ปรากฏการณ์เชือดเฉือนกันเองในหมู่สมาคมเริ่มอุบัติอย่างเป็นทางการ...หลังอำนาจในมือเริ่มถึงจุดเสื่อม...4สมาคม(MLM)และ1สมาคม(SLM)ต้องระดมมันสมองแก้เกมด่วนตีกันก่อนสมาคมMLMไทยจะเจอศรัทธาเสื่อมทั้งวงการเปิดปมจุดเด่น-ด้อยที่ควรสะสางก่อนยืนบนผืนผ้าใบใหม่...รับมือแข่งเดือดในการเปิดตลาดอาเซียนปี2558...!!
กลายเป็นมหากาพย์เรื่องราว เมื่อ สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย เลือกใช้เวทีสื่อเชือดเฉือนกันอย่างสนุกปาก เมื่อตำแหน่งที่ถูกวางตัว เป็นเพียงแค่ หุ่นเชิด ที่ไร้บทบาทการบริหารแบบเต็มใบ จนสร้างความเสื่อมเสียต่อการบริหารงานในคราบนายกสมาคมอุตฯ กลายเป็นข่าวโด่งดังทอล์คออฟเดอะทาวน์ในวงการขายตรง จนสมาชิกในกลุ่มแทบจะมุดแผ่นดินหนี
วิธีนี้ ถึงแม้จะหยาบกร้านไปหน่อย แต่เมื่อ หุ่นเชิด ที่จนตรอก ก็ย่อมมีทางเลือกที่จะหาทางออกไม่มากนัก จึงเลือกวิธีการโต้กลับอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ถึงแม้จะเสื่อมเสียทางด้านภาพลักษณ์ แต่ยังคงรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีส่วนตัวเอาไว้พอประมาณตน
การเลือกใช้เวทีสื่อในการโพนทะนา ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เมื่อนำไปเทียบเลียบเคียงกับเวทีของนักการเมืองที่มักเลือกใช้วิธีนี้กันบ่อย ๆ ก็ต้องบอกว่า เรียกความดังแบบชั่วข้ามคืน แต่ถ้าหากเลือกยื่นซองขาวอย่างเงียบ ๆ แล้วค่อยใช้วิธีเลือกปล่อยข่าวแค่บางฉบับ งานมันก็จะกร่อย ไร้รสชาติ แม้จะเป็นวิธีที่น่าจะเหมาะสมกว่าก็ตาม แต่สำหรับวงการขายตรงเลือกที่จะ เด่น มากกว่า ดับ โดยไม่รู้โชคชะตาในวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
เพราะวงการขายตรง มันเป็นเวทีของมวลชน
ถึงเวลาแล้วหรือยัง...ที่ผู้ประกอบการจะหันหน้ามาประสานมือ ก่อนที่วงการขายตรงจะกลายเป็นละครน้ำเน่า ที่สวมหัวโขนเล่นกัน...ที่นับวันสาดโคลนรุนแรง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเวทีการเมือง
งานนี้...3 สมาคม MLM และ 1 สมาคม SLM อีก 1 สมาคม MLM ที่กำลังจะแจ้งเกิดใหม่ในวงการ...อาทิ
1. สมาคมการขายตรงไทย (TDSA) : Thai Direct Selling Association
2. สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) : Thai Direct Sale Industrial Association
3. สมาคมนักการตลาดแบบตรงไทย (TDMA) : Thai Direct Marketer Association
4. สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย (TSDA) : Thai Direct Selling Development Association
