ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ข่าวขายตรง (MLM) : จี้รื้อกฎหมายไดโนเสาร์ ขายตรงดาหน้า...กระทุ้งรัฐ!!!







358901-01 (Mobile)


กลุ่มผู้บริหารบริษัทขายตรง และนักธุรกิจ อิสระระดับสูงดาหน้าออกมาจี้รัฐ ให้เร่งแก้กฎหมายขายตรงที่ล้าหลัง พร้อมหนุนสมาคมฯ TDNA ตั้งสำนักงานฯ ดูแลเทียบเท่า "กรม" ขึ้นมาดูแลธุรกิจโดยเฉพาะเหตุกฎหมายเก่า ไม่สามารถควบคุมธุรกิจที่เติบโตนับแสนล้านบาท ได้อีกต่อไป ชี้แก้กฎหมายลูกไม่มีประโยชน์ ต้อง รื้อทั้งฉบับ


จากประเด็น "สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย (TDNA)" ได้มีการรณรงค์เพื่อให้มีการแก้ไขกฎหมายขายตรงไทย กลายเป็นกระแสที่ สคบ.ในฐานะผู้กุมบังเหียนวงการขายตรง ต้อง ออกมาแจงว่าฝั่งรัฐก็เห็นด้วย แต่ด้วยเงื่อนของเวลาอาจต้องมีการ ออกกฎหมายลูกมาใช้ก่อน เห็นทีจะขัดกับคนขายตรงไม่น้อย เพราะ ต่างก็ต้องการให้รัฐมุ่งเร่งแก้ไขกฎหมายใหญ่ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลา ในการออกกฎหมายลูกมาใช้ เพราะคนขายตรงไม่เห็นถึงประโยชน์


+ "อีซี่ ฟาร์แมกซ์" จี้ 3 ข้อต้องเปลี่ยน


นายศุภชาติ อังคสุวรรณศิริ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท อีซี่ ฟาร์แมกซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "เรื่องของกฎหมายจะต้องมีการแก้ไข โดยเรื่องหลักๆ ที่ ต้องมีการแก้ไข ก็นับตั้งแต่เรื่องของการจำกัดความของนักขายตรง ซึ่งไม่เพียงแค่การขายสินค้าจากคนขายไปสู่ผู้ซื้อเท่านั้น แต่ต้องมีการจำกัดความให้ครอบคลุมถึงเรื่องของการสร้างเครือข่ายด้วย เพราะการทำขายตรงจะมีเรื่องของการสร้างเครือข่าย ซึ่งในจุดนี้ทางรัฐ จะต้องมีการจำกัดนิยามของนักขายตรงขึ้นมาใหม่"


2.รัฐควรที่จะตั้งหน่วยงานอะไรขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นในรูปแบบ "กรม" เพื่อที่จะเข้ามาดูแลธุรกิจขายตรงโดยเฉพาะเจาะจง เพราะที่ผ่านมา ขายตรงจะถูกดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ซึ่งมีหน้าที่หลักคือการดูแลคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งกำลังคนที่เข้ามาดูแลด้านธุรกิจขายตรงก็มีน้อย ทำให้ธุรกิจ ขายตรงไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น คือ ไม่มีหน่วยงานใดที่จะเป็นของรัฐที่เข้ามาส่งเสริมธุรกิจขายตรงอย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้ขาย ตรงยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่วงการธุรกิจขายตรง ปัจจุบันมีผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจ 10-20 ล้านคน ของประชากร ทั้งหมดของประเทศ ซึ่งรัฐต้องตั้งหน่วยงานอะไรขึ้นมาดูแลอย่างจริงจัง


3.การตั้งสำนักงาน หรือ กรม ขึ้นมาดูแลธุรกิจขายตรงอย่างเฉพาะ ก็จะทำให้การจัดการกับบริษัทที่ไม่ดีเร็ว และทันท่วงทีมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา อย่างที่กล่าวมา สคบ.มีกำลังคนที่น้อยเกินไป การกำกับดูแลดูจะไม่ทัน เมื่อมีบริษัทใดบริษัทหนึ่งทำความผิดตามกฎหมายขายตรง


+ "เวิลด์โปร" ชี้ถึงเวลารื้อ


นายพิสิษฐ์ เดชวรรณพงษ์ ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์โปร (ประเทศ ไทย) จำกัด ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายว่า ผมอยากให้มีกฎระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจนออกมาเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายสักที เพราะปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ไม่ได้มีการจดทะเบียน ซึ่งบางทีอาจไม่เห็น ความสำคัญของการจดทะเบียน แต่ก็ยังประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง


"ทุกวันนี้ธุรกิจขายตรงมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากมาย ทำให้การส่งสินค้า หรือ การติดต่อด้านต่างๆ รวดเร็วไปหมด แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นตามมาเพราะเทคโนโลยี คนที่เก่งกฎหมายอาจฉลาดแกมโกงด้วยการใช้ช่องโหว่ของกฎหมายขายตรงหลีกหนีการตรวจสอบและหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองแต่ฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงคนอื่นที่เดือดร้อน"


