ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โฮมช็อปปิ้งเดือด "ทีวี ไดเร็ค" ฮึดสู้!!! เพิ่มหน้าตัก...รับมือต่างชาติยึดอาเซียน







ทรงพล-ชัญมาตรกิจ (Mobile)

 


"ทีวี ไดเร็ค" หรือ TVD เปิดแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2555-2560) 4 ข้อ 1.เสริมรายได้ 2.หาทุนสร้างความแกร่งด้านการเงิน 3.สร้างความ ยั่งยืน และ 4.ดันการเติบโต ตั้งเป้าปี 2560 ยอดขายแตะ 5,555 ล้านบาท เตรียมกลยุทธ์ ระดมทุน หวังเพิ่มอาวุธสู้บริษัทโฮมช็อปปิ้งต่างชาติ หลังตัวเลขชี้ชัด แบรนด์นอกเฮโลปักธงใช้ไทยเป็นฐานลุยอาเซียน


นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichannel Mar-keting) เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์องค์กรขึ้นในช่วงก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และล่าสุดแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2556-2560) ของบริษัทได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว


โดยแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะครอบคลุม 4 ด้าน คือ 1.เสริมสร้างรายได้อย่างหลากหลายและต่อเนื่อง คือ เน้นการขยายฐานการตลาด และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ไม่ต่ำกว่าปีละ 500,000 ราย ผ่านทางสื่อต่างๆ อาทิ Free TV, Satellite TV, Cable TV 2.เสริมสร้าง ความแข็งแกร่งของฐานะการเงินและการจัดหาแหล่งเงินทุน จากทิศทางธุรกิจ ที่มีการขยายตัวสูง บริษัทจึงมีการเจรจา กับพันธมิตรที่มีชื่อเสียงหลายราย เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและเพิ่มความ หลากหลายของสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม และเพื่อนำมาซึ่งผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น


ส่วนแผนยุทธศาสตร์ประการที่ 3 จะเน้นการเสริมสร้างความยั่งยืนของ บริษัท ส่วนนี้จะเน้นหนักด้านการสนับสนุน เบื้องหลัง เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต และ 4.สร้างการเติบโต โดยการร่วมทุนกับพันธมิตรและการรวมกิจการ โดยบริษัทมีการเจรจากับพันธมิตรหลายราย และล่าสุด บริษัท ได้ร่วมกับ Fuji TV และผู้ประกอบการทีวี ช็อปปิ้งจากประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และ เกาหลี เพื่อร่วมกันผลิตรายการ เอเชีย ช็อปปิ้งคิงส์ ถือเป็นการเปิดตลาดและสร้างโอกาสการขายสินค้าที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยไปสู่สายตาลูกค้าในเอเชีย


"เมื่อกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาจะทำให้ ธุรกิจโฮมช็อปปิ้งในประเทศไทยมีขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันกลุ่มทุนเหล่านี้ก็จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการเข้าสู่อาเซียน ทำให้ตลาดยังเติบโตได้อีกมาก และในฐานะ ที่บริษัทดำเนินธุรกิจมากว่า 13 ปี นับว่ามีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีแผนยุทธศาสตร์องค์กร เพื่อกำหนดทิศทางและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งผู้บริหารและพนักงานจะได้นำไปปฏิบัติ ทั้งนี้แผนยุทธศาสตร์ ดังกล่าวมีเป้าหมายว่า ในปี 2560 บริษัทจะมียอดขายแตะระดับ 5,555 ล้านบาท"


"คงจำกันได้ว่า ย้อนไปเมื่อปีก่อน บริษัทประสบปัญหาไฟไหม้โกดังเก็บสินค้า ทำให้เสียหายไปกว่า 82 ล้านบาท แต่เมื่อปีที่แล้ว บริษัทก็พัฒนาจนมียอดขายอยู่ที่ 2,237 ล้านบาท ทำให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตที่ 29.84% และเป้าหมายปีนี้จะเน้นหนักไปที่ Home shopping กับ TV shop-ping คือเราจะเน้นการบริการ, ยอดขาย และลดต้นทุนรวม ส่วนธุรกิจการส่งของ Home Delivery ถือว่าประสบความสำเร็จ ดีมาก มีการโตถึง 84% ซึ่งจะเดินหน้าต่อไป"


"ส่วนธุรกิจด้านแซตเทลไลต์ บริษัท เรามีสถิติ ข้อมูลการตลาดเพียงแห่งเดียว ทำให้บริษัทชั้นนำในญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาด TV shopping ในเมืองไทย เพราะถือเป็นตลาด ที่น่าสนใจ ทำให้ TV Direct มีจุดแข็งตรงที่ มีข้อมูล สถิติ ตัวเลข ทำให้หลายบริษัทต่าง-ชาติต้องมาขอข้อมูลจากเราไปทำตลาด อาทิ True GS, GMM CJ และ Shop Global ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมา บริษัทได้นำสินค้าชุดชั้นใน Genie Bra มาจำหน่ายและขายได้ถึง 270,000 ตัว ทำให้ปีนี้บริษัทเตรียมจะสร้าง แบรนด์ในเมืองไทย พร้อมทั้งปีนี้เราจะเน้นการทำประชาสัมพันธ์สินค้ามากขึ้น เพราะเท่าที่ผ่านมา เราประชาสัมพันธ์แต่ในองค์กร เท่านั้น"


ในส่วนของการร่วมทุน "ทรงพล" เผยว่า "โดยการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติครั้งนี้ เราจะถือหุ้นอย่างน้อย 70% ซึ่งเป็น การรองรับการเติบโตของบริษัท อีก 5 ปีข้างหน้าในส่วนของธุรกิจ ทีวี ดาวเทียม นั้น คงต้องรอดูว่า กสทช. จะออกกฎหมายอะไร ออกมากำกับ เราจึงจะค่อยปรับให้ไปด้วยกัน ได้ และฐานลูกค้าเรามีอยู่ประมาณ 2.1 ล้านคน ที่ซื้อสินค้าจาก ทีวี ไดเร็ค ขณะที่ สัดส่วนของรายได้ยอดขายบริษัททั้งหมดมาจากทีวี 45% คอลเซ็นเตอร์ 25% ค้าปลีก 25% และอื่นๆ 5%Ž"


ทั้งนี้ เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์ ดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในการประชุมก่อนหน้านี้จึงมีมติให้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 376 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตรา ไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 188 ล้านบาท เป็น 493.50 ล้านหุ้น มูลค่า ที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นค่า 246.75 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 117.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในจำนวนนี้จะเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 94 ล้านหุ้น ในสัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 4.50 บาท


สำหรับหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 23.5 ล้าน หุ้น จะรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ที่บริษัทจะจัดสรรให้ผู้ที่ใช้สิทธิ ซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยได้รับวอร์แรนต์ในอัตรา ส่วน 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์ โดย วอร์แรนต์ดังกล่าว มีอายุ 3 ปี สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญปีละ 2 ครั้ง ในอัตราส่วน 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นสามัญ ที่ราคาหุ้นละ 3.50 บาท ซึ่งจะทำให้บริษัท ได้รับเงินเพิ่มทุนรวมทั้งหมด 505.25 ล้านบาท เพียงพอในการนำไปลงทุนตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี





Credit By :http://www.siamturakij.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น