5. สมาคมส่งเสริมธุรกิจขายตรงไทย : สมาคมใหม่ที่ตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการ
ควรหันหน้าเข้ามาปรึกษา ด่วน...เพื่อ ลด ละ เลิก ข่มกันเด่น...ลดระดับหันหน้า และเข้ามาปรึกษาหารือร่วมกัน
เพราะวันนี้ เกมการแข่งขันในอุตสาหกรรมขายตรงไทย ได้ถูกเปลี่ยนไปแข่งกับตลาดแมสอย่างค้าปลีก และไม่ใช่แย่งกันในสงครามน่านน้ำสีแดงที่ฟัดกันอย่างนัวเนียอีกต่อไป แต่มันเป็นการทำสงครามกับ น่านน้ำสีฟ้าและสีขาว กับฐานบริโภคใหญ่ที่ค้าปลีกชุบมือเปิบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...ไหน จะต้องแข่งกันในเวทีอาเซียน ทั้ง ๆ ที่ผู้ประกอบการไทยทั้งระบบ แทบจะไม่มีความพร้อมเอาเสียเลย
ย้อนรอยอดีตกาลกันสักหน่อย ทำไม.. จุดเริ่มต้นของสมาคมขายตรงไทย ถึงเดินไปไม่ค่อยสวย อาจเป็นเพราะความผิดพลาดจากสมาคมแรกที่เริ่มก่อตั้ง ถึงคำเขียนนี้อาจจะยัดเยียดและไม่ใช่เป็นความคิดที่ถูกต้องเสมอไป..แต่ก็มีส่วนถูกบ้างมิใช่หรือ เพราะการตั้งกฎระเบียบยิบย่อยที่ไม่ให้บริษัทเล็ก บริษัทน้อยเข้าไปอยู่ในสังกัดได้ง่าย ณ วันนั้น
กลายเป็นเกมที่นักธุรกิจขายตรงที่ไร้ต้นสังกัด ต้องปรับเกมสู้ศึกในวันนี้ เพราะต้องป้องกันตัวเองให้รอดจากปากเหยี่ยวปากกาที่ถูกใส่ร้าย...แม้สมาคมใหญ่จะมีถ้อยแถลงออกมา การไม่รับบริษัทเข้าเป็นสมาชิกได้ง่าย ๆ อาจเป็นเพราะธุรกิจขายตรงเพลานั้น มักถูกปะปนไปกับแชร์ลูกโซ่ จนแยกไม่ออกว่า บริษัทไหนขายตรงพันธุ์แท้ บริษัทไหนพันธุ์เทียม
ฉะนั้น การเป็น สมาคมพี่ใหญ่ ที่เกิดขึ้นเป็นสมาคมแรก จึงเลือกวิธีเอากฎหมู่มากกว่า...ที่จะเฟ้นรับสมาชิกไม่เลือกหน้า สมาคมพี่ใหญ่ ยังวางตัวแบบทรงคุณค่าและมีมาตรฐานสูงเฉียดฟ้าตามที่เคลมกันอยู่บ่อย ๆ
ขณะที่บริษัทอื่น ๆ ที่ไร้สังกัด เล็ก น้อย ใหญ่ ทั่ว ๆ ไปเปรียบเหมือน มดแดง ตัวเล็ก ๆ ที่คอยเฝ้าลูกมะม่วง แต่ไม่เคยได้มีโอกาสลิ้มชิมรส และโอกาสที่จะเข้าไปสังกัดนั้น ทำท่าว่าจะริบหรี่เต็มที
สมาคมน้อย ๆ จึงเริ่มก่อตัวขึ้น ท่ามกลางความไม่พร้อม ก่อเกิดสมาคมที่ 2 ตามมาติด ๆ เมื่อสมาคมที่ 2 ก็มิใช่ทางเลือกของผู้ประกอบการที่ยังไร้ต้นสังกัด สมาคมที่ 3 จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่อีกทางหนึ่ง...ฉะนั้น สมาคมที่ 4 ซึ่งเป็นสมาคมใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็มิใช่เรื่องที่ผิด เพราะมิอาจตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้ทั้งหมด...อีกเช่นเดียวกัน
ถามว่า...สมาคมที่ 5 6 7 และ 8 จะมีโอกาสเกิดขึ้นอีกหรือไม่...ต้องบอกว่า เป็นไปได้ ฟันธง!!