"พิสิษฐ์" กล่าวในตอนท้ายว่า "เรื่องของกฎหมายขายตรงนี้ ถึงเวลาแล้วที่กฎหมายจะต้องเปลี่ยนแปลงและบังคับใช้ให้ทันสมัย ซึ่งควรแก้ไขและคลอดฉบับใหม่ ออกมาได้แล้ว ไม่ใช่ยึดใช้แต่กฎหมายในปี 2545 เพราะหากรัฐบาลไม่เหลียวแลยังไงธุรกิจขายตรงก็ยังดูเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และการหลอกให้คนมาเสียเงินอยู่ดี ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องแก้ไขและยกระดับธุรกิจขายตรงเสียที"


+ "แซนสยาม" บอกต้องตั้ง "กรม" เสียก่อน


นายปธิกร โยทองยศ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัท แซนสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า "ทุกวันนี้หลายสิ่งหลายอย่างทั้งในสังคม รวมไปถึงธุรกิจขายตรงก็มีการพัฒนาไปเป็นอย่างมาก กฎหมายขายตรงที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ก็เป็น พ.ร.บ.ที่ใช้มาถึง 10 ปี ซึ่งถือเป็นกฎหมายแรกของธุรกิจ ซึ่งดูแล้ว เมื่อเทียบกับการพัฒนาในปัจจุบัน ดูแล้วกฎหมายที่ใช้จะยังดูล้าหลังการพัฒนาของธุรกิจไปมาก"


กฎหมายขายตรงต้องมีการปรับให้เข้ากับยุคสมัย การทำงานต้องเพิ่มความรวดเร็วเข้าไป ซึ่งที่ผ่านมา สคบ. มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลธุรกิจขายตรง แต่ด้วยภาระหน้าที่ของ สคบ. ที่ต้องจับตาดูหลายธุรกิจ ทำให้อาจดูแลขายตรงไม่ทั่วถึง รวมทั้งคนที่ทำงานดูแลขายตรงก็มีน้อย เมื่อเทียบกับธุรกิจแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะกำกับดูแลอย่างทั่วถึง


รัฐควรที่จะตั้งหน่วยงานอะไรขึ้นมาเสียอย่าง เพื่อที่จะเป็นหน่วยงานที่จะคอยกำกับดูแลธุรกิจโดยเฉพาะ หรืออาจตั้งเป็น กรมขายตรงเลยก็ได้ เพราะเมื่อดูธุรกิจขาย ตรงให้ดี ธุรกิจนี้มีมูลค่าการตลาดที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งยังมีคนที่อยู่ในวงการอีกมาก ซึ่งอาจต้องถึงเวลาที่ขายตรงต้องมีหน่วยงานรัฐอะไรขึ้นมากำกับดูแลโดยเฉพาะเสียที เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ


+ "พีรเชษฐ์" ย้ำ ก.ม.ลูกไม่ช่วยอะไร


นายพีรเชษฐ์ ศรีพลัง นักธุรกิจระดับไดมอนด์แกรนด์พาราไดซ์ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผย "ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า กฎหมายขายตรง ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่มีความชัดเจนในเรื่อง ใดเลย ไม่ว่าบริษัทใดจะทำอะไรอย่างไร ก็ไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะหลายบริษัทสามารถพูดจากผิดให้กลายเป็นถูกได้ เนื่อง จากความคลุมเครือไม่ชัดเจนของกฎหมาย ใช้อยู่"


โดยไม่ว่าบริษัทใดจะทำผิดกฎหมาย ข้อไหนอย่างไร ก็สามารถเลี่ยงได้ว่าทำถูก การดูแลของหน่วยงานรัฐไม่ควรที่จะเป็น การดูแลจากหน่วยงานเล็กที่สังกัดหน่วยงาน ใหญ่ของรัฐ อย่างทุกวันนี้ที่ขายตรงถูกกำกับ ดูแลจากหน่วยงานหนึ่งใน สคบ. ซึ่งทั้งจำนวนคน และงบประมาณ ไม่สามารถดูแล ธุรกิจได้ทั่วถึงอย่างที่ควรจะเป็น


หากจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายขายตรง สิ่งแรกที่ต้องเปลี่ยนคือ หน่วยงาน ที่เป็นหลักในการดูแลธุรกิจ เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้ยังไม่มีขนาดที่ใหญ่พอ มีอำนาจพอ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายก็ดูไร้ซึ่งประโยชน์


โดยในช่วงที่ผ่านมาที่มีการใช้กฎหมาย ตัวนี้ รัฐก็พยายามที่จะคลอดกฎหมายลูกออกมาช่วยดูแลกำกับขายตรง แต่ที่ผ่านมา ก็ไม่เห็นจะมีกฎหมายลูกอะไรอย่างที่เอ่ยถึง การแก้ไขกฎหมายก็มีการพูดถึงว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง รื้อแล้วสร้างใหม่จนทุกวันนี้ก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง




Credit By :http://www.siamturakij.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น