ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประเดิม! 29 บ. รับตราสคบ."จิรชัย"ย้ำไม่อ่อนข้อขายตรงไร้สมาคม







936405_538516872866412_364981161_n (Mobile)

 


29 บริษัท สนองนโยบาย รัฐ ยื่นขอรับ "ตราสัญลักษณ์ สคบ." ผ่าน หลังคาราคาซังมานาน ชี้ส่วนใหญ่ให้ธนาคารการันตี เบี้ยประมาณ 5 แสนบาทต่อปี ด้าน "จิรชัย" ฉีกข่าวลือที่ว่า "สคบ." ยอมอ่อนข้อเปิดโอกาสให้บริษัทไร้สังกัดสมาคมขายตรงเข้าร่วมโครงการ ย้ำชัด! กฎต้อง เป็นกฎ ค่ายไหนอยากได้ต้องมีสมาคมสังกัด เพื่อง่ายต่อการ คัดกรอง


นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เปิดเผยถึงความคืบหน้าของนโยบาย "ตราสัญลักษณ์ สคบ." กับ "สยามธุรกิจ" ว่า ขณะนี้เรื่องของการรณรงค์ให้กลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจขายตรงเข้ามาขอรับตรา สคบ.คืบหน้าไปมาก โดยล่าสุดมีบริษัทที่ผ่านเกณฑ์การขอรับตรา สคบ. แล้วทั้งหมด 29 บริษัท จากจำนวน 353 บริษัทที่ยังดำเนินธุรกิจขายตรงอยู่


"เรื่องของตราสัญลักษณ์ สคบ. ที่ เป็นนโยบายของรัฐนี้ ตอนนี้มี 29 บริษัท ที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด และสามารถได้รับตราสัญลักษณ์ สคบ. โดยบริษัทที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด มีคุณสมบัติที่ สคบ.ตั้งขึ้น อย่างครบครัน โดยบริษัทที่ผ่านเกณฑ์ ก็จะมี อาทิ "บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด" "บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด" และ "บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" เป็นต้น ซึ่งบริษัทที่ผ่านเกณฑ์มานี้ทั้ง 29 บริษัท ล้วน เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในวงการขายตรงไทย" จิรชัย เผย


โดยตราสัญลักษณ์ สคบ.นี้ ทางสคบ.จะมีการมอบในวัน สคบ. คือ วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นกลุ่มบริษัทขายตรงกลุ่มแรกที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ สคบ. ตั้งขึ้น เพื่อขานรับนโยบายตรามาตรฐานดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ สคบ.ก็จะทำพิธีมอบ ตรา สคบ.ในทุกไตรมาส โดยที่จะดูในส่วน ของจำนวนบริษัทที่ได้รับ หากเยอะก็จะรวมแล้วมอบเป็นไตรมาส หากน้อยก็อาจเป็นงานย่อยต่อไป ซึ่ง สคบ.ต้องการเชิญ ชวนทุกบริษัททำตามเงื่อนไขเพื่อขอรับตรา สคบ. โดย สคบ.ก็จะมอบตราให้อย่าง ต่อเนื่องเช่นกัน


อย่างไรก็ดี ในช่วงต่อไปหลังจากที่มีการมอบตรา สคบ.ให้กับบริษัทขายตรงแล้ว สคบ.ก็จะทำในเรื่องของข้อมูลสินค้า ซึ่งปัจจุบันพบว่า มีเพียง 3-4 บริษัทเท่านั้น ที่รัฐมีข้อมูลสินค้าที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้หน่วย งานรัฐต้องติดตามต่อไป


ในช่วงก่อนหน้านี้ ในส่วนของการทำประกันการันตีบริษัท นับว่าเป็นปัญหาที่ทำให้ตรา สคบ.ยังไม่สามารถดำเนินการ ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยผู้ค้ามองว่า การ ทำประกันเป็นเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากทุกบริษัทก็มีการประกันในส่วนของสินค้า และบริการอยู่แล้ว การจะต้อง ทำประกันเพิ่มกับบริษัทประกันดูจะเป็นเรื่องเกินความจำเป็นซึ่งในเรื่องนี้ ทาง สคบ.ได้ออกตัวเลือกเพื่อให้บรรดาบริษัทได้เลือกใช้ในการรับประกัน


โดย 1.เปิดโอกาสให้ทางธนาคาร เข้ามามีส่วนในการรับประกัน และการันตี บริษัท 2.การเปิดโอกาสให้บริษัท หรือสมาคมขายตรงได้จัดตั้งกองทุนเยียวยา ขึ้นมาเพื่อเป็นการประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคหลังการใช้สินค้า ของบริษัท และ 3.การให้บริษัทขายตรงเข้ามาทำประกันกับบริษัทประกันที่ร่วมกับ สคบ.