ถามว่าเกิดอะไรขึ้น.. สมาคมหลายสมาคมเกิดอาการลมปราณแตกซ่าน หรืออย่างไร...ต้องบอกว่าจะใช้เหตุผลใด ก็ย่อมกากบาท (ถูก) แทบทั้งสิ้น อาทิ
ข้อที่ 1. จุดยืนของแต่ละสมาคม วางตัวโอเว่อร์โหลด ตั้งตนเป็นสมาคมชั้นสูงเกินจนไม่เป็นที่ยอมรับ...ก็ถูกต้อง
2. นายกสมาคมฯ บางคนถูกวางตัวเป็น หุ่นเชิด ไร้บทบาท อัออั้นทนไม่ไหว ก็เลยออกมาโจมตีกันเองต่อหน้าเวทีสื่อ เพราะอำนาจการตัดสินใจมีไม่เต็มใบ...ก็ถูกอีก
3. การวางตัวไม่เป็นกลางของนายกสมาคมฯ ชอบดึงบริษัทตัวเองมาเกี่ยวข้อง และวางตัวเป็นพี่ใหญ่ สอนบริษัทในสมาคมด้วยกันเอง...ก็ถูกอีกนั่นแหละ
4. การถูกรังแกจากหน่วยงานรัฐ แต่ไร้การเหลียวแลจากเพื่อนร่วมอาชีพ...ก็นับว่าถูกต้อง
และ 5. เหตุผลที่สำคัญที่สุด นั่นคือ ความสมาน - สามัคคี ของแต่ละสมาคม ไม่มี เพราะต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนเป็นของตัวเอง...สำหรับข้อนี้ให้คะแนนถูกต้องเป็นที่สุด
ในเมื่อกฎเกณฑ์การตั้งสมาคมใดสมาคมหนึ่ง วางตัวไม่เป็นกลาง เลือกที่รัก มักที่ชัง...จนเป็นช้อยส์ไม่น่าให้เลือกเข้าสังกัด...
คราวนี้ สมาคมขายตรง ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ หากสามารถลบจุดด้อย - เพิ่มจุดเด่น...แล้วขีดเส้นหนา ๆ ยืนบนความเป็นกลางได้สำเร็จ ก็ย่อมมีโอกาสสร้างความสำเร็จมากกว่า เพราะมีบทเรียนหลายบท นำมาแก้ไขให้ถูกทางได้...
เพราะอย่าลืมว่า...ธุรกิจเครือข่ายขายตรงเป็นธุรกิจเฉพาะ และอยู่กับมหาชนคนเครือข่าย ที่สามารถสร้างพลังวัตรและความยิ่งใหญ่ด้วยตัวเองได้ไม่ยาก เนื่องจากมีฐานสมาชิกเป็นมหาชน นับหมื่น นับแสนคน ฉะนั้น การที่จะเลือกตั้ง สมาคมใหม่ ด้วยตัวเอง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
และสมาคมที่ผ่าน ๆ มา ก็จะถูกเมิน และบริษัทสมาชิกที่ยังไม่มีต้นสังกัด สามารถกด LIKE เลือกได้ตามใจชอบ เพราะสมาคมของคุณ จะไม่กด LIKE และเป็นผู้ถูกเลือกอีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ สถานการณ์เกมการแข่งขันถูกเปลี่ยน เปลี่ยนไปแข่งในสนามที่ใหญ่กว่าเดิมในวันข้างหน้า นั่นคือ การเปิดเวทีประชาคมอาเซียน ปี 2558 ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ดังนั้น...1 ใน 5 สมาคม ควรสังคายนาตัวเองใหม่ หันหน้าเข้าหากัน ปรึกษาหาทางออกร่วมกัน เพื่อไม่ให้อุตสาหกรรมขายตรงไทยบอบช้ำไปกว่านี้ หันมาจับมือแล้วสู้รบปรบมือกับตลาดอาเซียนดีกว่า เพราะวันนี้...เวทีที่ใช้วัดความยิ่งใหญ่ ด้วยการแบ่งแยกดินแดนกันบริหารในอดีต มันหมดเวลาลงแล้ว และร่อยหรอลงไปทุกที ทุกที...เพราะฉะนั้นร่วมกันสู้ ดีกว่ายืนรอวันตาย เพราะหลายค่ายที่บอกว่า พร้อมสู้ในเวทีอาเซียน คุณพร้อมจริงหรือ...ลองถามย้ำกับตัวเองอีกครั้ง
