่รุนแรง ยอดขาดทั้งหมดน่าจะเกือบ 6,000 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังยังคงเน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง และการแทรนนิ่งนักธุรกิจอิสระพร้อมเตรียมออกผลิตภัณธ์ใหม่ในเดือนกันยายนนี้

ซึ่งเรามองว่าเรามีความเป็นต่อ เพราะว่าเรามีโครงสร้างของเครือข่ายผู้ใช้สินค้า และเราก็มีสินค้าที่คิดว่า ประเทศในอาเซียนจะมีอากาศคล้ายๆกัน ผิวพรรณคล้ายๆกัน สินค้าของเราที่ขายดีในประเทศไทย ก็น่าจะทำตลาดที่ประเทศในอาเซียนได้ไม่อยากอยู่แล้ว

สำหรับแผนขยายธุรกิจไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนของกิฟฟารีนนั้น ก่อนหน้านี้ พญ.นลินีเคยให้สัมภาษณ์ว้าว่า เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)ในปี 2558โดยปัจจุบันบริษัทสามารถนำธุรกิจเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ แล้ว 4 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา พม่าและมาเลเซียขณะที่สิ้นปี 2555 นี้มีแผนที่จะขยายธุรกิจเข้าไปในอินโดนีเซีย และปี 2556 จะขยายเข้าไปในเวียดนาม

ทั้งนี้การขยายธุรกิจเข้าไปในกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัทจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไปปีละ 1 ประเทศโดยในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้จากตลาดต่างประเทศที่ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีรายได้ 100 ล้านบาท เนื่องจากราคาสินค้าที่จำหน่ายในต่างประเทศสามารถแข่งขันกับคู่แข่ง ได้และกำแพงภาษีมีการปรับลดลงซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าเท่ากับราคาที่ขายในไทย ขณะที่ภาพรวมรายได้ของบริษัทในสิ้นปี 2555 คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า7% จากปี 2554 ที่มีรายได้ 5,488 ล้านบาท


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:นสพ.ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ฉบับที่ 234 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-31 สิงหาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น