ในประเด็นนี้ "จิรชัย" กล่าวว่า บริษัทส่วนใหญ่ใน 29 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์ จนได้รับตรา สคบ.นี้ หันไปเลือกใช้บริการ ของธนาคาร เพื่อให้ทางธนาคารเป็นผู้ การันตีบริษัท โดยเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต่อปี ซึ่งเป็นเรื่องที่บริษัทขายตรง เข้าใจ และยอมรับได้ จึงต่างพากันหันเข้า มาให้ธนาคารการันตีเป็นส่วนใหญ่


อย่างไรก็ตาม นอกจากสิ่งที่เป็นปัญหา คือ เรื่องการทำประกันเพื่อให้เกิด ความน่าเชื่อถือแล้ว ปัญหาของการขอรับ ตรา สคบ.ยังมีในเรื่องของการที่ สคบ. ออกกฎว่า บริษัทขายตรงที่จะสามารถขอรับตรา สคบ.ได้จะต้องเป็นบริษัทที่มีสังกัดสมาคมขายตรงไม่สมาคมใดก็สมาคมหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจกับหลายบริษัทที่ไม่ได้สังกัดสมาคม


โดย ศ.เกียรติคุณ ดร.อัศวิน วัฒนปราโมทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โดกุดามิ เอเชีย จำกัด ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า "การที่ สคบ. เปิดโอกาสให้แต่บริษัท ที่มีสังกัดสมาคมอยู่ เพื่อเข้าขอรับตราสัญลักษณ์ สคบ. เป็นเรื่องที่ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากตนคิดว่า บริษัทที่มีสมาคมสังกัด ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นบริษัทที่ดีกว่า บริษัทที่ไม่มีสมาคม สังกัดเพราะไม่ว่าสมาคมใดที่มีอยู่ ณ วันนี้ ก็ใช่ว่ามีแต่บริษัทน้ำดี โดยที่ สคบ.เอาอะไรมาวัดว่า บริษัทใดดีไม่ดีอย่างไร"


"สคบ.ควรตั้งมาตรฐานการขอรับตราสัญลักษณ์ สคบ.ให้มีความชัดเจน ยกตัวอย่างตรามาตรฐาน "มอก." ที่มีมาตรฐานคุณภาพของสินค้าที่จะเข้ารับอย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าของบริษัทใด มีสังกัดอย่างไรยังไง ซึ่ง สคบ. ควรนำวิธีนี้ไปตั้งมาตรฐานบริษัทที่จะเข้ามาขอรับตราแทนที่จะแยกชนชั้น ว่าบริษัท ที่จะเข้ามาขอรับตรา สคบ.นั้น จะต้องมีสังกัดสมาคมใดสมาคมหนึ่ง"


"ในวันสัมมนามอบใบดำเนินธุรกิจที่ผ่านมามี 353 บริษัทที่ลงทะเบียนรายงานตัวว่ายังดำเนินธุรกิจอยู่ แต่เมื่อแยกเป็นบริษัทที่มีสังกัดสมาคมทั้ง 3-4 สมาคม ก็มีไม่ถึง 100 บริษัทด้วยซ้ำ แล้วอีกกว่า 250 บริษัท จะทำอย่างไร ทั้งๆ ที่เป็นเสียงส่วน ใหญ่ด้วยซ้ำ ซึ่งการที่ สคบ.จะเปิดรับตรา สัญลักษณ์ สคบ.นี้ ควรตั้งมาตรฐานที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าต้องเป็นบริษัทสังกัดสมาคม ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วยกับภาครัฐ" อัศวิน แย้ง


โดยในประเด็นที่ "อัศวิน" แย้งขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ สคบ. เปิดโต๊ะสัมมนาและบอกถึงกฎเกณฑ์บริษัทที่จะเข้ามาขอรับตรา สคบ.ว่าต้องเป็นบริษัทที่มีสังกัดสมาคม


จากการโต้แย้งนี้ "จิรชัย" กล่าวว่า การที่ สคบ.ตั้งกฎว่าบริษัทที่จะเข้าขอรับตรา สคบ.ได้ต้องมีสังกัดสมาคม ก็เพื่อที่จะกรั่นกรองบริษัทขายตรงในระดับแรกก่อน โดยเปิดโอกาสให้แต่ละสมาคมได้เป็นผู้กรั่นกรอง โดยกฎระเบียบนี้จะดำเนินต่อไป ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีข่าวลือ ว่าล้มเลิกกฎนี้ก็ตาม


"สคบ.ต้องมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน เพราะในช่วงที่ผ่านมา เราโอนอ่อนให้มาก แล้ว ซึ่งหากรัฐไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ในหลายข้อก็จะทำให้เกิดปัญหา และ สคบ. ขอย้ำว่า บริษัทที่จะเข้ามาขอรับตรา สคบ. ได้นั้น จะต้องเป็นบริษัทที่มีสมาคมขายตรง สังกัดเท่านั้น" จิรชัย ย้ำกติกาเสียงแข็ง

สิ่งที่กล่าวมา สคบ.ย้ำว่า สิ่งนี้ก็ทำเหมือนธุรกิจทองคำที่ต้องมีสมาคมการันตี ร้านทองก่อน ก่อนที่ สคบ.จะให้ตราสัญลักษณ์ เพราะต้องยอมรับว่า วันนี้ สคบ.มีกำลังคนน้อย จะให้เข้าไปการันตี หรือตรวจสอบด้วยตัวเองเห็นจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งวันนี้สมาคมขายตรงคือ ต้นน้ำ สคบ.ทำได้เพียง เป็นปลายน้ำ ซึ่งทั้งหมดต้องช่วยกัน


ทั้งนี้ ในวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา สคบ.ได้จัดงานวันคุ้มครองผู้บริโภคขึ้น ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งทางหน่วยงาน ได้มีการออกบูธต่างๆ ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจร่วมงาน อีกทั้งยังมีการ เปิดตัวศูนย์รับเรื่องร้องเรียน โดยร่วมมือกับห้างโลตัส, บิ๊กซี และปั๊มปตท.ทั่วประเทศ รวมทั้งภายในงานยังมีพิธีมอบตราสัญลักษณ์ สคบ.ให้กับทั้ง 29 บริษัทขายตรงที่ผ่านเกณฑ์ดังที่กล่าวมาอีกด้วย


 


 


Credit By :http://www.siamturakij.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น