แจงจุดยืนนายกฯคนใหม่
ส.ใหญ่ยินดีต้อนรับส.น้องใหม่
นายกิจธวัช ฤทธีราวี นายกสมาคมการขายตรงไทย แถลงข่าวในวันที่ขึ้นรับตำแหน่งนายกฯ คนใหม่ ทันทีที่ทีมข่าวยิงคำถามถึงสมาคมใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น นายกฯ คนใหม่คิดอย่างไรกับสมาคมที่ 4 (MLM) ก็ได้รับคำตอบว่า ในฐานะที่เราเป็นองค์กรเดียวกัน อยู่ร่วมอุตสาหกรรมเดียวกัน คงต้องบอกว่าสิ่งที่เราทำได้ในสมาชิกของสมาคมการขายตรงไทย คือ เราคงมีจุดยืนของเรา แล้วก็คิดว่าจะเปิดกว้างเปิดความคิดที่จะมาร่วมงานกับเพื่อน ๆ สมาชิกที่อยู่ในธุรกิจองค์กรเดียวกัน ตราบใดที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน มีอุดมคติเดียวกัน มีดุลวิธีการบริหารจัดการ ในการยกระดับการจัดการช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรม มันก็เป็นเรื่องที่ดี ไม่มีปัญหาอะไร สามารถแลกเปลี่ยนพูดจากันได้เหมือนกัน
อย่างที่ทราบกันว่า เราก็เคารพสิทธิของทุก ๆ ท่าน ผู้ประกอบการหรือผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคน ก็อยากจะย้ำอีกครั้งว่า เราเปิดประตูกว้าง อีกอย่างเราก็ไม่กล้าเรียกตัวเองว่า เป็นสมาคมพี่ใหญ่ เพียงแต่ว่าเราก็อยู่ด้วยกันแล้วก็มีจุดยืนที่เข้มแข็ง สร้างเอกภาพให้กับสมาคมฯ ของเรา แต่อาจจะมีปัจจัยใดก็ตามที่ไม่แน่ใจ ที่ไปเปิดสมาคมใหม่เป็นสิทธิ์ที่พึงกระทำแล้ว ก็ไม่ได้คิดอะไร อย่างที่บอกเรามีกฎเกณฑ์ในการรับสมาชิกชัดเจน เบื้องต้นเราไม่ได้มีข้อจำกัดนะ ว่า ห้ามเป็นสมาชิกของสมาคมใดสมาคมหนึ่ง อย่างที่ผมเรียนแล้ว ก็ย้ำไปครั้งหนึ่งแล้วว่า ตราบใดสมาชิกท่านนั้น มีความสอดคล้อง มีคุณสมบัติตามที่สมาคมฯ เรากำหนด เราก็ยินดี ถ้าเชื่อมาตรฐานสมาคมการขายตรงไทย ก็เชิญเข้ามาสมัครสมาชิกได้
สมาคมน้องใหม่แถลงจุดยืน
นโยบายภายใต้ว่าที่นายกฯ
ทางด้านนายนิโรธ เจริญประกอบ อดีตเลขาธิการ สคบ.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ นีโอ ไลฟ์ และตัวเต็งนายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจขายตรงไทย กล่าวถึงประเด็นการจัดตั้งสมาคมใหม่ในงานเกียรติยศ นีโอ ไลฟ์ ประจำเดือนที่ผ่านมา ว่า จากตัวเลข 40 บริษัทของธุรกิจขายตรง ที่เข้าไปค้นข้อมูลจากกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และค้นข้อมูลการเสียภาษีรายได้ ซึ่งได้ตัวเลขที่เป็นทางการค้าแล้ว นำเอามารวมเป็นมูลค่าการตลาดเป็นตัวเลขจริง ที่ยื่นแสดงรายได้กับทางราชการ ตัวเลขออกมาเท่าไหร่ผมจำไม่ได้ แต่เอาตัวเลขกลม ๆ มารวมไว้แล้วกัน เมื่อประมาณปี2548 - 2549ยอดอุตสาหกรรมขายตรงรวมเติบโตสูงถึง 100,000 กว่าล้านบาท
