ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

"ขึ้นทะเบียนนักขาย"อาจมีจริง







C--Users-jschum-Desktop-Business Etiquette (Mobile)


ว่ากันด้วยเรื่องของ "การขึ้นทะเบียนนักขายตรง"


จากความคิดที่หยิบโยง ธุรกิจขายตรงกับธุรกิจประกัน เข้าไปให้เหมือนว่ามีความคล้ายคลึงกัน จนเกิดคำถามว่า ทำไม ในเมื่อ 2 ธุรกิจนี้มีความคล้ายคลึงกัน เหตุใดการยอมรับจึงไม่เท่ากัน


กลายเป็นที่มาของการตั้งข้อสังเกต จนมีคนร้อง อ๋อ... จุดประเด็นขึ้นว่า เหตุที่ขายตรงไม่ได้รับการเชิดชูอย่างธุรกิจประกัน ก็เนื่องจากระเบียบ กฎ กติกา ในการควบคุมนักธุรกิจ นำมาซึ่งความต้องการเห็นนักธุรกิจอิสระในวงการขายตรง ได้รับ การขึ้นทะเบียนเป็นรายบุคคล


เพราะธุรกิจประกันจะมีการขึ้นทะเบียนนักขาย ทั้งยังมี การทำข้อสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นนักขายประกัน ทำให้ธุรกิจ ประกันกลายเป็นธุรกิจที่น่าเชื่อถือผู้คนยอมรับ นำพาวงการธุรกิจประกันถูกยกย่องเชิดชู สุดท้ายร่ำรวยไปถ้วนหน้า


แล้วทำไมธุรกิจขายตรงไม่ขึ้นทะเบียนนักขายอย่างเขา


จากคำถามกลายเป็นเหตุที่หน่วยงานรัฐ ผู้ควบคุมดูแลธุรกิจขายตรงโดยตรง ต้องหน้าตาตื่น พร้อมกับการผุดนโยบาย ว่า ต่อจากนี้ถึงเวลาที่นัธุรกิจขายตรง ต้องขึ้นทะเบียนนักขาย


"จิรชัย มูลทองโร่ย" เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. นับเป็นนายใหญ่ของ สคบ.ผู้หนึ่งที่ ชักเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้ก็มีการพูดถึงประเด็นนี้อยู่บ่อย


การขึ้นทะเบียนนักขายเป็นเรื่องที่มีการโต้เถียงอย่างหนาหู โดยคนที่อยู่ในวงการส่วนใหญ่ไม่ต้องการที่จะให้กฎ กติกา นี้ ถูกดันให้บังคับใช้ โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจอิสระ


ด้วยเหตุผลที่ว่า การขึ้นทะเบียนนักธุรกิจอิสระ นับเป็น เรื่องจำกัดมนต์เสน่ห์ของธุรกิจ อีกทั้งยังสร้างความยุ่งยากให้เกิดขึ้น


ส่วนบรรดาผู้ประกอบการ เจ้าของบริษัท ส่วนใหญ่ก็มอง ต่าง โดยต้องการให้มีการขึ้นทะเบียนนักขาย เพื่อแสดงตัวตน ของนักธุรกิจ และยิ่งหากมีการกระทำผิดขึ้น การจะตามตัวคน ผิด ก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น


ขึ้นกับไม่ขึ้น ความเห็นโต้แย้งไม่เสร็จสิ้น


สิ่งที่หน่วยงานรัฐจะต้องทำคือ คิดหามาตรการในการออกกฎขึ้นทะเบียน เอาให้ชัดเจน จำแนกข้อดีของการขึ้นทะเบียนนักขายว่ามีดีอย่างไร รวมถึงจำแนกข้อเสียของการขึ้นทะเบียนนักขายว่าผลเสียจะมีอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็ประชุม กับผู้รู้ของวงการ แต่ผู้รู้ในที่นี้ต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ของ ขายตรงอย่างแท้จริง เพื่อลงมติว่าจะเอาอย่างไร


ในมุมของผู้เขียน ไม่จำเป็นต้องหาบทสรุปด้วยการทำประชามติ หรือถามความคิดเห็นจากผู้ประกอบการทั้งหมด หรือนักธุรกิจขายตรงทั้งหมด


เพราะท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นข้อถกเถียงที่ยากหาข้อสรุป


รัฐต้องมีความชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร ขึ้นไม่ขึ้น สำหรับ ทะเบียนนักขาย เพราะที่สุดวงการขายตรงก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่รัฐออกมาอยู่ดี


แต่ก่อนจะออกก็ขอให้ใคร่ครวญให้ดี ถึงจะมีบ่น หรือด่า ตามหลัง ก็ขอให้เป็นเสียงส่วนน้อยของวงการ เพราะหากเป็น กลุ่มเสียงส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วย ก็จะพาวุ่นวาย


และก็ขอให้ทำอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง อย่าขยันแค่ช่วงแรก ไม่อย่างนั้นไม่ว่ากฎอะไร ก็จะกลายเป็น "ไฟไหม้ฟาง" เสียตลอด...




Credit By :http://www.siamturakij.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น