แต่มูลค่าการตลาดก็จะมียอดขายของค่าย ยูนิลีเวอร์ แยกออกไป เพราะยูนิลีเวอร์แยกออกมาเป็นแผนกของธุรกิจขายตรงแผนกหนึ่งเท่านั้น ส่วนค่าย ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ ก็เช่นเดียวกัน ก็แยกเป็นขายตรงแผนกหนึ่ง รวมถึงค่าย สหฟาร์มฯ ที่แยกออกมาเป็นแผนกหนึ่งเช่นเดียวกัน ถ้าหักตัวเลขตรงนี้ออกไป ยอดขายตรงรวมก็จะเติบโตประมาณ 78,000 ล้านบาทต่อปี
ปัจจุบันตัวเลขจะเป็นเท่าไร ผมว่ารวบรวมจริง ๆ แล้วน่าจะทะลุแสนล้าน ถือเป็นตัวเลขมากมายมหาศาล จากบริษัทขายตรงไทย 800 กว่าบริษัท น้อง ๆ นักข่าวลองไปค้นข้อมูลดูนะครับ ว่า สมาคม (MLM) ที่มีอยู่ 3 สมาคมของผู้ประกอบธุรกิจ นับรวมกันแล้วมีสมาชิกไม่เกิน 50 บริษัท ก็ไม่เท่าไหร่ ที่พูดถึงกรณีนี้มันไม่เกี่ยวกัน เพราะบริษัทที่จดทะเบียนหรือทำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย เหมือนว่า ทำไมใน 3 สมาคมมีบริษัทที่จดเบียนถูกต้องสมัครน้อยจัง
ยิ่งเดี๋ยวนี้มันนี่เกมมันทำผิดยากขึ้น ถึงจะมีวิธีฉลาดขึ้น แต่เนื่องจากข้อมูลข่าวสารมันมีมาก สื่อก็เฝ้ามองกันมาก แต่ทำไมบริษัทที่ทำถูกกฎหมาย มีบริษัทที่สมัครสมาชิกในสมาคมน้อยลง นี่คือมันเป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องพูด และนั่งคิดว่าถ้าเราจะตั้งสมาคมสักอีก 1 สมาคม เพราะยังมีอีกหลายแง่มุม ในสมาคมนี้ผู้ประกอบการยังไม่ได้ทำทั้งเนื้อหาที่จะขยายออกไปให้ประชาชนรู้จักขายตรงที่ชัดเจน ถูกต้องรอบด้าน ฉะนั้น การจัดตั้งสมาคมใหม่มันสามารถทำอะไรได้อีกเยอะ และจะเป็นสิ่งที่ดีกับองค์กรต่าง ๆ และสายสัมพันธ์ที่ไม่ใช่ธุรกิจเกี่ยวกับขายตรงก็ทำได้ เราจึงตั้งสมาคมขึ้นมาอีก 1 สมาคม แต่ต้องปิดไว้ก่อน เพราะต้องมีการจดทะเบียนให้ถูกต้องสมบูรณ์
TSDAเดินหน้าหาสมาชิกเพิ่ม
ก่อนรวมตัวตั้งสหพันธ์อาเซียน
ทางนายอนุวัฒน์ ธรมธัช อดีตเลขาธิการ สคบ. และ นายกสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย กล่าวถึงสมาชิกในสมาคมฯ ที่ขึ้นรับโล่เกียรติยศพิเศษ จาก ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงมหาดไทย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ว่า วันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับบริษัทขายตรง และสมาคมหลาย ๆ สมาคม และหลายบริษัทได้รับเกียรติจากสมาคมช่างภาพสื่อมวลชน ให้มารับรางวัลจากรองนายกฯ นับเป็นเกียรติประวัติของนักธุรกิจขายตรงคนไทยที่กำลังพัฒนาและกำลังก้าวไปข้างหน้า และทางสมาคมฯ ของเราอีก 3 ปีจะต้องไปเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จะทำให้ธุรกิจขายตรงนี้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของวงการธุรกิจของประเทศไทยได้อย่างยาวนาน
ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีจึงมีนโยบายเชิงรุก ซึ่งเราได้แถลงไปแล้วว่า เราจะนำสมาคมฯ ไปสู่เวทีอาเซียน แล้วเราจะได้พัฒนาบริษัทที่อยู่ในสมาคมฯ ของเราให้ได้มาตรฐานขายตรง ผมเองได้ทำงานกับสหพันธ์ขายตรงโลกที่มาจัดในเมืองไทย ก็จะจัดให้ธุรกิจขายตรงให้เป็นหนึ่งในสหพันธ์ขายตรงอาเซียน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้สมัครเข้าไปเป็นสมาชิก
แต่ต้องรวมตัวกันทั้ง 3 สมาคม เพราะการรวมตัวธุรกิจนี้ให้เป็นสมาพันธ์ของไทย จะจัดอยู่ในสหพันธ์อาเซียนแห่งโลกด้วย โดยนโยบายเด่น ๆ ของสมาคมฯ จะจัดให้นักธุรกิจได้ใบรับรองมาตรฐานในอาชีพขายตรง ก็ได้รับความนิยมอยู่ ปีนี้ก็จะจัดงานเป็นครั้งที่ 3 แต่ต้องรอให้มีการแต่งตั้ง เลขาธิการคุ้มครองผู้บริโภค ชัดเจนก่อน หลังจากนั้นเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนเราก็จะจัดงานกันอีกครั้ง นอกจากนั้นเราจะให้ความรู้กับบริษัทที่สังกัดของสมาคมฯ เราไม่ได้ไปขอร้องให้ใครขึ้นมา แต่บริษัทใดเห็นว่าสมาคมฯ นั้นทำประโยชน์ให้สมาชิกของสมาคมฯ และทำให้ธุรกิจขายตรงได้พัฒนาให้เป็นมาตรฐานขึ้น ทางสมาคมฯ ก็ยินดีต้อนรับทุกบริษัท ไม่ว่าคุณจะทำแผนอะไรก็แล้วแต่ นี่ก็เป็นนโยบายสำคัญของเรา และเราก็จะพัฒนากิจการของเราไปด้วย ตอนนี้เรามีสมาชิกอยู่ 14 บริษัทแล้ว ถ้าได้สัก 20 บริษัทก็จะเป็นการดีสำหรับปีนี้
สมาคมอุตฯออกอาการยุ่งเหยิง
นายกฯถอนตัว-เหตุกุมอำนาจไม่เต็มใบ
นายอัศวิน วัฒนปราโมทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ประกาศถอนตัวต่อหน้าสื่อมวลชุดใหญ่ที่มาทำข่าว ภายหลังจากไม่พอใจในตำแหน่งนายกฯ ที่ได้รับ นั่งบริหารได้ไม่เต็มใบ เพราะไม่ได้รับแต่งตั้งอย่างแท้จริง พร้อมแถลงข่าวผ่านสื่ออย่างเปิดเผยว่า
วันนี้เป็นโอกาสพิเศษ ผมอยากจะเรียนว่า สมาคมขายตรงไทยดำเนินกิจกรรมมา ณ วันนี้ เราเองก็ได้รับความเชื่อถือในสายตาของในหน่วยงานราชการพอสมควร ครั้งที่แล้วสื่อมวลชนเล่าให้ผมฟัง มีคำนิยามถึงสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยของเราว่า ไม่มีความประสงค์จะทำอะไรให้โดดเด่น ผมระลึกอยู่เสมอว่า การที่เราทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน เรื่องนี้นะเรื่องจริง ผมสำนึกอยู่เสมอ สุภาษิตเหล่านี้ใช้ได้ดีกับการทำงานของเรา
ผมอยากจะเรียนว่า ถ้าเป็นเรื่องของสังคมก็มุ่งมั่นที่จะช่วยในสังคมที่เราอยู่ ณ จุดนี้ให้มีความเจริญก้าวหน้ามั่นคง ก็เป็นหน้าที่ที่เราโดดเข้ามารับใช้สังคมในส่วนนี้ จึงจำเป็นจะต้องทำอะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์ก็จะทำ บัดนี้ที่เคยพูดมาทั้งหมด ผมคงจะยกเลิกและลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ หากผมทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่บทลงเอยวันนี้ผมยังทำงานไม่เสร็จสิ้น เมื่อไม่เสร็จสิ้นแต่ก็ต้องลาออกก่อน ก็ถือโอกาสกราบเรียนกับพี่น้องทั้งหลาย ในสถานะนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ก็ประกาศต่อหน้าพี่น้องสื่อทั้งหลายว่า ผม อัศวิน วัฒนปราโมทย์ ขอลาออกจากนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย และจะมีผลต่อเมื่อยื่นต่อคณะกรรมการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่ผมเป็นห่วงในการเริ่มประสานงานเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ได้ไปชักชวนบริษัทหลายบริษัทเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกในสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย แต่กลับได้ไม่เป็นผลเท่าไร เพราะมีสมาคมกำลังจะเกิดใหม่ และมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้การร่วมเป็นสมาชิกในการเชิญชวนไม่เป็นไปเท่าที่ควร ด้วยเหตุผลทั่วไปแล้วนี้ การที่ผมต้องทำงานให้เสร็จลุล่วงนั้น ต้องมีกำลัง มีคณะกรรมการที่เข้มแข็ง มีคณะกรรมการชุดหนึ่งที่ตั้งใจจริง มีความเห็นตรงกันในวัตถุประสงค์หลักของสมาคมฯ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อให้สมาคมฯ มีความเจริญยั่งยืนเป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขายตรงไทย เมื่อเห็นว่าไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ ก็คงไม่อยากเสียเวลาที่ต้องไปดึงให้มันช้าที่จะก้าวในการพัฒนาต่อไป ผมก็เห็นควรที่จะเปิดทางให้คนที่ทำหน้าที่ใหม่ระหว่างที่คณะกรรมการเลือกสรร ให้ทำหน้าที่นี้ต่อไป วันนี้ก็มีพี่น้องที่ประกอบกิจการขายตรงที่มาอยู่ในสมาคมฯ ซึ่งดำเนินการและได้มาแสดงตัวในที่ประชุมของคณะกรรมการสมาคมฯ ไปแล้วเมื่อต้น ๆ เดือนที่ผ่านมา เราถือโอกาสนี้ได้เชิญ 2 บริษัท ที่ได้แสดงตัวที่จะร่วมในสมาคมเข้ามาร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย ผมอยากจะฝากบรรดาพี่น้องเหล่าสื่อมวลชนว่า การใดที่ผมอาจจะทำให้กรรมการไม่พอใจ หรือทำเกินเลยสิ่งใดก็ตาม ผมขออนุญาต ต้องกล่าวคำว่า ขออภัย ผมก็ถือโอกาสนี้ที่มีคณะกรรมการอยู่พร้อมแล้ว ทั้ง คุณนาคา ฟูรังษีโรจน์ และ คุณศิริพร ธรรมภักดี และอีกหลายท่าน ๆ ที่ได้มาร่วมมือกัน ก็อยากจะให้ดำเนินงานต่อไป
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่325 ประจำวันที่1- 15 สิงหาคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น